ไม่รู้ว่าได้ยาดีหรือมีสัญญาณบวกอะไร อาการฮึกเหิมของ “นายใหญ่บ้านจันทร์” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึงได้มาเต็มจนล้น ปราศรัยจัดหนักบนเวทีหาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี ก่อนให้สัมภาษณ์ทั้งสื่อไทย สื่อเทศโชว์ความเก๋า พร้อมอาการมั่นใจเกินเบอร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเงียบๆ เรียบร้อยอยู่เลย

ให้สัมภาษณ์โชว์วิสัยทัศน์ แผนการค้าลงทุนกับชาติมหาอำนาจแบบมีชั้นเชิง ยิ่งโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ท่าทีและแผนงานของไทยต้องละเอียดรัดกุม มีแผนสองรองรับความเดือด

แต่นโยบายการต่างประเทศของไทย ยึดหลักไม่เลือกข้างตามเดิม คุยสหรัฐอเมริกาแล้วต้องเจรจากับจีน บาลานซ์ความสัมพันธ์เรื่อยไปถึงผลประโยชน์การค้า การลงทุน

เตรียมเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม Brics ที่นำโดยมหาอำนาจอีกขั้วอย่างจีน รัสเซีย เพื่อขยายโอกาสด้านเศรษฐกิจ เป็นความท้าทายของไทยในเวทีโลก จะสามารถวางบทบาทตัวเองระหว่างมหาอำนาจสองขั้วได้ดีแค่ไหน

อดีตนักธุรกิจใหญ่อย่าง “ทักษิณ” จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ช่วยงานรัฐบาล ประคองลูกสาว “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเต็มที่

ส่วนงานการเมือง “นายใหญ่บ้านจันทร์” คงต้องเพลาๆ ลงบ้าง เพราะนิติสงครามยังตามถล่ม หลังออกมาเปิดหน้าลุยแค่วันสองวัน ประเด็นข่าวถูกโฟกัสรวมศูนย์ไปที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”

“นายกฯอิ๊งค์” และบรรดารัฐมนตรีค่ายเพื่อไทยต้องตอบคำถามเรื่อง “นายใหญ่” กันพัลวัน งานหลัก งานรูทีนของรัฐบาลโดนกลบข่าวมิดเลย

ขณะที่ฝ่ายต่อต้านซุ่มรอจับผิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้อหาครอบงำ สั่งการ เวทีหาเสียงอุดรธานีตัวตึงอย่าง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังโผล่ไปเฉย คงไม่ได้ไปเชียร์หรือให้กำลังใจแน่

...

แต่ “นายใหญ่” ออกตัวไว้แล้วไม่สะท้านคดีความ นิติสงครามแค่เรื่องจิ๊บๆเหมือนเดินเข้าซอยเจอหมาเห่า

น่าสนใจอาการมั่นใจของ “นายใหญ่” ไม่กังวลแม้คดีมาตรา 112 ที่บอกว่าตัวเอง

ตกเป็นเหยื่อ แถมยังออกมาย้ำกำหนดกลับบ้านของ “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าเป็นช่วงสงกรานต์ปีหน้าแน่นอน

ล้อกับสัญญาณบวก หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร พร้อมส่งข้อสังเกตถึงศาลรัฐธรรมนูญว่าเรื่องไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง อัยการสูงสุดจึงไม่รับไว้ดำเนินการ

บรรดาทีมกฎหมาย แกนนำพรรคเพื่อไทยประเมินความน่าจะเป็นวันที่ 22 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญอาจตีตกไม่รับคำร้อง เพราะอัยการสูงสุดที่เปรียบเหมือนพนักงานสอบสวน รายงานว่าคดีนี้ไม่มีมูล

สไตล์ “นายใหญ่” อยู่นิ่งไม่ได้ปากไวใจร้อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์ดีใจหรืออะไรเลยออกมาย้ำแนวทางลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โหมโรงประชานิยม

ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 งานนี้ จัดให้กลุ่มคนสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คัดกรองแล้วมีประมาณ 4 ล้านคน งบประมาณพอจ่ายไหว ก็จัดให้เป็นแต๊ะเอียตรุษจีน

แต่ก็มีคำถามตามมาว่าแล้ววัยรุ่นหนุ่มสาวคนทำงานรัฐบาล จะแจกกี่โมง เพราะกลุ่มนี้กลุ่มใหญ่สำรวจเงินในคลังแล้วยังไม่พอแจก อาจต้องรอลุ้นช่วงสิ้นปีหน้า

เหนืออื่นใดสุดท้ายแล้ว "ดิจิทัลวอลเล็ต" ก็ไม่ได้สร้างพายุหมุนเศรษฐกิจ กลายเป็นแค่ลมพัดใบไม้ไหว เพราะไม่สามารถแจกตูมเดียว ต้องแบ่งจ่ายหลายครั้งและยังไม่รู้อีกกี่เฟส แถมยังจ่ายเป็นเงินสด ไม่ตรงปก ตามแผน

แต่มองอีกทางถ้าไม่ทยอยแจกก็โดนชาวบ้านด่าเช้าเย็น จึงกลายเป็นว่าต้องทำไปตามที่หาเสียงไว้เท่านั้น

เสียของ เสียโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจ จากที่เคยพูดกันเซ็งแซ่ ตอนนี้ไม่มีแล้วอารมณ์ตื่นเต้น

ต้องไปคิดหาทำนโยบายมาสเตอร์พีซอันใหม่ ตอนนี้ทำได้แค่หว่านประชานิยม ลด แลก แจก แถม ตามสไตล์ดั้งเดิมไปก่อน ไม่มีอะไรหวือหวา หรือต้องรอเวลาให้เปิดกาสิโน ขายหวยบนดิน

มองในมุมการเมือง รัฐบาลแจกเงินช่วงนี้หนีไม่พ้นถูกครหาโจมตีเอาเปรียบสนามเลือกนายก อบจ.

เล่นยิงปืนใหญ่นัดเดียว นกตายทั้งประเทศ

หลังสถานการณ์หลายจังหวัดไม่สู้ดี คู่แข่งสาดกระสุนหนักจน คนเพื่อไทยปาดเหงื่อ

แว่วว่าสนามเมือง อบจ.ดอกบัว จ.อุบลราชธานี จัดหนักถึงหัวละ 2 พัน

มือดีถือโอกาสปล่อยของภายใต้ภาวะรัฐบาลงบประมาณตึงมือ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม