นายกฯ ยัน MOU44 เรายังไม่ได้เสียเปรียบ เตรียมตั้งคณะกรรมการ JTC คุยกัมพูชา เดือน พ.ย. นี้ บอกเมื่อถึงเรื่องเขตแดนแล้วค่อยเข้าสภาฯ กัมพูชาไม่อยู่ใน UNCLOS ไม่ใช่ปัญหา ย้ำชัดเกาะกูดเป็นของไทย

วันที่ 8 พ.ย. 2567 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กดดันให้ยกเลิก MOU44 โดยเห็นว่ายังมีปัญหาทางกฎหมาย และยังไม่ได้ผ่านรัฐสภาว่า MOU44 จริงๆ แล้วในเรื่องของตัวกฎหมายยังไม่เข้าสภาฯ ก็จริง แต่เรายึดหลักอันนี้อยู่ เป็นหลักเปิดเสรีในการเจรจา เราตกลงร่วมกันเพื่อจะเจรจา การคุยกันระหว่างประเทศสำคัญมาก สมมติว่าจะยกเลิกก็ต้องดูว่าจะยกเลิกเพื่ออะไร ถ้ายกเลิกแล้วความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นจะต้องมีการคุยกันก่อน ซึ่งต้องขอเวลาเล็กน้อยที่จะคุยกัน และจริงๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องของรายละเอียดต่างๆ ตนได้มีโอกาสเจอกับผู้นำกัมพูชาในช่วงที่ไปประชุมระดับสุดยอดผู้นำ ครั้งที่ 8 แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่งก็ไม่มีอะไรเลย ท่านยังพูดว่ามีอะไรให้ทางกัมพูชาซัพพอร์ตประเทศไทยไหมให้บอกกันมา และจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เราต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจมากกว่า ว่าเรายังไม่ได้เสียเปรียบอะไร ตรงนี้คือสิ่งที่ต้องขอเน้นย้ำอีกรอบหนึ่ง และการขีดเส้นของทั้งสองประเทศไม่เหมือนกันจึงต้องเกิด MOU44 ขึ้นเพื่อเป็นการหารือให้เข้าใจกันในความที่ไม่เหมือนกัน อันนี้คือสิ่งที่เราต้องทำต่อ โดยขั้นตอนจากนี้คาดว่าหลังกลับจากการไปประชุมเอเปกในวันที่ 18 พ.ย. จะตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) เรียบร้อย ได้บอกกับทางกัมพูชาแล้วว่าการตั้งคณะกรรมการฯ น่าจะเสร็จเดือน พ.ย. นี้ จากนั้นจะได้คุยผ่านคณะกรรมการ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า MOU44 ยังไม่สมบูรณ์มีข้อเรียกร้องให้ยกเลิก ตรงนี้คณะกรรมการฯ จะนำมาหารือด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ซึ่งยืนอยู่ด้วย ตอบว่า MOU44 เป็นข้อที่ได้พูดคุย เพื่อให้พูดคุยกันในเรื่องการขยายไหล่ทวีป เป็นข้อตกลงกันแต่ไม่จำเป็นต้องเข้าสภาฯ อันนี้สมบูรณ์โดยตัวของมันอยู่แล้ว แต่ถ้าหลังจากตกลงอะไรกันเรียบร้อยแล้ว หากมีอะไรที่เป็นสนธิสัญญาก็จะต้องเข้ารัฐสภาฯ อีกครั้ง ตรงนี้ถือว่าสมบูรณ์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว เป็นข้อตกลงร่วมกัน เมื่อถามว่าแม้จะเป็นข้อตกลงแต่เป็นเรื่องของเขตแดนก็จำเป็นต้องเข้าสภาฯ ก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาประกาศเขตแดนเขาปี 2515 ขณะที่เราประกาศในปี 2516 ฉะนั้นต่างฝ่ายต่างมีเส้นอยู่ MOU44 จึงให้มาตกลงกันว่าเส้นตรงนี้จะอยู่ที่ตรงไหน ยังไม่จบในเรื่องของอธิปไตย

ด้าน น.ส.แพทองธาร อธิบายเพิ่มเติมว่า MOU44 นี้ ไม่ได้บอกหรือเป็นตัวชี้ว่าของฉันหรือของเธอ แต่เป็น MOU จากการที่ของฉันและของเธอไม่เหมือนกัน เราต้องคุยกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าสภาฯ ตามที่นายภูมิธรรมได้พูดแล้ว มันเป็นการตกลงระหว่างสองประเทศเรียบร้อยแล้ว เข้าใจตรงกัน แต่ถ้าหากมีข้อตกลงเพิ่มเติมก็ต้องคุยผ่านคณะกรรมการอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ขีดเส้นอะไรเรียบร้อยแล้วค่อยเข้าสภาฯ

เมื่อถามว่า จะเป็นอุปสรรคอะไรหรือไม่ ในเมื่อประเทศไทยเป็นสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law of the Sea (UNCLOS) แต่กัมพูชาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ไม่เข้าร่วม นายภูมิธรรม กล่าวว่า สนธิสัญญาที่เจนีวา ประกาศกฎหมายทางทะเลไม่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้า ก็ต้องยอมรับอนุสัญญานี้ ฉะนั้นการเจรจาทั้งหมดต้องอยู่ในกรอบนี้ เพราะเป็นกรอบที่คุมทั่วโลกไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เลย ใน MOU พูดชัดเจน และแสดงออกชัดเจนว่าเป็นอนุสนธิสัญญา เป็นข้อตกลงร่วมกันของสองฝ่าย เพื่อเจรจาเรื่องเขตแดน วัตถุประสงค์เป้าหมายมีแค่นี้เอง และหลังจากคุยกันแล้ว ได้ผลอะไรก็มาว่ากันอีกที จึงรีบตั้งคณะกรรมการของเรา เพราะทางกัมพูชาเขามีอยู่แล้ว เมื่อตั้งเรียบร้อยแล้วก็จะเร่งเจรจา ซึ่งเป็นส่วนที่ผูกพันกันสองส่วน เรื่องผลประโยชน์ทางทะเลและเขตแดนที่ชัดเจน

เมื่อถามว่าเข้าใจความตั้งใจของรัฐบาล แต่ในเมื่อมีปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จะต้องชะลอหรือหยุด MOU44 ไว้ก่อนหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เราชะลอได้เลย แต่สิ่งที่เราต้องมีคือคณะกรรมการ เพราะฉะนั้นก็ไม่ทราบว่ากัมพูชาจะต้องคุยกับใคร อันนี้คือสิ่งที่ต้องเร่งเรื่องเดียว ส่วนเนื้อหาข้างในไม่ต้องเร่ง ดีแล้วที่สื่อมวลชนถามเรื่องนี้ จริงๆ แล้วได้คุยกับกัมพูชา ทางนั้นพูดเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลย แต่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ถ้าตั้งเสร็จก็จะง่ายขึ้น ทุกอย่างจะถูกตรวจสอบ และมีการพูดคุยกันสองประเทศเกิดความแฟร์ ข้อมูลที่ประชาชนอยากได้ก็จะครบถ้วน”

เมื่อถามว่า ล่าสุดทางกองทัพเรือได้เผยแพร่คลิปผ่านโซเชียล ยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย แต่พื้นที่โดยรอบ 200 ไมล์ทะเล ต้องเป็นของประเทศไทยด้วยตาม UNCLOS นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวจะให้เลขาฯ ส่งแผนที่ให้เห็นว่าเขาแบ่งกันอย่างไร จะได้เห็นว่าเส้นปี 2515 ที่กัมพูชาขีด และ 2516 ที่เราขีดไม่เหมือนกัน ทางกัมพูชาขีดเว้นอ้อมเกาะกูดของเราชัดเจน ทางเขาไม่มีปัญหา การที่ไปพูดคุยกันเขาก็พูดเรื่องเดียวว่าคณะกรรมการจะเสร็จเมื่อไหร่ จึงบอกไปว่ากลางเดือน พ.ย. ฉะนั้นเรื่องเกาะกูดไม่มีปัญหาแน่นอน เขาขีดเส้นข้ามไปเลย เขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นปัญหาเหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าการเจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลจะต้องชะลอไปก่อนหรือไม่ เพื่อรอให้เกิดความชัดเจน นายกฯ กล่าวว่า ใช่ ต้องชัดเจนก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหา