ปาร์ตี้ "มาม่า" ในคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า ถ้าเป็น “มุกอำ” บนเวทีตลกคาเฟ่ก็ฮากระจาย แต่ในเวทีการเมืองมันคือ “มุกตลกร้าย” แท้จริงแล้วแฝงรหัสตรงจาก “นายใหญ่” แสดงตัวแสดงตนของโคตรคนระดับ “ตำนาน” ที่ไม่สนกระแส ไม่แคร์สื่อ ไม่อินังขังขอบสังคมวิพากษ์วิจารณ์

สัญญาณ “นำร่อง” ลูกหาบในเครือข่ายได้รับรู้ “ธง”

ส่งซิกเกมรบปะทะแนวต้าน ติดดาบตะลุมบอนพุ่งเข้าผจญเพลิงลุยไฟ

เปิดฟลอร์ด้วยเกมโชว์พลังยัดชื่อของ “เสี่ยโต้ง” นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตขุนคลัง รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ยึดแป้น “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” ท้าทายอาถรรพณ์ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” วังบางขุนพรหม

อารมณ์ทะแม่งๆแบบที่คณะกรรมการคัดเลือกประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน

ซุ่มโป่งประชุมมาราธอนลากยาวกันกว่า 5-6 ชั่วโมง

แต่ถึงจังหวะต่างคนต่างแยกย้าย หนีนักข่าวตัวใครตัวมัน ส่ง “จดหมายน้อย” แจ้งสื่อแบบงงๆ แทนการตั้งโต๊ะแถลงเป็นทางการ

ตำแหน่งสำคัญ สังคมเฝ้าจับตา แต่ทำเป็นยึกยักลับๆล่อๆยังไงชอบกล ตาม

ขั้นตอนต้องส่งชื่อให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ก่อนทูลเกล้าฯเพื่อทรงแต่งตั้ง

สับขาหลอก หนีโดนคนรู้ทันดักทางถามตอบยาก

แต่ ณ จุดที่หงายไพ่โชว์ “เสี่ยโต้ง” มาโจ๋งครึ่มซะขนาดนี้ ก็ชัดด้วยท่าทีไม่ยี่หระ สไตล์ “นายใหญ่” ไม่สน ไม่ให้น้ำหนักอดีตผู้ว่าการ ธปท. เครือข่ายพนักงานแบงก์ชาติ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัยที่ร่วมลงชื่อนับร้อยๆ ต้าน “นอมินีการเมือง” แทรกแซงธนาคารกลางของประเทศ

...

พร้อมปะฉะดะกับ “ศิษย์หลวงตามหาบัว” ที่ผนึกกำลังเครือข่ายสันติอโศก ถือป้ายประท้วง ร่อนหนังสือประจานฝ่ายการเมืองจ้องแทรกแซง จักบังเกิดมหันตภัยร้ายแรงต่อระบบการเงินความมั่นคงของชาติให้วินาศไปอย่างง่ายดาย

ไม่สนเสียงม็อบแช่ง แต่ยังแข่งด้วยม็อบเชลียร์ เมื่ออีกด้านก็มีการอุปโลกน์กลุ่มหนุน จู่ๆก็มีตัวแสดงโนเนมโผล่มายื่นรายชื่อหนุนนายกิตติรัตน์ ยึดแท่นประธานบอร์ด ธปท.เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ

“จุดความร้อน” เริ่มที่แบงก์ชาติ “เชื้อไฟ” ม็อบต้านรัฐบาลเพื่อไทยถูกจุดติดเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน

ศิษย์หลวงตามหาบัว สาวกสมณโพธิรักษ์ สันติอโศก โจทก์เก่าปักหลักฐานมวลชนต้นทุนม็อบแน่นๆ

แถมอีกจุดความร้อนที่ปักหมุดการบินไทย ตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเครือข่ายสหภาพพนักงานเจ้าจำปี ก่อม็อบแสดงพลังต้านฝ่ายการเมือง ระแวงรัฐบาลเพื่อไทยตั้งท่าเข้าไปหยิบชิ้นปลามัน

เอี่ยวการบินไทยที่กำลังฟื้นจากสภาพล้มละลาย

ดักทางขวางคอ กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมปรับเพิ่มสัดส่วนผู้บริหารแผนฟื้นฟูจากภาครัฐ หันกลับมาแบ่งสมบัติ จากที่ทิ้งไปแบบไม่ไยดี

ม็อบเจ้าจำปีสำแดงฤทธิ์ดุดัน จนต้องเลื่อนประชุมเจ้าหนี้ออกไปตั้งหลักกันใหม่ เพราะกระแสไฟต้าน ทำท่าจะลามไปติดเชื้อไฟเก่า เขี่ยปมเน่าการทุจริตหัวคิวจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้งลำยักษ์ในยุคอดีตรัฐบาลไทยรักไทย ที่เป็นปมหลักทำการบินไทยเจ๊งหนักจนทุกวันนี้

สหภาพการบินไทย ขาประจำพร้อมร่วมวงม็อบโจทก์เดิมระบอบทักษิณ

กระแสต้านจ่อเป็นไฟลามทุ่ง อีกจุดเสี่ยงที่กำลังก่อควันโขมงในวงการธุรกิจการค้าที่โยงอยู่กับขาใหญ่ทางการเมือง นัวเนียการใช้อำนาจรัฐบิดเบือนหลักกระบวนการยุติธรรม

ว่าด้วยปมร้อนเจ้าหนี้กับแผนบริหารฟื้นฟูกิจการ โยงใยคดีหุ้นฉาว “stark” ที่กำลังถูกดำเนินคดีฉ้อโกง ผู้บริหารโดนไล่ล่าขังคุก จากพฤติการณ์ไม่โปร่งใส แต่ดันโผล่มาเป็น “เจ้าหนี้” ถูกจัดอยู่ในลำดับต้นๆได้สิทธิรับการชำระหนี้จากลูกหนี้ล้มละลาย

อาศัยเส้นใหญ่ ล็อบบี้ผู้มีอำนาจ ปาดหน้าเจ้าหนี้การค้า บริษัทเอกชนทำกิจการอย่างสุจริตโปร่งใสที่ควรมีสิทธิตามความเป็นจริง

มันคือสิ่งแปลกประหลาด กำลังโผล่ลามจุดความร้อนยุครัฐบาลเพื่อไทย

จังหวะปาร์ตี้ “มาม่า” จันทร์ส่องหล้าส่งซิกสัญญาณลุยไฟประจัญบาน.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม