ฉากทัศน์ประเทศช่วงนี้อยู่ในห้วงตกฟาก “กรรมดี” ไล่ล่า “กรรมชั่ว” ใครคิดไม่ดี ทำไม่ดีต้องตกอยู่ในภาวะชดใช้กรรมที่เกิดจากการกระทำ
เรียกว่า “ล้างคุก” รอได้เลย...
ไม่ว่านักการเมือง ทนายความ ดารา พิธีกร ตำรวจ นายหน้า พวกหิวแสง พวกใจคดเรียกร้องหาความเป็นธรรมแต่แอบแฝงหาผลประโยชน์
กำลังเข้าคิวรอถูกลงโทษ บางส่วนก็เข้าไปอยู่ในคุกเดินชนกันระหว่างผู้กระทำผิด แม้คนละคดีความกันก็ตาม
หลายคนมีชื่อเสียงโด่งดังสังคมชมชอบ แต่เบื้องหลังสุดแสบถูกเปิดโปงล่อนจ้อน บางคนสื่อดันจนดังเพื่อขายข่าวโดยไม่ได้เจาะลึกไปถึงเนื้อแท้
สถาบันซึ่งมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลควบคุมก็ไม่ทำหน้าที่ดูแลกวดขันมวลหมู่สมาชิก อย่างสภาทนายความที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่พิทักษ์ความถูกต้องได้อย่างนี้
แต่ปัจจุบันนิ่งเป็นเป่าสากไม่ทำหน้าที่ ทำให้บรรดาทนายความรุ่นใหม่ๆสร้างความเสียหาย หมดความศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือ
พูดง่ายๆว่าวงการนี้เสื่อมไปมาก!
ยังมีพวกหิวแสงเพื่อสร้างความโด่งดังให้กับตัวเอง มีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของสังคมมากขึ้นทุกที
ก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเข้าจัดการอย่างจริงจังแบบไม่ไว้หน้า
ไล่เรียงคดีความต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่ “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ที่ล่อลวงประชาชนในข้อหาแชร์ลูกโซ่ มีทั้งดาราหญิง-ชาย พิธีกร นักร้องเรียน จำนวนหนึ่งถูกจับติดคุกและกำลังต่อสู้คดี
นั่นเป็นชุดหนึ่ง...
ถัดมาอีกชุดหนึ่งเป็นดาราชายรวมหัวกับนักร้องเรียน (สาว) รีดเงิน 20 ล้าน อ้างว่าจะให้ออกทีวีกับพิธีกรดังทีวีช่องหนึ่งที่สามารถช่วยให้พ้นคดีได้
ดาราชายคนนี้ปูมประวัติไม่ค่อยจะโสภานัก เคยเข้าไปสังกัดพรรคการเมืองเพื่ออาศัยอิทธิพลปกป้องพฤติการณ์ชั่วๆของตัวเอง
...
งานนี้ถูกจับได้พร้อมคลิปเสียงยืนยันดูท่าจะไม่รอดแน่
ในแวดวงตำรวจนายพลตำรวจที่โด่งดังคับบ้านคับเมืองมีคดีเว็บพนันจนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน
จนทำให้แวดวงตำรวจเสียหายวุ่นวายกันไปทั้งสำนักงาน...
ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง อ้างว่าถูกให้ออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ปรากฏว่าศาลไม่รับคำร้อง
ความหวังที่จะได้กลับเข้าตำรวจก็หมดไป อนาคตวูบไปทันที
นายตำรวจท่านนี้สนิทแนบแน่นกับทหารคนดังที่ถูกจับกุมเพราะไปฉ้อฉลเงินเป็นร้อยล้าน และยังมีพฤติกรรมฟอกเงินอีกต่างหาก
อย่างคำโบราณที่ว่า “คนจัญไรเจอกัน” ที่นั่นฉิบหาย คงเป็นอย่างนั้นแหละ...
ในแวดวงการเมืองเรื่องเขากระโดงที่ฮุบที่ดินของการรถไฟฯอยู่ที่บุรีรัมย์ เรื่องเงียบหายไปนาน แต่วันนี้ร้อนแรงขึ้นจนทำให้การเมืองร้อนขึ้นมา เพราะเกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบคนละหน่วยงาน
ฝ่ายหนึ่งทวงคืนที่ดินของรัฐ อีกฝ่ายยอมให้เอกชนยึดที่ดินของหลวง
ดูท่าแล้วจะเกิดปัญหาใหญ่ และฝ่ายที่ทำผิดคงอาการหนักแน่
ต่างๆเหล่านี้คงไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า เพราะชาตินี้ได้แสดงให้เห็นแล้ว ใครทำผิดก็ต้องรับกรรมไปไม่มีทางหลุดรอดไปได้
ในทางการเมืองยังมีเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องว่าด้วยเรื่องล้มล้างการปกครองและครอบงำพรรคการเมือง
“ดวงเมือง” ตกฟากอย่างนี้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก็แล้วกัน!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม