“ทักษิณ” ปักหลักหาเสียงคนอุดรฯ โปรโมตผลงานรัฐบาลลูกสาว ฟุ้งปลายปีผลงานออกดอกออกผล กลางปีหน้าเริ่มเห็นแสงสว่างกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาคึกคัก โอ่ควักเงินส่วนตัว 300 ล้าน จ้างฝรั่งปลุกผีโอทอปไทยไปขายทั่วโลก การันตีพรรคร่วมฯแน่นปึ้ก รัฐบาลอยู่ยาวครบวาระ “ทนายอั๋น” ยื่นร้อง กมธ.ที่ดินเฉ่ง “สุริยะ” ทำขึงขัง แต่เตะถ่วงชงศาลปกครองสางปมเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง “ผู้ว่าการ รฟท.” ยันยึดกฎหมายเคร่งครัด ยื่นอุทธรณ์ค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนไปแล้วตั้งแต่ 12 พ.ย. เตรียมแผนรองรับให้ประชาชนเช่าใช้ที่ดินหลายรูปแบบ “นายกฯอิ๊งค์” ถึงเปรูรอจับเข่าคุย“สีจิ้นผิง”

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังคงลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ช่วยหาเสียงให้นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นวันที่สอง โดยได้ขึ้นเวทีปราศรัยเน้นย้ำผลงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักในช่วงปลายปีหน้า พร้อมการันตีเชื่อมั่นรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม

“ทักษิณ” ลุยต่อหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานการลงพื้นที่ จ.อุดรธานีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ช่วยหาเสียงให้นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นวันที่สอง เมื่อเวลา 07.14 น. นายทักษิณไปที่ร้านคิงส์โอชา อ.เมืองอุดรธานี ทานอาหารเช้าร่วมกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พร้อมแกนนำ และ สส.พรรคพท.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โบกมือทักทายสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนที่มารอต้อนรับ ต่อมาเวลา 09.30 น. ไปที่ตลาด 4 ธันวา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายศราวุธหาเสียง มีประชาชนมารอฟังกว่า 5,000 คน

...

โอ่ทุ่ม 300 ล้านจ้างฝรั่งปลุกผีโอทอป

นายทักษิณปราศรัยว่า ไม่เห็นหน้ากันนานแล้ว คิดถึงกันบ้างหรือไม่ มาเยอะแบบนี้หัวใจมันพองโต เมื่อก่อนตอนเป็นพรรคไทยรักไทย คิดอย่างเดียวจะทำอย่างไรให้ประชาชนหายจน ถูกปฏิวัติออกไป 17 ปี วันนี้ดูแล้วมีตึกสวยๆขึ้น แต่พี่น้องยังลำบากอยู่ แสดงว่าที่ผ่านมาคนจนไม่ได้รับการเหลียวแล เมื่อก่อนโอทอปรุ่งเรืองมาก วันนี้หายไปเยอะ สงสัยต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ ตนใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาทจ้างชาวต่างชาติ ปรับปรุงโอทอปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัวว่าต้องรื้อไปทำอะไร เพื่อปรับปรุงโอทอปไปขายทั่วโลก แล้วจะมาเสนอนายกฯอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยไม่เก็บเงิน เพราะจ่ายเงินไปแล้ว

กลางปีหน้า ศก.เห็นแสงสว่าง

นายทักษิณกล่าวว่า นายกฯอิ๊งค์เป็นลูกคนเล็ก ตามตนไปทุกที่ตั้งแต่ 8 ขวบ วันนี้กลายเป็นนายกฯไปประชุมเอเปกเองแล้ว สิ่งที่นายกฯอิ๊งค์มีอยู่เหมือนตนทุกอย่างคือความรักและความห่วงใยพี่น้องประชาชน เรื่องที่เล่าให้ตนฟังแต่ละเรื่อง เชื่อว่ากลางปีหน้าจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจคึกคักมาก การผูกขาดทำให้คนไทยจน นายกฯบอกว่าสงสัยต้องยกเลิกกฎหมายเก่าๆที่ทำให้คนไทยจน โดยเฉพาะเสรีภาพทางการค้าขายชาวบ้าน ขอให้มั่นใจว่ากลางปีหน้าจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีหน้าจะรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะ นโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ยังใช้ได้เงิน 10,000 บาทมาแน่ มาช้าดีกว่าไม่มาใช่หรือไม่ พรรค พท.พูดอะไรต้องทำ แต่วันนี้ทำยากกว่าเมื่อก่อน มีกลไกข้าราชการใหญ่โตเทอะทะจากการปฏิวัติ คนจะเขียนกฎหมายเอารูปตนตั้งไว้แล้วบอกว่า “กูจะจัดการมันยังไงดีวะ” จนประเทศไปไหนไม่ได้ ปัญหาคอลเซ็นเตอร์หลอก น.ส.แพทองธารสั่งต่อไปธนาคารต้องมาร่วมรับผิดชอบ บริษัทโทรศัพท์ใครให้บริการข้ามเขตต้องถือเป็นจำเลยร่วม การไฟฟ้าไทย หากจ่ายไฟให้พวกนี้ไปทำยาเสพติดต้องเจอข้อหาจำเลยร่วม พระพุทธเจ้าบอกว่าเกิดเหตุที่ไหนดับที่นั่น เราต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายทาง

โวความเท่าเทียมของ พท.คือโอกาส

นายทักษิณกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน หรือพรรคสีส้ม มีความเหมือนคือเรื่องความเท่าเทียม แต่ความเท่าเทียมของพรรค ปชน.บอกว่าทุกคนเท่ากันในฐานะหรือสถานะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะเท่ากับลูก ความเท่าเทียมจริงๆคือความเท่าเทียมทางโอกาส พรรค พท.พยายามจะเปิดโอกาสให้คนยากดีมีจน ได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน น.ส.แพทองธารบอกว่าเดี๋ยวจะประกาศข่าวดี ไปหาเงินส่งลูกหลานไปเรียนเมืองนอกเพิ่มความชำนาญด้านเอไอ เป็นลูกพี่สั่งหุ่นยนต์ หาทางสร้างหลักสูตรให้หุ่นยนต์มาเป็นลูกน้อง

เชื่อมั่นรัฐบาลลูกอยู่ครบเทอม

ต่อมาเวลา 12.25 น. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงการย้ำหลายครั้ง “ผมกลับมาแล้ว” อะไรเป็นปัจจัยใหม่ให้กลับมาขึ้นเวทีทางการเมืองว่า อยากช่วยบ้านเมือง ในฐานะคนเคยเป็นอดีตนายกฯ และเป็นคนไทยอดไม่ได้ที่จะห่วงใยบ้านเมือง ได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองว่า “สทร.” เสือกทุกเรื่อง เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสรัฐบาลอาจไปไม่รอดเรื่องสัมพันธภาพ อาจยุบสภาหลังตรุษจีนปีหน้า อยากให้วิเคราะห์การเมืองให้ฟัง นายทักษิณกล่าวว่า วิเคราะห์แล้วคิดว่าน่าจะอยู่ครบเทอม ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นปัญหา พรรคร่วมฯเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงเวลาเขาคุยกันรู้เรื่องหมด ส่วนคดีความต่างๆที่นายกฯโดนร้องไม่เห็นเป็นอุปสรรคอะไรเลย บ้านเรากฎหมายอยู่ที่คนจะตีความ ถ้าคนอยากจะหาเรื่องก็คิดหาเรื่องทุกวัน ไม่ต้องให้ความสำคัญมาก เราทำอะไรให้ถูกต้องเท่านั้นแหละ ที่พูดว่ากลางปีประเทศไทยจะมีแสงสว่างนั้น เชื่อว่างานที่นายกฯคุยกับตน จะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้น ก่อนสิ้นปีนี้จะสัมฤทธิผลแทบทุกอย่าง ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาบริหารราชการแผ่นดิน

ขุดอดีตแย้มทุกคนเดาได้ใครอิจฉา

เมื่อถามว่าในการปราศรัยใช้คำว่า “กฎหมายเฮงซวย” ทำให้มีปัญหา มีคนขี้อิจฉา ตอนพูดคิดถึงเรื่องอะไร นายทักษิณตอบว่า กฎหมายเราไปแก้โดยมองคนมากไป ช่วงนั้นเขากลัวตน พยายามเขียนกฎหมายกันนั่นกันนี่ กลายเป็นกันระบบ แทนที่จะมีคนตั้งใจ ปรารถนาที่ดี มีความคิดดีๆมาช่วยทำงานให้บ้านเมืองการเมือง กลายเป็นว่าไม่มีใครอยากเข้ามา เราได้คนที่มีคุณภาพไม่พอเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ บ้านเราบอกอันนี้ไม่ใช่พวกกูไปเถอะ อันนี้พวกกูเท่านั้น อะไรแบบนี้มันไม่ได้ ต้องเห็นแก่ส่วนรวม ส่วนคนอิจฉาใครเชื่อทุกคนเดาได้ ทั้งนี้การแข่งขันทุกอย่างต้องมีกติกา เมื่อจบการแข่งขันทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากัน มีสปิริตความเป็นนักกีฬา ไม่ใช่บอกว่าบอลแข่งแพ้ แล้วควักปืนยิงอย่างนี้มันใช้ไม่ได้

ยกสัตยาบันพรรคร่วมฯไม่แตะ ม.112

เมื่อถามว่าที่พูดถึงความเท่าเทียมและโอกาส จะคืนความยุติธรรมให้นักโทษคดีการเมืองได้อย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า เรื่องนี้ซับซ้อนหลายอย่าง ตั้งแต่ตนโดนปฏิวัติ ก็ไล่ห้ำหั่นทางการเมือง จนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนปฏิวัติเหมือนกันอีก หลังจากนั้นผสมโรงด้วยคนต่างๆ ส่วนการนิรโทษกรรมที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษความผิดอาญามาตรา 110 และมาตรา 112 เรื่องคดี 112 พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันกันไว้ว่าเราจะเทิดทูนสถาบัน จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่ความจริงๆแล้วตัวมาตรา 112 ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนเป็นเหยื่อ
รายหนึ่ง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม ต้องแก้ตรงนี้ แต่ไม่ง่ายต้องใช้เวลา

เตือน “ธนาธร” อย่ารื้อโครงสร้างสำคัญ

เมื่อถามถึงบริบทการรัฐประหารปี 49 และปี 57 จนถึงการยุบพรรคการเมือง เพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณกล่าวว่า เคยคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า บอกว่าเคยโดน 3 พรรค ไปอยู่เมืองนอกตั้ง 17 ปี ขอให้เราช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองเป็นหลัก อย่าไปพยายามรื้อโครงสร้างมากเกินไป ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยหลักการ เอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด ไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบัน เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะไม่จงรักภักดี แต่ต้องมีวิธีการยึดหลักให้ถูกต้องของบ้านเมือง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดโฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจจะทำ ส่วนกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อกินมาม่า นายกทักษิณกล่าวว่า “ผมบอกแล้วว่ามาม่าอร่อย ผมโฆษณาให้มาม่า”

ลั่น ลต.ครั้งหน้า พท.ทะลุ 200 ที่นั่ง

ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่สนามทุ่งสีเมือง อ.ทุ่งสีเมือง จ.อุดรธานี นายทักษิณขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางประชาชนมารับฟังแน่นทุ่งสีเมือง โดยนายทักษิณปราศรัยตอนหนึ่งว่า คนไทยเป็นหนี้กันเยอะ รัฐบาลจะทำให้หนี้ประชาชนเบาลง พรรค พท.นำเงินเติมเข้าไปใหม่จะเติมจนกว่าเม็ดเงินอยู่ในระบบเศรษฐกิจเพียงพอ อุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2 รอบ นึกว่าจะแก้ปัญหาได้ กลับสร้างปัญหาขึ้นมาอีก ถึงเวลาแล้วต้องเอาความสุข ความมั่งคั่งของคนไทยกลับคืนมา ปีหน้ารัฐบาลไทย-จีนจะครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี คงจะมีข่าวดีให้คนไทยรถไฟความเร็วสูงจากอุดรฯ ไปจีนจะเกิดขึ้นแล้ว อาจมีสถานีใหญ่อยู่ที่อุดรฯ อาจผ่านพื้นที่จัดงานพืชสวนโลก วันนี้รัฐบาลทำอะไรเหนื่อยหน่อย นักร้องเยอะ หนวกหูหน่อย นักลงทุนต่างประเทศมากันมาก พอมีข่าวเขากังวล จึงบอกอย่าใส่ใจเลย กล้าบอกในฐานะสันทัดนักการเมืองมานานการันตีว่ารัฐบาลนี้อยู่ครบ ใครจะลงทุนมั่นใจได้ คราวที่แล้วมีอุบัติเหตุนิดหน่อย รับรองคราวหน้าไม่มีแพ้ ประเมินแบบผู้สันทัดกรณีเลือกตั้งคราวหน้า พท.ไม่มีต่ำกว่า 200 เสียง ดูจากความตั้งใจของนายกฯอิ๊งค์และแผนงาน รับรองสบายมาก ไม่ต้องอาศัยพระเอกหนังเกาหลีมาช่วย

“ณัฐชา” โต้ ปชน.ชูยุติธรรมเท่าเทียม

ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปราศรัยพาดพิงถึงพรรคให้ล้างซวยกฎหมายเก่า ก่อนคิดกฎหมายใหม่ว่า การเสนอกฎหมายใดไม่ว่ากฎหมายล้างซวย ล้างบาปหรือล้างอะไรให้ประเทศจะเร็วและง่ายสุดต้องทำจากฝ่ายรัฐบาลเสียงในสภาฯดำเนินการได้เลย พรรค ปชน.สนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมทุกด้าน ให้ทุกฝ่ายมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมแบบเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ปฏิบัติกับอีกคนหนึ่ง ครอบครัวหนึ่งแบบหนึ่ง แล้วปฏิบัติกับอีกกลุ่มคนหนึ่งเป็นอีกแบบหนึ่ง การเข้ารักษาพยาบาลในสิทธิ์ของผู้ต้องขัง เราพยายามทำความเท่าเทียมทุกมุม

ปชน.ชงหั่นเสียง สว. 1 ใน 3 แก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา ที่มีการกำหนดกรอบการพิจารณาวาระแก้รัฐธรรมนูญช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯว่า ล่าสุดมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรามาแล้ว 17 ฉบับ เป็นของพรรค ปชน.ทั้งหมด อาทิ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ สาระสำคัญคือ แก้ไขการโหวตลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 1 และวาระ 3 ต้องได้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาฯ และในจำนวนนี้ต้องเสียง สส.เห็นชอบไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ในสภาฯ จากเดิมการลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 1 และ 3 ต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของ 2 สภาฯ และในจำนวนนี้ต้องมีเสียง สว.เห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ในวุฒิสภา

เฉ่ง “สุริยะ” ไม่จริงใจรักษาที่ดิน รฟท.

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่ประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาฯ ผ่านนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เลขานุการ กมธ. ให้ตรวจสอบการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นายภัทรพงศ์กล่าวว่า เขากระโดงถูกหน่วยงานรัฐ และเกมการเมืองเตะถ่วงยื้อกันไป ที่ช็อกมากกว่าคือ สส.ไม่ยืนข้างประชาชน วอล์กเอาต์จากการประชุม กมธ.ที่ดินฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ไม่จริงใจรักษาที่ดินรฟท. ทำท่าทีขึงขัง แต่เตะถ่วงส่งเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณา ทั้งที่ศาลฎีกาเคยพิพากษาแล้วที่ดินเป็นของการรถไฟฯ “นายสุริยะอย่ามาขึงขัง มันทุเรศ เล่นอะไรอยู่ เป็นเพียงเกมการเมืองซื้อเวลา ผลประโยชน์ตกกับนายทุน”

อุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเขากระโดง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. เพื่อคัดค้านคณะกรรมการสอบสวนตามมาตราที่ 61 มีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ หากกรมที่ดินเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ทับซ้อนดังกล่าว รฟท.วางกรอบแนวทางแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ไว้เบื้องต้น ให้ประชาชนขอเช่าที่ดินได้หลายรูปแบบ อาทิ เช่าอยู่อาศัย การเช่าทำการเกษตร หรือเช่าเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปได้ รฟท.ยืนยันทุกขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดง ปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใสเป็นธรรม

“นายกฯ” ถึงเปรูจ่อพบหารือ “สี จิ้นผิง”

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางออกจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปยังกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู บนเครื่องบิน น.ส.แพทองธารได้ประชุมร่วมทีมงานเตรียมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 31 รวมถึงการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จะมีโอกาสได้พบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนอย่างเป็นทางการ เป็นเวทีสำคัญสร้างโอกาสพบปะผู้นำแต่ละประเทศและผู้นำธุรกิจ อาทิ ไมโครซอฟท์ กูเกิล ติ๊กต่อก หวังอย่างยิ่งว่าจะเจรจาการลงทุนกลับมาให้ประเทศไทยได้ กระทั่งเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธารและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานกองทัพอากาศ กองบินที่ 2 กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เข้าพักที่โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา จากนั้นได้ไปเยี่ยมชมตลาด Inka Plaza ตลาดของฝากและสินค้าพื้นเมืองเปรู ซื้อเสื้อปอนโช เสื้อพื้นถิ่นของฝากของเปรู และซื้อพรมทอพื้นเมืองเป็นของฝากพ่อ ซื้อเสื้อเด็กให้บุตรสาว บุตรชายและหลานๆ มีชาวเปรูเข้าโอบกอดมอบตุ๊กตาที่ระลึก พร้อมกล่าวเป็นภาษาเปรูว่า “ยินดีต้อนรับสู่เปรู”

กกต.รวมหลักฐานคำร้องครอบงำ พท.

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กทม. สำนักงาน กกต.จัดประชุมชี้แจงเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ. มีนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต.เป็นประธาน กล่าวตอนหนึ่งว่า ข้อสงสัยทำไมต้องเลือกตั้ง อบจ.เป็นวันเสาร์ กฎหมายเขียนไว้ชัดว่านายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ.ครบวาระ ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 45 วัน ที่ไม่ใช้วันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68 เลือกตั้ง เพราะกระบวนการเลือกตั้งต้องให้เสร็จสิ้นก่อนเที่ยงคืนวันที่ 2 ก.พ.ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในแง่ข้อกฎหมาย จึงจำเป็นต้องขยับเข้ามาเป็นวันที่ 1 ก.พ.

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องยุบพรรค พท.กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯครอบงำว่า ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ต้องสอบให้ครบจนสิ้นกระแสความ ให้โอกาสทั้ง 2 ฝ่ายชี้แจง คณะกรรมการสอบยังไม่ได้ขอขยายระยะเวลามาที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ส่วนคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นให้ตรวจสอบความเหมาะสมกรณีนายกฯชูมือมินิฮาร์ต ขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาวระหว่างถ่ายภาพหมู่ ครม.ชุดใหม่ ต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ยื่นคำร้องกันเข้ามามาก ส่วนมากจะยื่นมาตั้งคำถามว่าผิดหรือไม่ กกต.ต้องเข้มงวดมากขึ้น เมื่อถามย้ำว่าคำร้องมินิฮาร์ต ปัดตกหรือยังไม่ตรวจสอบ นายแสวงกล่าวว่าขอเวลาไปตรวจสอบก่อน เพราะคำร้องมีจำนวนมาก

ร้องสอบนายกฯตั้ง 3 รมต.คดีฟุตซอล

วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึง กกต. ผ่านไปรษณีย์อีเอ็มเอส ให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือมีพฤติกรรมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ กรณีแต่งตั้งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสำนวนคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโดยมิชอบของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การตั้งทั้ง 3 คนเป็นรัฐมนตรี อาจทำให้เกิดความเข้าใจว่ารัฐมนตรีทั้ง 3 คนนี้ มีส่วนร่วมการใช้งบแปรญัตติปี 2555 ของ สพฐ.โดยมิชอบหรือไม่ เพราะศาลฎีกาฯตัดสินบางคดีเสร็จแล้ว ไม่ควรแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีเหตุอันควรให้ กกต.ตรวจสอบพฤติการณ์ น.ส.แพทองธาร เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ อาจเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธารสิ้นสุดลงเฉพาะตัวรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4)

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่