หมดโปรฯ “ตั๋วช้าง” สลายวงทีม “คารมเป็นต่อ” ไปพร้อมกับสภาพ “เละเป็นโจ๊ก” จับกระแสแกะรอยโพยแต่งตั้งบิ๊กตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ลงไปถึงผู้บัญชาการ “นักวิ่ง” เลยเฮโลเปลี่ยนหมุดหมาย
ถนนทุกสายมุ่งสู่คฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า ชิงเข้าวินกิน “มาม่า”
โฟกัส “ตัวเต็ง” เก้าอี้ทองคำฝังเพชร เทรนด์มาแรงล้วนแต่ “หน้าเหลี่ยม-ประแป้งหน้าขาว” เส้นสายเชื่อมโยงขาใหญ่ในรัฐบาลเพื่อไทย ถือตั๋วการเมืองหรา
กระตุกภาพ “รัฐตำรวจ” ภายใต้ระบอบ “ทักษิณ” หวนคืนมาในมโนฝ่ายระแวง
ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ก็ต้องยึดขุมกำลัง “กรมปทุมวัน” วางกำลังตำรวจเป็น “มือไม้”
เป็น “ม้าใช้” คอยคุมเกมความมั่นคง อารักขาฝ่ายถืออำนาจการเมือง
แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงเรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์แฝงอันมิชอบ เรียกค่าตอบแทนเป็นส่วยเทาๆดำๆ โดยเฉพาะการใช้อำนาจตำรวจในการกลั่นแกล้งขั้วอำนาจตรงข้าม
ชนวนไวไฟจะลามพึ่บทันที ตามหัวเชื้อเก่าที่เคยไหม้วายวอดมาแล้ว
มีบทเรียนให้จดจำ ส่อแววซ้ำรอยเสี่ยง แต่เรื่องของอำนาจและผลประโยชน์มันอาจเป็นม่านบังตา ทำให้มองไม่เห็น “รอยวิบาก”
ในจังหวะสถานการณ์ที่ “นายใหญ่” ยังสลัดไม่พ้นบ่วงกรรม
จับตา 22 พฤศจิกายนนี้ ลุ้นคดีเดิมพัน ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟันธงรับหรือไม่รับพิจารณาคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2
เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
...
คำร้องลอยๆเหมือนข้อหาเบาๆ แต่ผลทางคดีหนักอึ้งมหาศาล
เพราะมันผูกเป็นปมมัดโยงกรณีการใช้สิทธิผู้ต้องขังวีไอพี เช็กอินยาวบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แทนการชดใช้ความผิดอยู่ในเรือนจำตามที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ
โดนกล่าวหาพฤติการณ์จัดอยู่ในโหมด “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย”
มูลฐานความผิดเดียวกับอดีตพรรคก้าวไกลของกองทัพส้ม ที่โดนศาลรัฐธรรมนูญลงดาบฟันถึงขั้นยุบพรรค จากเงี่ยงปมคมๆของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตัดสิทธิกรรมการบริหาร แบนยาวทางการเมือง
ตามท้องเรื่อง แค่ศาลรัฐธรรมนูญประทับรับฟ้อง รอกระบวนการตัดสิน
เท่านี้ก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ “นายใหญ่” กับลูกข่ายได้ลุ้นกันฉี่เหนียวแน่
และสถานการณ์จะเกี่ยวโยงไปถึงรัฐบาลผสมเพื่อไทย ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชินฯ
ตกอยู่ในสถานภาพ “ลูกผีลูกคน” บนทางสองแพร่ง
แกว่งตามฐานเชื่อมหลวมๆ รอยหักจุดเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่โดนศาลรัฐธรรมนูญฟันร่วงเก้าอี้ ฐานแต่งตั้งรัฐมนตรีขัดจริยธรรม ทั้งๆที่มั่นอกมั่นใจผ่านด่าน แต่ก็ตกม้าตาย
ในสมรภูมิ “นิติสงคราม” ทีม “นายใหญ่” ไร้หลักประกันความปลอดภัย
แม่ทัพโดนเด็ดหัวกลางสนามรบ นายกฯ “นอมินี” ตกเก้าอี้จนเป็นเรื่องปกติ
และนี่คือคำตอบที่แฝงอยู่ในเกม “วัดใจ” เซียนการเมืองอ่านทะลุไต๋ “นายใหญ่” ขนหางเครื่องเดินสายไปขึ้นเวทีสำแดงเดชที่จังหวัดอุดรธานี แสดงอาการฮึกเหิม ชูธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม แต่ลึกๆคือเช็กสัญญาณที่ไม่ชัดจากเลขหมายปลายทาง สะท้อนความไม่มั่นใจ “หวยงวดวันที่ 22 พฤศจิกายน”
เก็งไม่ขาด แทงไม่ทะลุ ตัวเองยังเป็นตัวเลือกหลักอยู่หรือไม่
เอาเป็นว่า ขนาด “นายใหญ่” ยังหวิวๆ นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงนักลงทุนต่อมผวาตื้น ตื่นตระหนกตกใจง่าย ทั้งในประเทศและต่างชาติ คงหยุดกึกกับความไม่แน่นอนทางการเมือง จังหวะเสี่ยงพลิกอำนาจ
“ความเชื่อมั่น” ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทยคงไหลดำดิ่ง.
ทีมข่าวการเมือง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่