“วันนอร์” นำคณะตรวจสภาฯ จ่อทุ่มงบปรับปรุงก่อนเปิดสมัยประชุม แจงปมน้ำเสียทะลัก กำลังซื้อปั๊มน้ำใหม่ ชี้ ระยะประกันงาน 2 ปี หลังรับมอบ 100% ตั้งเป้าสางงานกฎหมายภายใน 2 ปี ก่อนหมดวาระสภาชุดนี้

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคณะ เดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ รวมทั้งห้องอาหารบริเวณชั้น 1 และชั้นเครื่องยอด ชั้น 11 ของอาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า วันนี้นำคณะมาสำรวจพื้นที่โดยรอบรัฐสภาเพื่อจะปรับปรุงให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ เพราะยังมีหลายห้องที่ใช้งานไม่เต็มที่ ทั้งเรื่องเก้าอี้ แสง และระบบถ่ายทอดเสียง เมื่อเปิดสมัยประชุมรัฐสภาหน้าจะใช้ได้อย่างคุ้มค่า เพราะกรรมาธิการใช้จัดสัมมนา รวมทั้งประชาชน นักศึกษา ก็เข้ามาใช้บริการของสภาจำนวนมาก โดยจะใช้งบประมาณปี 2568 บางส่วน และเตรียมตั้งงบประมาณปี 2569 ปรับปรุงในส่วนระบบความปลอดภัย ระบบไฟ และการดูแลเรื่องอุบัติเหตุในสภาตลอด 24 ชั่วโมง แม้แต่รถที่เข้ามาในสภาฯสามารถตรวจสอบได้ว่ารถคันไหน ทะเบียนอะไร เข้ามาเวลาไหน สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน ระบบความปลอดภัยของสภาถือว่าอยู่ในระบบที่ดี

...

เมื่อถามถึงกรณีวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีน้ำเสียจากบ่อบำบัดเอ่อท่วมชั้นบี 2 นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาฯ ในฐานะกำกับดูแลอาคารสถานที่ของรัฐสภาแล้ว เครื่องปั๊มน้ำที่ใช้มานาน กำลังสั่งซื้อใหม่เพื่อเปลี่ยนแทน ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากระบบ แต่เครื่องดูดน้ำบางช่วงเวลาเสียจึงต้องเปลี่ยน ส่วนรอยรั่วทั้งหลายกำลังจะปรับปรุง มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ รวมทั้งตนและ นายพิเชษฐ์ ก็ดูแลอยู่ ต่อไปนี้เราต้องดูแลให้ดี

ทางด้านคำถาม ในส่วนที่ชำรุดสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ เพราะรัฐสภาได้รับมอบแล้ว ประธานสภาฯ กล่าวว่า การซ่อมแซมมี 2 แบบคืออยู่ในระหว่างการประกัน ตรงนี้สามารถเคลมให้เขาปรับปรุงเปลี่ยนได้ และบางอย่างเป็นเรื่องของการชำรุดเพราะการใช้ เช่น ประตูห้องน้ำ กลอนห้องน้ำ หลอดไฟ สายไฟ เราต้องปรับเปลี่ยนเอง เพราะเป็นของที่ใช้แล้วเสีย แต่ถ้าเป็นระบบ เช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบไฟฟ้า หรือพื้น อยู่ในระยะของการประกัน 2 ปี หลังการรับมอบ ตนกำชับว่าในช่วงปิดสมัยประชุมนี้เราต้องสำรวจให้หมด อันไหนที่เสียง่ายก็เปลี่ยนเอาของดีที่ไม่เสียง่ายมาใช้ เพราะสภาต้องรับบริการมาก ทั้งสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่อีกราว 3,000 คน รวมถึงคนที่มาเยี่ยมรัฐสภาด้วย ต้องใช้ของที่คงทนถาวร แม้ราคาสูงนิดแต่ดีกว่าที่ใช้ไม่กี่วันแล้วเสีย อีกทั้งเรากำลังทำฐานประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในปี 2568 รวมทั้งพิพิธภัณฑ์รัฐสภา มีการตั้งงบประมาณในปี 2569