น่าเห็นใจพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ ที่ดูเหมือนจะตกอยู่ในภาวะเหงาหงอยไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อ ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้อง หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับประชาธิปไตยครึ่งใบ ให้เป็นประชาธิปไตย ที่ประชาชนมีส่วนร่วม ความหวังที่จะเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยู่ในภาวะสิ้นหวังเพราะธรรมชาติการเมือง

แค่จะทำความเข้าใจกับ สว.ชุดใหม่ ขอให้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีปัญหา เริ่มตั้งแต่การเสนอร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ถ้าต้องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะต้องลงประชามติถึง 3 ครั้ง แต่เกิดความเห็นต่างระหว่าง สส.กับ สว.ฝ่ายแรกขอให้ประชาชนออกเสียงข้างมากชั้นเดียวก็พอ แต่ สว.ยืนกรานเสียงข้างมากสองชั้น

จนถึงขณะนี้ พรรคเพื่อไทยอาจจะปลงตก ยอมรับว่า ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ก่อนการเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไป 2570 ถ้าวุฒิสภายังยืนยันในหลักการเสียงข้างมากสองชั้น พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จึงอาจปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมการเมือง หรืออาจเป็นไปตาม “ไอเอฟอีโพล” ผลการสำรวจความเห็น

ผลการสำรวจความเห็นตัวอย่างคนไทยจากทั่วประเทศ เมื่อปลายเดือนตุลาคมของไอเอฟดีโพล ในหัวข้อ “ศึก 4 เส้าเลือกตั้งหน้า” เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาชนและพรรคการเมืองใหม่ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 60.07% ตอบว่า ผู้มีอิทธิพลมากสุด ในการกำหนดอนาคต การเมืองไทย คือ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

ผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองอันดับที่สอง ในความเห็นคนไทย 13.54% ระบุชื่อนายเนวิน ชิดชอบ ตามด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 11.52% ส่วนผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในการกำหนดทิศทางการเลือกตั้ง 2570 คือนายทักษิณ 20.84% นายอนุทิน ชาญวีรกูล 15.41% นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 12.23% ตามด้วยผู้ตั้งพรรคใหม่ 11.60%

ส่วนพรรคที่มีอิทธิพลมากที่สุด ในการกำหนดทิศทางการเมืองไทยวันนี้ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 70.80% ตามด้วยพรรคภูมิใจไทย 19.46% พรรคประชาชน 7.46% แต่พรรคที่จะมีอิทธิพลมากที่สุด ในการกำหนดทิศทางการเมืองไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า กลายเป็นพรรคประชาชน 31.63% ตามด้วยเพื่อไทย 29.44% ภูมิใจไทย 25.55%

...

น่าเสียดาย ที่ผลสำรวจของ “ไอเอฟดีโพล” ไม่ได้สะท้อนว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ฉบับใด  เนื่องจากพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่ต้องการ จนชั่วนิรันดร เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ สว.พันธุ์ใหม่บางคนเรียกว่า “ฉบับพิสดาร” หรือไม่?