“อนุทิน” ย้ำจุดยืนพรรคภูมิใจไทย ยึดทำประชามติ 2 ชั้น เพื่อประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจอย่างแท้จริง ยัน ไม่มีความขัดแย้ง ยึดประชาธิปไตยใช้สิทธิ์โหวต ชี้ ถ้าแก้ไม่ทันสมัยนี้ ก็รอสภาชุดหน้า
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ถึงกรณี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ หากสภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติรัฐสภา ทำให้ต้องยืดระยะเวลา 180 วัน เตรียมหารือวิปรัฐบาลในการใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 137 วรรคท้าย ที่ระบุว่า หากเป็นกฎหมายการเงิน ระยะเวลา 180 วัน ให้ลดลงเหลือ 10 วัน ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตีความ แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงจุดยืนว่าควรจะเป็นการทำประชามติ 2 ชั้น หรือ Double majority ซึ่งจุดยืนตรงนี้เราก็เห็นความจำเป็นอยู่ เพราะพอมีประเด็นเรื่องเกาะกูด และการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ต่างๆ เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการแก้ไขกฎหมายให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการลงมติไปแล้วจะได้ไม่มีใครพูดว่าผิดพลาดในภายหลัง หรือว่าเราทำไม่รอบคอบ
“นี่เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย อะไรที่จะทำประชามติต้องเป็นการทำประชามติจริงๆ และประชาชนต้องมีส่วนร่วมจริงๆ เพื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับประเทศของเขา ไม่ใช่ประชามติของคนแค่มาออกเสียง”
...
เมื่อถามว่าหากนำผล กมธ.ร่วมฯ มาโหวตในสภาล่าง ก็จะยืนยันกรณีเสียงข้างมาก 2 ชั้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ เราแสดงเจตนารมณ์ของเราแล้ว ใครเห็นด้วยกับเราก็โหวตตาม ใครไม่เห็นด้วยก็โหวตไม่เหมือนกัน ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องเคารพ ยืนยันว่าตรงนี้ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้ง ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันได้ ใช้หลักการประชาธิปไตยในการตัดสิน สิ่งใดที่จะมาบังคับใช้ ส่วนประเด็นคำถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเสร็จภายในรัฐบาลนี้ตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างมีเงื่อนเวลา มีขั้นตอน ถ้าแก้ได้ก็แก้ ถ้าแก้ไม่ทันก็ต้องรอสภาชุดหน้า.