ผอ.ศปช. ย้ำทุกหน่วยเตรียมรับมือผลกระทบจากฝนตกหนัก 9 จังหวัดภาคใต้ 20-26 พ.ย.นี้ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก รองโฆษกรัฐบาลเผย เงินเยียวยาน้ำท่วมถึงมือประชาชนแล้วกว่า 2,321 ล้าน


วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือล่วงหน้า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2567 ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากที่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส ต้องเฝ้าระวังฝนสะสม

ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศ ฉบับที่ 19/2567 แจ้งเตือนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และเสี่ยงน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังในภาคใต้ วันที่ 20-26 พฤศจิกายน 2567 ที่พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ตรัง จ.สตูล จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี ทุกอำเภอของ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ล้นตลิ่ง และท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำสาขา ส่วนพายุหม่านหยี่ (MAN-YI) กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ ศูนย์กลางอยู่ทะเลจีนใต้ตอนบน และจะอ่อนกำลังลง วันที่ 20-22 พฤศจิกายนนี้ ย้ำว่าไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

...

“สัปดาห์นี้ ภาคเหนือฝนน้อยลง อุณหภูมิลดลงจากมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ปกคลุมแต่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ต้องรับมือฝนตกหนัก โดย ผอ.ศปช. กำชับทุกหน่วยวางแผนการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำ ไม่ให้เกิดผลกระทบท้ายน้ำ เร่งระบาย พร่องน้ำรองรับฝนที่คาดว่าจะตกหนัก โดยที่เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ถือว่าบริหารจัดการได้ดี ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ที่สำคัญต้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบล่วงหน้า แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด”

สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 กันยายน 2567 และวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ยังดำเนินการต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสิน โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ (PromptPay) ให้ผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท แล้ว 26 ครั้ง เงินถึงมือผู้ประสบภัยแล้ว 257,914 ครัวเรือน เป็นเงินรวม 2,321,174,000 บาท.