“เขากระโดง” กลายเป็นประเด็นฮือฮาขึ้นมาทันที หลังเกิด “มิชชันอิมพอสซิเบิล” ของกรมที่ดิน ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
เดิมทีที่ดินข้อพิพาทบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาชัดเจนแล้วหลายครั้งว่าที่ดินเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.
โดยคำวินิจฉัยศาลยังระบุเป็นเนื้อที่ชัดเจน 5,083 ไร่
เช่นเดียวกับกฤษฎีกา องค์กรอิสระ ใครถามไปก็ชี้ชัดว่าที่ดินเป็นของ รฟท. ตามที่ศาลฎีการะบุขอบเขต
ย้อนกลับไปถึงประกาศพระราชกฤษฎีกา ที่ออกเป็น พ.ร.ก.กำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงปี 2462 กว่า 105 ปีมาแล้ว ก็มีการสั่งเพิกถอนที่ดินกว่า 5 พันไร่ ช่วงปี 2513 มีข้อพิพาทระหว่างนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภาและราษฎร บุกรุกที่ดิน รฟท. ในพื้นที่เขากระโดง สุดท้ายก็ยอมรับว่าที่ดินเป็นของ รฟท. จึงมีการทำหนังสือขออยู่อาศัย
เมื่อทุกอย่างชัดเจน จึงเป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน ที่ต้องไปดำเนินการเพิกถอน รื้อถอนทุกสิ่งอย่างให้กลับมาเป็นของ รฟท. แต่กระบวนการก็ยังล่าช้าไปไม่ถึงไหน
ล่าสุดยังปรากฏว่ากรมที่ดิน อ้างคำสั่งศาลปกครอง ที่สั่งให้อธิบดีกรมที่ดินตั้งกรรมการสอบสวน หาแนวเขตที่ดินที่เป็นของ รฟท. ก่อนที่กรรมการสอบสวนจะสรุปเป็นเนื้อที่เพียง 4,414 ไร่ 3 งาน 19.3 ตารางวา
และมีมติไม่เพิกถอนบริเวณแยกเขากระโดง ด้วยข้ออ้างไม่มีหลักฐานเป็นที่ยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท.
เสียงฮือฮา วิจารณ์สนั่นลั่นทุ่ง อธิบดีกรมที่ดินไปกินดีหมี หัวใจเสือที่ไหนมา มีภารกิจลับลมคมในหรือไม่ พุ่งเป้าโยงใยไปถึงค่ายการเมือง “สีน้ำเงิน”
เห็นท่าทีกรมที่ดินแบบนี้ ในฐานะกำกับดูแล รฟท. “เดอะซัน” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย จึงมีคำสั่งเฉียบทันที
...
สั่งการให้ รฟท.ยื่นคำร้องต่อศาลให้เปิดการไต่สวน เพื่อมีคำสั่งให้กรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล “การรถไฟฯจะไม่ยอมเสียที่ดินแม้ตารางวาเดียว”
เดือดไม่แพ้กัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่เกาะติดเรื่องนี้เคยอภิปรายซักฟอกในสภามาแล้ว บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักวิชาการออกมาพูดว่าคำสั่งทางปกครองของกรมที่ดินใหญ่กว่าคำพิพากษาศาลฎีกาไปแล้ว
“คำสั่งศาลฎีกาในประเทศไทยถือว่าเป็นศาลสูงสุด ถ้าจะเปลี่ยนคำวินิจฉัยต้องเป็นศาลฎีกาเท่านั้น”
ปฏิบัติการสุดระห่ำท้าทายคำสั่งศาลของกรมที่ดิน เจอแบบนี้แล้วจะไปไงต่อ
หากมันเป็นไปตามเสียงนินทา มีการเมืองชักใยอยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่าต้องเป็น "ค่ายน้ำเงิน" ภูมิใจไทย ที่ตอนนี้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นั่งเป็น รมว.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดินอยู่
ถามว่าหวังผลอะไร สุดท้ายปลายทางคือแก้ปมคดีที่ดินเขากระโดงที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.
พันธนาการใหญ่อันเดียว ที่เป็นชนักปักหลังร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหาร
แม้ค่ายน้ำเงินตอนนี้จะติดเครื่องเทอร์โบเร็วแรงแค่ไหน เจอปมนี้เข้าไปก็มีสิทธิแหกโค้งจอดสนิท
แต่ถ้าทุกอย่างมันเป็นไปตามปฏิบัติการของที่กรมที่ดิน ก็จะไม่มีเรื่องการบุกรุกที่ดินเขากระโดง สิ่งที่ตามมามีนัยสำคัญส่งผลต่อ 2 คดี “เขากระโดง” ของภูมิใจไทยที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.ตอนนี้
1.ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ยึดถือครอบครองที่ดินรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2.ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ เคสนี้มีตัวอย่างชัดๆจาก “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ร้ายแรงถึงขั้นตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต
เรื่องรุกป่า รุกที่ดินรัฐ อ่อนไหวใหญ่โต แถมยังมีเงื่อนงำน่าสงสัยพยายามแก้ไขพลิกคดี
กระแสมรสุมอุกกาบาตถล่มค่ายน้ำเงิน ในขณะที่ “นายใหญ่บ้านจันทร์” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้นำจิตวิญญาณ “ค่ายแดง” เพื่อไทย เหมือนรู้ทิศทางลม ออกจากจำศีลมาโชว์วิชันการเมืองตอนนี้พอดี
เลือก “เมืองหลวงเสื้อแดง” อุดรธานี ประกาศศักดา “ข้ากลับมาแล้ว”
จ่อลุยคิดบัญชีเอาคืนรายชื่อที่จดไว้ในแบล็กลิสต์ หลังกัดฟันก้มต่ำอยู่นาน
สัญญาณลุยชัดเจน หลัง “เดอะโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตขุนคลัง ฝ่าดงแข้งเข้าไปนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่สนเสียงนกกา ข้าราชการ อำมาตย์ หรืออาถรรพณ์ใดๆ
ส่วน “ภูมิใจไทย” ที่อยู่ในแบล็กลิสต์ลำดับต้นๆ จ้องข่มพรรคแกนนำเรื่อยมา จังหวะพลาดจะจัดเต็มแค่ไหน รอดู “นายใหญ่” บัญชาการ แต่ปม “เขากระโดง” คงไม่จบแค่นี้ โดนขยี้ซ้ำแน่ จ่อยืมมือค่ายส้มยำใหญ่ศึกซักฟอก
ได้ทีตีไพ่สเปโตขู่กลับแรงๆ ข่มกันเลยทีเดียว.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม