เครื่องยนต์ที่ทำงานได้ไม่เต็มสูบของ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ในที่สุดก็ เดินทางมาจนครบ 100 วัน ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เปิดสมัยประชุมสภาพอดี เตรียมจัดแถลงผลงานรัฐบาล เปิดตัวแคมเปญ ประชานิยมรูปแบบใหม่ ท่ามกลางมรสุมทางการเมืองทั้งในและนอกประเทศ

ยกแรกที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไปสดๆร้อนๆการแจกเงินหมื่นเฟสที่สอง 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่ง รมช.คลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ยืนยันว่ารัฐบาลจะแจกให้ทันก่อนวันตรุษจีนหรือก่อนวันที่ 29 ม.ค.2568 คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิในเฟสที่ 2 จำนวน 4 ล้านราย กรอบวงเงินงบประมาณที่ 4 หมื่นล้าน รัฐบาลจะเปิดให้มีการตรวจสอบสิทธิประมาณเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนเฟสที่ 3 ที่จะใช้วงเงินอีก 1.4 แสนล้าน จะเริ่มเดือน เม.ย.-มิ.ย.ปี 2568 หลังทดสอบระบบดิจิทัลวอลเล็ตเรียบร้อยแล้ว คาดว่าเฟสที่ 3 ที่จะแจกให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และจะแจกผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกร ที่เคยได้รับเงินดิจิทัลไปแล้วจำนวน 7 ล้านคน ในจำนวนนี้จะมีคนได้รับเงินช่วยเหลือเกษตรกรอีกรายละ 1,000 บาท โชคสองชั้น

การแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ก็จะมีการปรับโครงสร้างหนี้ พักการชำระดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 ปี แบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ หนี้ค่าบ้าน ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 3 ล้านบาท หนี้ค่ารถยนต์ ต้องมีหนี้ไม่เกิน 8 แสนบาท และ กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 3 ล้านบาท มีจำนวนลูกหนี้ที่เข้าข่ายประมาณ 2.3 ล้านบัญชี มูลหนี้ประมาณ 1.31 ล้านล้านบาท ซึ่งกลุ่มสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการจะได้รับ การลดอัตราเงินนำส่งสมทบกองทุนฟื้นฟู จากธนาคารพาณิชย์ จาก 0.46% ต่อปี เป็น 0.23% ต่อปี

เศรษฐกิจตกสะเก็ดในยามที่ โลกกำลังเดือด จะโทษว่าเป็นเพราะ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีรอบที่สองเสียทุกเรื่อง คงไม่ถูก เหตุการณ์ที่สำนักข่าวต่างประเทศยืนยันตรงกันว่า ยูเครน ได้ใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของ สหรัฐฯ เป็นขีปนาวุธระยะไกลโจมตีเข้าไปใน ดินแดนของรัสเซีย ในวันครบรอบ 1,000 วันของ สงครามรัสเซีย-ยูเครน อ้างว่า ได้รับการอนุมัติการใช้ขีปนาวุธระยะไกลจาก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งถ้ามองในมุมการเมือง อาจจะโทษว่าเป็นการวางยาของไบเดน ก่อนที่จะลงจากตำแหน่ง โดย รมว.ต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า การใช้ขีปนาวุธระยะไกล เท่ากับว่า ชาติตะวันตกต้องการที่จะยกระดับความขัดแย้ง ว้าวุ่นเลยทีนี้

...

การเมืองบ้านเราจะว่าวุ่นก็วุ่น จะไม่วุ่นก็ไม่วุ่น อึมครึมชอบกล การที่กรรมาธิการร่วม สส.-สว. มีมติ 13 ต่อ 9 เสียง ยึดการออกเสียงประชามติ 2 ชั้น เห็นชัดเจนว่าระหว่างกรรมาธิการจากภูมิใจไทยกับ สว. มีความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ ร่างกฎหมายประชามติต้องยื้อเวลาไปอีก 180 วัน หวานอมขมกลืนกันต่อไป

ส่วนเรื่องราวในสีกากียังมีพลิกได้อีกหลายตลบ เมื่อศาลปกครองแจ้งยังไม่มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการ เช่นเดียวกับการกลับบ้านอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเดือน เม.ย.ปีหน้า ออกหัวออกก้อย.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม