ก็อย่างที่พูดกันนั่นแหละ “ของหลวงก็ต้องเป็นของหลวง” วันยังค่ำ จะมาฉ้อฉลยึดครองโดยไม่ถูกต้องไม่ได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะต้องมีอันไปหรือมีอันเป็นไปกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องยอมกันแหละ

กำลังจะพูดถึงเรื่องที่ดิน “เขากระโดง” ที่บุรีรัมย์ ซึ่งมีปัญหามานานแล้วเนื่องจากมีการยึดครองที่ดินของการรถไฟฯไปเป็นของเอกชน

ซึ่งเกี่ยวพันกับนักการเมืองตระกูล “ชิดชอบ” ผู้กว้างขวางซึ่งมีบ้านพักอยู่ในผืนดินดังกล่าวนั้นด้วยโดยอ้างสิทธิความชอบธรรม

สมัยรัฐบาล “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ฝ่ายค้านได้เปิดซักฟอกรัฐบาลซึ่งมี “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เป็นรัฐมนตรีคมนาคม และมีบ้านพักอยู่บนพื้นที่ปัญหานั้นด้วย

“ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรียุติธรรม ในปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นเป็นพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายเรื่องนี้ด้วยตนเองว่าที่ดินผืนดังกล่าวนั้นเป็นของการรถไฟฯ

บุคคลที่เข้ายึดครองจะต้องคายออกมาให้หมด

เพราะกฤษฎีกา ศาลฎีกาได้พิพากษาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯไม่ใช่ของเอกชน จึงเป็นหน้าที่ของกรมที่ดินจะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง

ปรากฏว่ากรมที่ดินไม่ดำเนินการแต่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนในเรื่องนี้จนเรื่องคาราคาซังมาถึงวันนี้

ปกติแล้วคำพิพากษาของศาลฎีกานั้นถือว่าเป็นที่สุดเหนือกว่าคำสั่งของอะไรทั้งสิ้น ชี้ว่าอะไรหน่วยงานอื่นๆจะต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อกังขา

แต่กรมที่ดินไม่รู้ไปกินดีหมีมาจากไหนไม่ยอมปฏิบัติตาม

ที่สำคัญก็คือกรมที่ดินนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นรัฐมนตรี

ยิ่งไปกว่านั้น “ศักดิ์สยาม” เคยเป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงนี้และมีอิทธิพลไม่น้อย สมัยที่ “พ่อของอนุทิน” เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยมาก่อน

...

ฉะนั้นเบาะแสตรงนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล “ชิดชอบ” จึงแนบแน่นแบบไม่ธรรมดา

และที่ดินที่มีปัญหานี้ก็อยู่ในความครอบครองของคนในตระกูล “ชิดชอบ” ด้วย ใครจะแก้ต่างอย่างไรว่าไม่เกี่ยวข้องกันคงเป็นเรื่องยากที่ทำให้คนเชื่อว่าจะต้องมีส่วนเกื้อหนุนกันอย่างแน่นอน

ดังนั้นเรื่องนี้คงจบยากถ้าไม่ยอมคืนที่ดินให้การรถไฟฯ!

ล่าสุด “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีคมนาคม และแกนนำคนสำคัญของ “เพื่อไทย” ได้ยืนยันว่าที่ดินผืนนี้

“ต้องคืนการรถไฟฯ” จะไม่ยอมเสียที่ดินแม้ตารางนิ้วเดียวให้เอกชนที่เข้ามายึดครอง

แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความถูกต้องตามข้อกฎหมายเป็นความชอบธรรมที่การรถไฟฯต้องยึดที่ดินคืนไป

แม้จะเกิดปัญหากับ “ภูมิใจไทย” ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน

แม้จะมีคำแนะนำให้หาทางออกโดยกรมที่ดินและการรถไฟฯต้องมาพูดคุยและหาทางออกร่วมกันมิฉะนั้นจะทำให้รัฐบาลมีปัญหา

เป็นความขัดแย้งระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย”...

ด้านหนึ่ง “เพื่อไทย” ก็ถือโอกาสสางแค้นที่ภูมิใจไทยเคยหักหน้ามาหลายเรื่องอย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ งานนี้ก็เลยถือโอกาสทวงแค้นเพราะคนของภูมิใจไทยฉ้อฉลทำให้เสียคะแนนนิยม

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าที่ดินผืนนี้เป็นของการรถไฟฯก็ต้องเอาคืนไม่ใช่ให้เอกชนหรือนักการเมืองเอาไปครอบครองเป็นเจ้าของ

ไม่ใช่ยึดที่ดินคืนเท่านั้นแต่จะต้องเอาผิดด้วย

ถ้ารัฐบาลไม่ทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องเพียงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาลก็จะมีความผิดไปด้วย

คงเป็นรอยร้าวที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ยืดแน่!

"สายล่อฟ้า"

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม