“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ปราศรัยอ้อนคะแนน อ.บ้านผือ ฐานเสียง “เพื่อไทย” ให้ “คณิศร” ชิงนายก อบจ.อุดรฯ เหน็บคนเก่าอยู่มา 12 ปี เพิ่งนึกได้เรื่องน้ำประปาสะอาด ก่อนปราศรัยใหญ่สวนสาธารณะหนองประจักษ์เย็นนี้ ขณะที่แฟนคลับแห่ถ่ายเซลฟี่ ผูกผ้าขาวม้า
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ช่วยหาเสียง พร้อมทีมงาน เดินทางมาปราศรัย ขอคะแนนเสียงให้นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี จัดเวทีปราศรัยย่อย โดยมีชาว อ.บ้านผือ ประมาณ 1,500 คน มาร่วมรับฟัง ผู้ช่วยหาเสียง เดินทางมาร่วมปราศรัย ซึ่งมีผู้ช่วยหาเสียง และนายคณิศรฯ ผู้ลงสมัครชิงนายก อบจ.อุดรธานี ขึ้นปราศรัยบนเวที ชูนโยบายของพรรคประชาชน
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ช่วยหาเสียง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยอ้อนชาว อ.บ้านผือ ซึ่งถือว่าเป็นฐานเสียงของนายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี และฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยด้วย แนะนำให้รู้จักนายคณิศร ขุริรัง ผู้ลงสมัครชิงนายก อบจ.อุดรธานี ชูนโยบายเร่งด่วนของพรรคประชาชน และผู้ลงสมัครในพื้นที่ จ.อุดรธานี
นายพิธาระบุว่าที่ผ่านมามีการพูดถึงว่าที่ตนกลับมาจากอเมริกาเพราะกลัวแพ้ แต่สำหรับนักการเมืองแบบตนนั้นไม่มีกลัวแพ้ เพราะแพ้มาเยอะแล้ว แต่ชนะมาก็แยะเหมือนกัน อย่างการเลือกตั้งที่อุดรธานี ปี 2562 อนาคตใหม่ได้ 1.4 แสนคะแนน เลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี ปี 2563 ได้ 1.8 แสนคะแนน เลือกตั้งปี 2566 ได้มา 2.2 แสนคะแนน นี่คือการพัฒนา
ดังนั้นสำหรับพรรคประชาชน การลงแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้ ตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 เราก็แพ้ที่อุดรธานี เขต 1 แต่ก็ไม่กี่คะแนน ต่อมาเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกลก็ชนะได้ สส.เขต 1 อุดรธานี เราถึงไม่กลัวแพ้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมมีแพ้มีชนะ คนชนะกลับมาแพ้คนแพ้ก็กลับมาชนะได้ ไม่มีใครกลัวทั้งนั้น การทำงานแบบพรรคประชาชนคือการทำงานระยะยาว คู่แข่งอาจจะดูการเลือกตั้งต่อการเลือกตั้งแต่พรรคประชาชนดูไปถึง 3 การเลือกตั้งข้างหน้า การเมืองแบบพวกเราคือแข่งกับตัวเองทุกวันและการต่อสู้อย่างเต็มที่ไม่ท้อแท้ถดถอย
...
นายพิธายังกล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยหาเสียงเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน อบจ. คนเก่าเป็นมา 12 ปีเพิ่งมาบอกว่าจะทำน้ำประปาสะอาด แปลว่า 12 ปีที่ผ่านมาไม่สะอาดใช่หรือไม่ บอกว่าจะจัดการปัญหายาเสพติด แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาเจ้าพ่อยาเสพติด ทุนจีนสีเทา เมื่อปีก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องตั๋วตำรวจเพื่อไทย ตราบใดที่ยังมียาเสพติดจากต่างประเทศแล้วยังมีตั๋วตำรวจ ยาเสพติดก็แก้ไม่ได้ เป็นรัฐบาลมา 14 เดือนราคายาบ้ายังเหมือนเดิม ตั๋วตำรวจยังมีหรือไม่ ขอให้ตอบให้กระจ่างด้วย
นายพิธากล่าวอีกว่า มีคนกล่าวว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง แต่สำหรับตนแล้วคนอุดรธานีไม่มีเจ้าของ อุดรธานีเป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตยซึ่งมีหลายเฉด บางคนเลือกพรรคเพื่อไทย บางคนเลือกพรรคก้าวไกล บางคนก็เลือกพรรคไทยสร้างไทย ดังนั้น แม้การแข่งขันครั้งนี้เรามั่นใจแต่ก็ไม่ประมาท เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนการเลือกตั้งระดับชาติ ประชาชนอยู่ต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกลับมาลงคะแนนไม่ได้ แต่ตนก็ขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งกันให้มากที่สุด และขอสื่อสารไปถึงชาวอุดรธานีที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ขอให้ช่วยพรรคประชาชนบอกกลับมาที่ครอบครัว ถ้าอยากให้คนอุดรธานีมีงานทำ มีสาธารณสุขที่ดี มีการคมนาคมที่ดี จะได้กลับมาบ้านเสียที ส่งข้อความกลับมาให้ครอบครัวที่อุดรธานีให้ไปเลือกตั้งเยอะๆ
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้กล่าวถึงนโยบายน้ำประปาดื่มได้ โดยระบุว่าแม้ฝ่ายตรงข้ามจะพยายามโจมตีว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คณะก้าวหน้าก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่าทำได้ โดยทำสำเร็จมาแล้วที่ ต.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เป็นที่แรกตั้งแต่ปี 2564 มาจนถึงวันนี้ ได้รับการรับรองโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และต่อมาก็ทำสำเร็จที่ ต.โพน จ.กาฬสินธุ์, ต.หนองแคน จ.มุกดาหาร, ต.ดอนงัว จ.มหาสารคาม และ ต.นาบัว จ.อุดรธานี และกำลังจะทำสำเร็จอีก 2 แห่งในปีหน้า
ดังนั้น ที่มีการดูถูกว่าทำได้ไม่กี่แห่งนั้นจึงไม่จริง และต้องไม่ลืมว่าคณะก้าวหน้าชนะเทศบาลและ อบต. ไม่ถึง 50 ที่จากพันกว่าแห่งทั่วประเทศ และที่บอกว่าทำไม่ได้จริงและต้องใช้งบประมาณเยอะนั้นก็เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อย่างที่ ต.นาบัว จ.อุดรธานี เองใช้งบประมาณเพียง 2 แสนบาทเท่านั้นในการทำน้ำประปาให้ทั้งตำบลดื่มได้ ถ้าครั้งนี้พรรคประชาชนได้เป็น อบจ. นโยบายของคณิศรคือน้ำประปาใสดื่มได้ทั้งจังหวัด อบจ. จะให้งบประมาณสนับสนุนงบแก่ 179 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลทั้งอุดรธานี สามารถทำให้น้ำประปาดื่มได้ทั้งจังหวัดภายใน 1 ปีแน่นอน
“บางพรรคบอกว่าจะทำน้ำประปาสะอาดทั้งอุดรธานี ถามว่า 12 ปีที่ผ่านมานายก อบจ.อุดรธานี ตั้งแต่ปี 2547-2567 มีอยู่พรรคเดียว น้ำประปาไม่เคยสะอาด พอมาแข่งกับพรรคประชาชนจะมาทำน้ำประปาแล้ว ถามว่าจะมาพัฒนาให้ประชาชนหรือจะมาเอาชนะพรรคประชาชนกันแน่” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
จากนั้นทางคณะได้เดินทางไปปราศรัยในพื้นที่ อ.หนองหาน ต่อด้วยเวทีใหญ่ในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคมในช่วงเย็นวันนี้ โดยมีแฟนคลับขอเซลฟี่ คล้องพวงมาลัย และผูกผ้าขาวม้า เพื่อให้กำลังใจ ตามประเพณีของคนอีสาน ก่อนพากันทยอยเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พรุ่งนี้ช่วงเช้าเวลา 09.00-10.30 น. (17 พ.ย. 67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียง พร้อมคณะจะเดินทางไปปราศรัยที่ตลาดนัด ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ต่อด้วยช่วงบ่ายเวลา 16.00-17.00 น. จะเดินทางไปปราศรัยที่ทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี