แม้ 4 อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติกับนักเศรษฐศาสตร์ขาประจำและขาจรผนึกกำลังตั้งกำแพงต้านอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ “นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง” ก็แหกกำแพงต้านเข้าไปเป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่อย่างสบายแฮ
แรงทะลุกำแพงจริงๆ พระเดช พระคุณ
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ มีชายงามเข้าประกวดชิงเก้าอี้ 3 คน
โดยแบงก์ชาติเสนอชื่อ 2 คน คือ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ กก.อิสระบริษัท ปตท.
กระทรวงการคลังเสนอชื่อ 1 คน คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.คลัง รัฐบาลนายกฯปู
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าถ้าทำใจเป็นกลาง เอาผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง 3 คนขึ้นตาชั่งวัดกันปอนด์ต่อปอนด์
นายกิตติรัตน์ มีประสบการณ์ด้านการเงินการคลังเหนือกว่าชัดเจน
แต่ติดง่ามถ่อที่นายกิตติรัตน์ มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
นายกิตติรัตน์จึงถูกโจมตีว่าฝ่ายการเมืองจะเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงความเป็นอิสระของ ธปท.
มองแง่ร้ายไปถึงขั้น นายกิตติรัตน์ จะเข้าไปล้วงทุนสำรองของประเทศเอาไปประเคนให้รัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าถ้า นายกิตติรัตน์ ไม่มีคุณสมบัติเหนือกว่าอย่างชัดเจน
คณะ กก.สรรหาทั้ง 7 คน ซึ่งมี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ร่วมกับอดีตปลัดกระทรวงอีก 3 คน รวมทั้งอดีต ผอ.สำนักงบประมาณ อดีตเลขาธิการกฤษฎีกา อดีตเลขาธิการ ก.ล.ต. และอดีตเลขาธิการ คปภ.จะไม่กล้าโหวตเห็นชอบให้นายกิตติรัตน์เป็นประธานแบงก์ชาติคนใหม่อย่างแน่นอน
เพราะไม่มีใครอยากหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว
...
แต่จุดสำคัญคือ นายกิตติรัตน์ มีคุณสมบัติตรงสเปกมากกว่า 2 รายชื่อ ที่แบงก์ชาติเสนอมา
แถมปัจจุบัน “นายกิตติรัตน์” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง
และไม่ได้เป็นคณะกรรมการหรือผู้บริหารสถาบันการเงินเอกชน ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับ ธปท.
สรุปว่านายกิตติรัตน์สอบผ่านทุกวิชา
ส่วนกระแสโจมตี นายกิตติรัตน์ จะเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ
ประธาน กก.สรรหายืนยันว่าข้อกล่าวหานี้ไม่เกิดขึ้นได้จริง
เพราะประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่มีอำนาจปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ
ไม่มีอำนาจก้าวก่ายคณะ กก.นโยบายการเงิน (กนง.)
ไม่มีสิทธิ์แหยมเข้าไปยุ่มย่ามทุนสำรองของประเทศอย่างที่ตั้งป้อมโจมตีกันอึกทึกครึกโครม
ข้อสำคัญ มาตรา 25 พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดบทบาทประธานบอร์ดแบงก์ชาติไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการบริหารนโยบายอย่างอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย
สรุปว่ามองภาพข้างนอก ประธาน บอร์ดแบงก์ชาติดูใหญ่โตมโหฬาร สั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามอำเภอใจ
แต่ในความเป็นจริง ประธานบอร์ดแบงก์ชาติไม่มีน้ำอิ๊วอะไรเลย
หัดปล่อยวางกันซะบ้างเถอะโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม