คดีที่ดินเขากระโดงที่บุรีรัมย์ อาจจะไม่จบลงอย่างง่ายๆ หรืออาจจบไม่สวยแม้จะเป็นเพียงคดีพิพาทกันเรื่องที่ดิน ที่ศาลสูงสุดของประเทศคือศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ที่ดินกว่า 5 พันไร่ เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กรมที่ดินไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษา ทั้งยังมีพรรคการเมืองเข้ามาถือหาง จึงอาจบานปลายกลายเป็นพิพาทการเมือง

พรรคการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่พรรคธรรมดา แต่เป็น 2 พรรคใหญ่ในรัฐบาล คือพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งสองพรรคมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่ข้างหลัง ผลการสำรวจความเห็นประชาชน ระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และเป็นผู้มีอำนาจอิทธิพล ในการกำหนดทิศทางการเมืองของไทย

ส่วนพรรคภูมิใจไทย พรรคใหญ่อันดับสองในรัฐบาล สำนักโพลระบุว่ามีผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีอำนาจกำหนดทิศทางการเมืองของประเทศ เป็น “ครูใหญ่” อยู่ข้างหลัง นั่นก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเคยมีวาท กรรมกับนายทักษิณ คือคำพูดที่ว่า “มันจบแล้วครับนาย” เมื่อหลายปีก่อน สองผู้ยิ่งใหญ่โคจรมาเจอกันอีกครั้งในกรณีพิพาทที่ดินเขากระโดงที่โด่งดัง

สืบเนื่องมาจากกรมที่ดินในสังกัด กระทรวงมหาดไทยที่มีหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐมนตรีว่าการไม่ยอมเพิกถอนเอกสารสิทธิของเอกชนที่ครอบครองที่ดินเขากระโดงอยู่ ส่วนใหญ่เป็นของคนตระกูล “ชิดชอบ” แต่กรมที่ดินกลับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และท้าการรถไฟฯให้ฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อสิทธิในเขากระโดง

กรมที่ดินท้าให้การรถไฟฯอุทธรณ์ต่อศาลแพ่ง น่าสงสัยว่ามีที่ไหนในโลกที่ให้คู่กรณีอุทธรณ์คำพิพากษาศาลสูงสุดของประเทศ ต่อศาลแพ่งซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ร้อนถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคมนาคม ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล รฟท. อาจถึงควันออกหู ประกาศว่าแม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็จะไม่ยอมเสีย

...

นายสุริยะมีคำสั่งทันทีให้ รฟท.ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหรือองค์กรที่มีอำนาจ นักวิเคราะห์การเมืองเตือนว่า กรณีเขากระโดงอาจเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่าง พท. กับ ภท. จนทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบวาระ พรรค ภท.เคยหักหน้า พท.อย่างน้อยหนึ่งครั้งแต่เป็นครั้งที่สำคัญนั่นก็คือ ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญนโยบายเรือธงของ พท.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งควบทั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย ให้สัมภาษณ์สื่อว่าอย่าเอาการเมืองมายุ่งเกี่ยว ศาลฎีกาตัดสินแล้วถือว่าถึงที่สุดเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง แต่เหตุที่ยังไม่ถึงที่สุด เพราะเป็นยุคที่ “เทวดาธิปไตย” รุ่งเรืองเฟื่องฟู ชนชั้นเทวดาที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาศาลสูงสุดถ้าไม่ยึดหลักนิติธรรม ประชาธิปไตยอยู่ที่ไหน.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม