“พล.ร.อ.จิรพล” ย้ำ หน้าที่ ทร. ดูแลเส้นเขตแดนทางทะเลไทย ส่งซิกรัฐบาลเรือฟริเกตของมันต้องมี แบะท่า เรือดำน้ำได้หรือไม่อยู่ที่ ครม. เชื่อ “ภูมิธรรม” เข้าใจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางเป็นประธานในพิธีวันสถาปนากองทัพเรือ ครบรอบ 118 ปี ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ จากนั้น พล.ร.อ.จิรพล กล่าวถึงเรื่องที่อดีต ผบ.ทร. ฝากถึงกรณี MOU 2544 กับกระแสสังคมอย่างไรบ้าง ว่า ตนเคารพความคิดทุกท่าน เพราะล้วนเป็นห่วงกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเกษียณไปนานเท่าไหร่แล้วก็ตาม ย้ำว่ากองทัพเรือมีหน้าที่ดูแลพื้นที่ และปัจจุบันก็ดูแลเส้นเขตแดนทางทะเลที่ประเทศไทยประกาศ เราดูแลได้อย่างเรียบร้อย และไม่มีความขัดแย้งเส้นเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีกระแสสังคมถึง MOU 44 กองทัพเรือในฐานะหน่วยงานทางเทคนิคที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเขตแดนทางทะเล คือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เตรียมจัดงานเสวนาในเรื่องนี้ ในเรื่องเส้นเขตแดนในทะเลและข้อตกลง-ข้อขัดแย้งต่างๆ วันที่ 3 ธ.ค.นี้ ที่เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้ารับฟังได้

พล.ร.อ.จิรพล กล่าวต่อไปว่า ในวาระที่กองทัพเรือครบรอบ 118 ปี ก็ดำเนินการให้เป็นไปตามที่ให้นโยบายไว้ 5 ด้าน เพื่อให้ภารกิจสำเร็จได้โดยมีความปลอดภัยของกำลังพล และเครื่องมือ รวมถึงยานรบ โดยให้ปีหน้าเป็นปี Safety Navy 2025 เน้นเรื่องการทบทวนองค์ความรู้ของแต่ละหน้าที่

...

ขณะเดียวกัน ผบ.ทร. ยังย้ำการเดินหน้าโครงการจัดหาเรือฟริเกต 2 ลำ ในงบประมาณปี 2569 ว่า เป็นความจำเป็นที่เราต้องจัดหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่เราจะได้รับด้วย ราคาค่อนข้างสูงจึงจะทยอยจัดซื้อ คาดว่าในระยะที่ 1 จะจัดหาครั้งละ 2 หรือ 3 ลำ และพักไปอีกสักระยะหนึ่งค่อยจัดหาเพิ่มเติมใหม่ อีก 2-3 ลำ ขึ้นอยู่กับงบประมาณปี 2569 รวมถึงกรณีที่ต้องดูว่าจะมีเรือดำน้ำ อยู่ด้วยหรือไม่ ตอนนี้ก็แกว่งกันอยู่นิดนึงว่าเรือดำน้ำจะเดินหรือไม่เดิน แต่เรื่องเรือฟริเกตก็ต้องบอกกับรัฐบาลว่าเรามีความจำเป็นต้องจัดหา

เมื่อถามว่าถ้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่อนุมัติแก้ไขสัญญาเรื่องเครื่องยนต์ จะตั้งงบเรือดำน้ำได้ทันในปีนี้หรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล ตอบว่า ตนเตรียมไว้ 2 แผน ได้แก่ แผนที่ 1 คือมีเรือฟริเกต 2 ลำแน่ๆ เป็นตัวยืนพื้นของงบประมาณปี 2569 ส่วนเรือดำน้ำจะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ ครม. แผนที่ 2 คือ ในกรณีไม่ได้ก็จะเสนอเรือฟริเกต 3 ลำ อย่างไรก็ตาม ถ้าได้เรือดำน้ำก็จะหยุดเรือฟริเกตไว้แค่ 2 ลำ

ทางด้านกระแสข่าวที่ว่ามีการชี้นำให้ซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ จากจีน ผบ.ทร. ตอบในเรื่องนี้ว่า กองทัพเรือต้องการอย่างน้อย 2 ลำ ถ้าได้ 3 ลำก็จะดี แต่ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะเห็นใจแค่ไหน และมีกรอบงบประมาณเพียงพอ หรือไม่ เมื่อถามต่อไปอีกว่า จากการได้หารือกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีท่าทีอย่างไร พล.ร.อ.จิรพล ระบุว่า “ท่านยิ้มเลยครับ ผมก็เข้าใจท่านว่า ท่านต้องตรวจทุกอย่างและเอกสารเยอะต้องใช้เวลานิดนึง ผมไม่กดดันท่านครับ แต่ผมคิดว่าท่านทราบดีว่ากองทัพเรืออยู่ในสภาพไหน ถ้าท่านเข้าใจก็จะตัดสินเองว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ”