“นายกฯอิ๊งค์” ถกผู้นำเปรูปิดจ๊อบเอฟทีเอไทย-เปรู พร้อมชวนเอกชนเปรูมาลงทุนในไทย เล็งเพิ่มความร่วมมือด้านแฟชั่นดันสุดลิ่มซอฟต์พาวเวอร์ไทย กล่อม “บิ๊กกูเกิล” ร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และเอไอเสริมทักษะดิจิทัลให้คนไทยรับมือการทำงานสมัยใหม่ ชวน “ติ๊กต่อก” นำสินค้าไทย-ท่องเที่ยวไทยขึ้นแพลต ฟอร์มขายทั่วโลก พร้อมจับมือไมโครซอฟต์ช่วยอัปเกรด แรงงานไทย พท.เด้งรับ “ทักษิณ” ประกาศเลือกตั้งครั้งหน้ายึด สส.ไม่ต่ำกว่า 200 ที่นั่ง “สรวงศ์” ย้ำหน.พรรคปักธงทวงคืนแชมป์พรรคอันดับหนึ่ง ยันเชิญนายใหญ่ร่วมสัมมนาพรรคที่หัวหินไม่ผิดอะไร “ประเสริฐ” รับลูกแจกเงินหมื่นเฟส 2 เร่งคลอดระบบ ดิจิทัลวอลเล็ตเสร็จภายใน มี.ค.68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู หารือร่วมกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู รวมทั้งผู้บริหารกูเกิล ติ๊กต่อกและไมโครซอฟต์ เพื่อต่อยอดความร่วมมือการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสำหรับการศึกษาและแรงงานไทย เพื่อรองรับการทำงานในโลกยุคใหม่
นายกฯกล่อมเอกชนเปรูลงทุนในไทย
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปฏิบัติภารกิจที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง ที่โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา น.ส.แพทองธารสวมชุดผ้าไหมสีเขียวจากมูลนิธิส่งเสริมศูนย์ศิลปาชีพไปยังศูนย์การประชุมลิมา คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ หารือทวิภาคีกับนางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไทยและเปรูมีแนวคิดเดียวกันในการส่งเสริมประชาธิปไตย พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและเปรูในปีหน้า ขอชื่นชมความสำเร็จของเปรูในการเปิดท่าเรือชางไค (chancay) ส่งเสริมให้เปรูเป็นประตูการค้าในภูมิภาคละตินไทยมีโครงการแลนด์บริดจ์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งที่สำคัญ จะทำให้เป็นประตูการค้าในภูมิภาคอาเซียนสำหรับประเทศละตินอเมริกาได้ จึงเชิญชวนเปรูเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อาทิ ซุปเปอร์ฟู้ด และยินดี Soft Power ของไทยเป็นที่นิยมในเปรู ทำให้มีแนวคิดจะเพิ่มความร่วมมือด้านแฟชั่น เปรูมีผ้าทำจากขนอัลปาก้ากับผ้าไหมไทย ผู้นำเห็นพ้องกันร่วมกันผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-เปรู ที่คืบหน้าแล้ว 70% ให้แล้วเสร็จภายในปีหน้านี้
...
หารือพันธมิตรขับเคลื่อนสัมพันธ์การค้า
ต่อมาเวลา 11.15 น. น.ส.แพทองธารร่วมหารือกับ US-APEC Business Coalition โดยกล่าวขอบคุณผู้บริหาร US-APEC Business Coalition พันธมิตรอันแน่นแฟ้นกับไทย ย้ำว่า “โอกาส” “ความพร้อม” และ “ความเชื่อมั่น” ประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจและการลงทุน พร้อมมุ่งขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมกับสหรัฐฯ การลงทุนของสหรัฐฯในไทยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2566 มีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสหรัฐฯ ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของไทย รัฐบาลมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย มุ่งมั่นส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย และพัฒนาฝีมือแรงงานเตรียมรับอุตสาหกรรมอนาคต จึงขอย้ำถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ “ต่อเนื่อง” ในการส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในสหรัฐฯ กระชับความสัมพันธ์การค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย รัฐบาลเน้นนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อการลงทุน เปิดกว้างความร่วมมือระหว่างประเทศในกรอบความร่วมมือทวิภาคีและภูมิภาค เช่น APEC และ IPEF ได้เสนอสิทธิพิเศษด้านธุรกิจ เช่น การยกเว้นวีซ่าและวีซ่าพำนักระยะยาวให้นักธุรกิจ ดึงดูดนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ มีเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางด้านเกษตรอัจฉริยะ เศรษฐกิจดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่แข่งขันระดับโลกสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาด
ปลื้มไทย–สหรัฐฯลงทุนกว่า 5 แสนล้าน
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยชูวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมการค้าเสรีและข้อตกลง FTA ที่พร้อมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในกรอบ OECD จะยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสและต่อต้านการทุจริต เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยอีกด้วย และก่อนการเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปกที่เปรู ได้มีโอกาสเดินทางไป ที่นครลอสแอนเจลิส และพบหารือภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ไทย-สหรัฐฯมีความร่วมมือการลงทุนระหว่างกันกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 5 แสนล้านบาท และสร้างงานกว่า 70,000 ตำแหน่ง รัฐบาลไทยตั้งเป้าส่งเสริมการลงทุนของสหรัฐฯในไทยและกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจตลอดไป
กูเกิลร่วมพัฒนาคนรองรับงานยุคใหม่
จากนั้นเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร หารือกับนายคารัน บาเทีย รองประธานบริษัทด้านการดูแลและกำหนดนโยบายสาธารณะและความสัมพันธ์กับรัฐบาลจากบริษัท Google (กูเกิล) โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยินดีที่กูเกิล เคยประกาศการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Region ในไทย จะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของไทย รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะการศึกษาของเยาวชน รวมทั้งพัฒนาทักษะแรงงานรองรับการทำงานสมัยใหม่ด้วย ด้านนายคารัน ยืนยันพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล ทั้งการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสำหรับการศึกษาและแรงงานไทย การใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการทำงานภาครัฐ ภูมิใจที่คนไทยใช้สินค้าและบริการของกูเกิล ทั้งการค้นหา แผนที่และ youtube สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยเห็นพ้องความร่วมมือการพัฒนาระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI การเสริมทักษะดิจิทัล/AI ให้คนไทย ต่อยอดจากบันทึกความเข้าใจที่ Google ลงนามกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อปี 2566 โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ชวนติ๊กต่อกโชว์สินค้า–ท่องเที่ยวไทย
ต่อมานายกฯได้พบหารือกับนายโซว จือ ชิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TikTok (ติ๊กต่อก) โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ความนิยมของ TikTok ในไทย มีเกือบ 50 ล้านผู้ใช้งาน ขอบคุณที่ TikTok ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (MSMEs) ผ่านอีคอมเมิร์ซและการสร้าง digital content จึงขอเชิญชวน TikTok ร่วมมือกับรัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทย นำเสนอสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์ม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผ่านการสร้างเนื้อหา content ด้านการท่องเที่ยวสู่เวทีโลกและสายตาคนทั่วโลกด้วย และขอเน้นย้ำการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบและสร้างสรรค์ รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัย เพี่อสร้างผู้ผลิตเนื้อหา (content creator) ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้านนายโซวกล่าวชื่นชมนโยบายรัฐบาลที่ให้เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญ พร้อมสนับสนุนการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยในทุกกลุ่มอายุ
ไมโครซอฟต์ช่วยอัปเกรดแรงงานไทย
กระทั่งเวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธารได้หารือกับนายแอนโทนี คุก รองประธานบริษัทและรองประธานที่ปรึกษาฝ่ายทั่วไปและบริการลูกค้าของบริษัท Microsoft (ไมโครซอฟต์) โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไมโครซอฟต์มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย พร้อมสานต่อจากการพบหารือระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯกับนายสัตยา นาเดลลา ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมโครซอฟต์ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค เพราะไทยให้ความสำคัญและลงทุนในระบบนิเวศดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานและทักษะแรงงาน หวังว่าไมโครซอฟต์ จะเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและความร่วมมือในด้านดิจิทัล เพราะเศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไทยพร้อมร่วมมือกับไมโครซอฟต์เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมดิจิทัลและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้านนายแอนโทนีกล่าวว่า พร้อมร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ฝึกอบรมทักษะดิจิทัลให้แรงงานไทย เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยให้สูงขึ้นอีกด้วย
พักเบรกเดินชมเมืองรอบที่พัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจพบหารือกับภาคเอกชน น.ส.แพทองธารไปเดินเยี่ยมชมเมืองลิมา รอบโรงแรมสวิสโซเทล ลิมาที่พัก ดูบรรยากาศบ้านเมืองเปรูและสินค้าท้องถิ่นในซุปเปอร์มาร์เกต โดยได้ซื้ออินคาโคล่า น้ำอัดลมของเปรู ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเป็นน้ำสีเหลือง ต่างจากน้ำอัดลมโคล่าสีดำแบบในประเทศไทย และยังได้ซื้อขนม น้ำผลไม้ผสมโซดา ช็อกโกแลตเปรูด้วย
ปลื้มมวยไทยฮอตฮิตในเปรู
ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่พิพิธภัณฑ์ Amano กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธารได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ร่วมกับผู้นำภาคธุรกิจของเอเปก อย่าง UNACEM Group (ยูเอ็นเอซีอีเอ็ม กรุ๊ป) บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของเปรูและซีอีโอภาคเอกชนอื่นๆของเปรู โดยได้กล่าวถ้อยแถลงตอนหนึ่งว่า ประทับใจความคิดริเริ่มด้านการอนุรักษ์ที่นำโดย UNACEM ช่วยชะลอการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ยินดีที่มวยไทยได้รับความนิยมในเปรู แฟชั่นและมวยไทย เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยหรือซอฟต์พาวเวอร์ ไทยส่งเสริมทั้งอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาลและการต่อสู้หรือมวยไทย เชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายจะสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไทยพร้อมร่วมมือทั้งอาหาร พลังงานสะอาด วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน และยินดีที่ทราบว่าพ่อครัวในวันนี้เคยทำงานที่กรุงเทพฯ หวังว่าจะได้ต้อนรับทุกท่านที่ประเทศไทย
พท.รับโจทย์กวาด สส.ไม่ต่ำกว่า 200
ที่ จ.อุดรธานี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงงานสัมมนาพรรค พท.ว่า งานสัมมนาพรรคจะมีขึ้นวันที่ 13-14 ธ.ค.น่าจะไปที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยรถไฟ ยังไม่ทราบว่าหัวหน้าพรรค พท.ได้เชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไปในฐานะนักวิชาการหรือไม่ ทำได้เพราะเป็นถึงอดีตนายกฯ มีความรู้ความสามารถ พรรคเชิญไปเป็นวิทยากรได้ ไม่ผิดอะไร อย่าไปมองเรื่องหยุมหยิม เราชัดเจนทุกอย่างเป็นมติพรรคและมติคณะกรรมการบริหารพรรค ทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่มีใครมาครอบงำพรรคได้แน่นอน ส่วนที่นายทักษิณปราศรัยบนเวทีว่าพรรค พท.จะได้ไม่ต่ำกว่า 200 เสียง ท่านพูดชัดเจนว่าดูจากการทำงานของนายกฯและทีมงาน เป็นโจทย์ของพวกตนอยู่แล้ว น.ส.แพทองธารมีเป้าหมายทำให้พรรคกลับมาเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้ง ต้องพยายามเต็มที่และอยู่ที่ประชาชน เมื่อถามว่าเวลานายทักษิณพูดอะไร มักจะถูกร้องว่าชี้นำ นายสรวงศ์กล่าวว่า นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯมีประสบการณ์เป็นผู้นำประเทศ ไม่เสียหายการมีคำแนะนำที่ดีให้บ้านเมือง เพียงแต่สิ่งที่เขาแยกไม่ออกเลยคือคำแนะนำกับคำว่าครอบงำ เราควรต้องก้าวข้ามแล้ว
“อ้วน” เคลมคนอุดรฯทั้งจังหวัดยังรัก
ที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอดีตนายกฯปราศรัยที่ จ.อุดรธานี มีนัยว่าพรรค พท.จะกลับมาครองพื้นที่อีสานคืนหรือไม่ว่า เชื่อว่า จ.อุดรธานี เป็นพื้นที่ของพรรค พท. คงจะทำให้เต็มที่ที่สุด เชื่อว่าคนอุดรธานีทั้งจังหวัดยังรักพรรค พท.อยู่ ที่นายทักษิณพูดถึงปัญหายาเสพติดรัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดเต็มที่ ถือเป็นวาระสำคัญลำดับต้นๆที่จะผลักดันให้ประเทศหลุดพ้นจากยาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญมากกว่าปัญหาปากท้องด้วยซ้ำ เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากมนุษย์ ส่วนการขึ้นค่าแรงที่มีปัญหาที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีล่มหลายครั้ง ต้องรอกระทรวงแรงงานและรัฐบาลได้หารือกัน จุดมุ่งหมายรัฐบาลชัดเจนจะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น ส่วนจะทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับประชาชนหรือไม่ ต้องถามนายกฯ
“ประเสริฐ” ปั่นระบบเงินหมื่นเสร็จ มี.ค.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังนายทักษิณปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ว่าระบบจะเสร็จช่วงเดือน มี.ค.ปี 2568 ว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) กำลังดำเนินการ หลังทำระบบเสร็จสิ้นต้องทดลองระบบ ใช้ระยะเวลาพอสมควร ช่วงเดือน มี.ค.เป็นช่วงที่ตั้งใจไว้ เพราะเดิมตั้งใจไว้ว่าเงินที่จะใช้จะให้อยู่ภายในปีงบฯ คาดว่าเดือน มี.ค.ปี 68 แอปพลิเคชันและระบบน่าจะเสร็จพร้อมใช้ การจัดซื้อจัดจ้างแพล็ตฟอร์มหรือระบบดิจิทัลที่ยกเลิกไป รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ พยายามดำเนินการเฟส 2 หลังเฟสแรกจบลง
โบ้ย “ทักษิณ-ธนาธร” ไม่เกี่ยวตั้ง รบ.
เมื่อถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลในปี 2566 ที่พรรค พท.ไม่สามารถจับมือกับพรรคก้าวไกลได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขมาตรา 112 ตามที่นายทักษิณมีวิวาทะกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่เคยทราบว่าทั้งคู่มีวิวาทะกัน และ 2 ท่านนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ห้วงเวลานั้น ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. ได้ไปเจรจากับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคก้าวไกลขณะนั้น ไม่ใช่นายธนาธร แต่ยอมรับว่ามีมาตรา 112 อยู่ด้วย ย้อนไปช่วงนั้นพรรค พท.เปิดโอกาสให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งได้โหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ แต่เมื่อโหวตไม่ได้ ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง มีการเสนอให้พรรค พท.ลำดับที่สอง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ และธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นธรรมดาทางการเมือง
ภท.เล็งนัดดินเนอร์พรรคร่วมหลังปีใหม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ภท.เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลคิวถัดไป คาดจัดช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ รอให้สภาฯเปิดก่อน มีประเด็นอะไรจะได้พูดคุยกัน จัดบ่อยไปก็ไม่ดี ไม่มีอะไรจะคุยกัน เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โต้ตอบไปมากรณีแก้ไขมาตรา 112 ถึงรวมรัฐบาลไม่ได้หลังเลือกตั้งปี 66 ในอนาคตพรรค พท.ร่วมงานกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ทุกคนมีความคิดแตกต่างกันได้ คงไม่ใช่การโกรธแค้นหรือเกลียดชังเรื่องส่วนตัว เรื่องบ้านเมืองจะใช้เหตุผลส่วนตัวมาตัดสินใจไม่ได้ ต้องเอาบ้านเมือง ความสงบ ความสามัคคีเป็นหลัก ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯประกาศเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พท.จะได้ไม่ต่ำกว่า 200 เสียง ทุกพรรคพยายามตั้งเป้าหมาย เตรียมความพร้อมที่ดี ผู้สมัคร สส.ต้องทำให้ดีที่สุดให้ประชาชนเชื่อถือ พรรค ภท.ขอทำงานก่อนดีกว่า เรื่องการเมืองหากไม่มีอะไรขอให้ไม่มี สส.ภูมิใจไทยลงพื้นที่ มีงานมากมาย รัฐมนตรีทำงานเต็มที่ ขึ้นเหนือล่องใต้
“วิลาศ” แฉ รมต.โยงบ้านเขากระโดง
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. แถลงกรณีกรมที่ดินทำหนังสือเลขที่ มท.0516.2 (2)/22062 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 แจ้งว่ายังไม่สมควรเพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารแถลงข่าวว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุด รัฐมนตรีบางคนบอกว่าไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางวาเดียว แต่กลับไม่สั่งการอะไร ขอเตือนถึงข้าราชการที่รับผิดชอบให้ยึดถือตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาลฎีกา อย่าเกรงใจฝ่ายการเมือง ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งท่านจะเดือดร้อน จากการตรวจสอบมีรัฐมนตรีบางคนทำบัตรประชาชนอาศัยอยู่เลขที่บ้านในที่ดินที่อยู่เขากระโดง ข้าราชการที่ไหนกล้าไปไล่ ที่ดินเขากระโดงศาลฎีกาเคยตัดสินไปแล้ว 2 คดีว่าเป็นที่ดินของรฟท. อีกคดีเป็นคดีศาลอุทธรณ์ภาค 3 ยืนยันเป็นที่ดินของ รฟท.เช่นกัน ทำไมกรมที่ดินจึงกล้าทำหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินดังกล่าวถึง รฟท. เท่ากับโต้แย้งหรือคัดค้านคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่
งัดเอกสาร “ปู่ชัย” ขออยู่ในที่ดิน รฟท.
นายวิลาศกล่าวว่า เรื่องเขากระโดงลึกลับซับซ้อน เริ่มแต่มี พ.ร.ฎ. วันที่ 8 พ.ย.2462 กว่า 100 ปีแล้วดึงกันไปมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันว่า ที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของ รฟท.ตามคำพิพากษาของศาลฏีกา คนไปให้การเป็นพยานต่อศาลให้การเท็จหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดมีเอกสารบันทึกการประชุมร่วมเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง ลงวันที่ 9 พ.ย.2513 ระหว่างนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาฯ กับเจ้าหน้าที่ รฟท. ระบุว่า นายชัยขออาศัยในที่ดินดังกล่าวจาก รฟท. และ รฟท.ตกลงยินยอมให้อาศัย จะได้ทำสัญญาการอาศัยต่อไป เท่ากับนายชัยยอมรับแล้วว่าไม่ใช่ที่ดินของท่าน แล้วทำไมกรมที่ดินไปออกหนังสือรับรองเช่นนั้น จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป เมื่อศาลฎีกาตัดสินแล้วต้องยึดไปตามนั้น ผู้เกี่ยวข้องที่พยายามเบี่ยงเบน มีเจตนาเช่นไร สังคมมองออก
“พิธา” หยันมีแต่เผด็จการกลัวแพ้ ลต.
ช่วงเย็น ที่ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า พร้อมคณะไปช่วยนายศณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน (ปชน.) หาเสียง โดยนายพิธากล่าวว่าเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด เพราะเป็นเมืองหลวงของชาวผู้รักประชาธิปไตย ส่วนข้อครหาจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่ากลัวแพ้จึงต้องบินลัดฟ้ามาช่วยหาเสียง เรื่องกลัวแพ้ แพ้มาก็เยอะ แต่ชนะมาก็แยะ ฉะนั้นมีแต่เผด็จการเท่านั้นที่กลัวแพ้ นักการเมืองหรือเป็นอดีตนักการเมือง มีแพ้มีชนะเป็นธรรมดา ไม่ได้กังวลกับการลงพื้นที่หาเสียงของนายทักษิณ เป็นสีสันทำให้ประชาชนสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่นายทักษิณประกาศเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พท.ต้องได้ สส.ไม่ต่ำกว่า 200 คนเหมือนที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรค พท.หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ปัจจุบัน พูดเรื่องแลนด์สไลด์แค่นั้น ผลลัพธ์หลังเลือกตั้งประชาชนเป็นคนตัดสิน และรับคำท้านายทักษิณเรื่องกิโยตีนกฎหมาย มีกฎหมายอะไรที่อยากจะยกเลิก ที่คิดว่ามันล้าหลังได้เลย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่