เพื่อไทยรีบหาทางหนีทีไล่ หากแก้ รธน.ล้มเหลว “ชูศักดิ์” ยันพยายามทำเต็มที่แล้ว วางสถานการณ์ 3 แบบ โบ้ยสภาไม่กล้าฟันธงทำประชามติ 2 ครั้งได้ กลัวขัด รธน. “วิสุทธิ์” ตัดบททำไม่สำเร็จไม่ใช่ความผิด พท. “อนุสรณ์” อ้างแก้ปัญหาปากท้องก็สำคัญ “พิชัย” ดึงญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมยุคใหม่ “หมอเลี้ยบ” ยก “จตุจักรซอฟต์พาวเวอร์” ปชป.จี้รัฐเร่งแก้หนี้ครัวเรือน แนะปรับโครงสร้างนโยบายหนี้ อย่าแทรกตั้ง ปธ.บอร์ด ธปท.
พรรคเพื่อไทยรีบตัดบทหลังนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เร่งเครื่องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส. พรรคเพื่อไทย อ้างว่าพยายามทำเต็มที่อย่างสุดกำลังแล้ว หากไม่สำเร็จก็ไม่ใช่ความผิดของพรรคเพื่อไทย
พท.วาง 3 ทางหนีทีไล่แก้ รธน.เหลว
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ฝ่ายบริหารพรรคเพื่อไทยกำลังตั้งวงคิดกันอยู่ 2-3 สถานการณ์ คือ 1.ถ้ากฎหมายประชามติจำเป็นต้องรอ 180 วัน แนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจทำไม่เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ ถ้าจะทำให้เสร็จต้องเร่งรัดขั้นตอนกันมาก เป็นวิธีที่ยากลำบาก 2.หากกฎหมายประชามติเสร็จเร็ว ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาฯ แบบนั้นมีแนวโน้มได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทัน หรือ 3.กำลังคิดกันว่ามีวิธีการอื่นหรือไม่ ที่จะทำรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องรอกฎหมายประชามติฉบับใหม่ ต้องหารือกับหลายฝ่าย สามเรื่องนี้กำลังดูกันอยู่
...
ไม่ได้ล้มเลิกพยายามทำเต็มที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำประชามติ 2 ครั้งจะขัดกับแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ลึกๆถ้าดูคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐธรรมนูญ มีถึง 6 เสียงที่บอกว่าทำ 2 ครั้งก็พอ แต่สภาฯไม่กล้าฟันธง กลัวจะเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เราอยู่ระหว่างปรึกษาหารือกันว่าสุดท้ายควรเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าหากแก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ต้องรับผิดชอบอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นปัญหาอยู่ ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำเราพยายามเต็มที่ เป็นเรื่องที่เราตั้งใจ นโยบายก็ออกมาชัดเจนว่าต้องเร่งรัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในเป้าหมายที่เราอยากให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพียงแค่เราได้วางสถานการณ์เอาไว้ 3 แบบ ไม่ใช่ว่าเราล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทำไม่สำเร็จไม่ใช่ความผิดเพื่อไทย
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ได้ อยู่ที่กุญแจดอกแรกคือการทำประชามติ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการร่วม สส.และ สว. ที่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติร่วมกันว่าจะเอาอย่างไร เช่นถ้าจะให้มีการทำประชามติ 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นหนึ่งในสี่ได้หรือไม่ ขอให้เขาได้ทำหน้าที่ให้เต็มที่ก่อน คิดว่าภายในเดือนนี้คงทราบแนวทางจะออกมาอย่างไร ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต้องคุยกันด้วยว่าจะเอาแค่ไหนอย่างไร เมื่อถามว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ตามที่หาเสียงไว้ จะรับผิดชอบอย่างไร นายวิสุทธิ์ตอบว่า เรามีความตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เราทำเต็มที่สุดกำลังจะไปได้แค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายฝ่าย ถ้าช้าก็ไม่ใช่ความผิดของเรา เพราะพยายามทำเต็มที่แล้ว ทุกคนก็เห็น ถ้าไม่สำเร็จเราไม่ใช่ปัญหา เพราะเราทำ ขณะที่รัฐบาลเองต้องแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน พวกเราฝ่ายสภาฯก็ต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมาย
อ้างแก้ปัญหาปากท้องก็สำคัญ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอยากให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบความสำเร็จ อาจเร็วเกินไปที่นายพริษฐ์จะด่วนสรุปว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จไม่ทันการเลือกตั้งในปี 2570 กุญแจดอกสำคัญคือร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จะเสร็จทันหรือไม่ หากต้องรอให้พ้น 180 วันแล้ว สส.ยืนยันตามร่างกฎหมายฉบับเดิม เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่หากสามารถประนีประนอมและแสวงหาทางออกร่วมกันได้ หรือมีวิธีการอื่นที่สามารถทำให้กระบวนการเดินหน้าได้เร็วขึ้น ยืนยันว่าคณะผู้บริหารของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตั้งคณะทำงานทั้งในส่วนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยขึ้นมาติดตามสถานการณ์เกาะติดเรื่องนี้ โดยเฉพาะปัญหาของประเทศมีมาก รัฐบาลพยายามเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกด้าน การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นสำคัญ แต่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนก็สำคัญและต้องเดินควบคู่กันไปละทิ้งไม่ได้ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องยึดโยงประชาชนให้มากที่สุด มีกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ต้องละเอียดรอบคอบ ที่สำคัญต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกนำไปบิดเบือนจนเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งรอบใหม่
“อิ๊งค์” ย้ำแผนปราบยาขั้นเด็ดขาด
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน X ถึงการลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด เปิดโครงการนำร่อง 10 จังหวัดแก้ปัญหายาเสพติดว่า “ใช้ธวัชบุรีโมเดลขยายผลดำเนินการไปยังพื้นที่ต่างๆตามภูมิภาค เริ่มก่อนที่ 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ อุทัยธานี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ สกลนคร นครพนม ระยอง นครศรีธรรมราช ตรัง และนราธิวาส ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจัดทำ Dashboard อัปเดตข้อมูล และเป็นฐานข้อมูลกลางให้ทุกฝ่าย ขอให้ตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ปฏิบัติการกวาดล้างผู้ค้าในพื้นที่แพร่ระบาด ยึดอายัดทรัพย์ เอาผิดจริงจังและเด็ดขาด บำบัดรักษา ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ทำงานอย่างบูรณาการ เพิ่มสถานพยาบาลเพื่อรองรับการบำบัดรักษาให้เพียงพอ และจัดให้มีการฝึกอาชีพ ไม่ให้กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ”
“พิชัย” ดึงญี่ปุ่นลงทุนสู่โลกยุคใหม่
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงผลการหารือกับนายอิชิอิ เคตะ ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น และคณะผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น ว่า ชักชวนนักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของญี่ปุ่น เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ดิจิทัล AI รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมการลงทุน โดยไทยมีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ไทยยังมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร (Food Security Hub) เป็นคลังสินค้าและส่งออกอาหารให้กับทุกประเทศที่ต้องการ รวมถึงญี่ปุ่น สอดคล้องกับนโยบายบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่เข้าพบหารือ ฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความตั้งใจจะขยายการลงทุนให้กลับมาเป็นผู้นำการลงทุนในไทยอีกครั้ง
“เลี้ยบ” ยก “จตุจักรซอฟต์พาวเวอร์”
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า หลังประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วม ได้นำเสนอการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร เพื่อพัฒนาศักยภาพของตลาดนัดเป็น Thailand Soft Power Gateway เพราะมีนักท่องเที่ยวสูงสุดกว่า 3 แสนคนต่อวัน มีสินค้าที่ประสบความสำเร็จระดับโลก เริ่มจากเปิดร้านในตลาดจตุจักร จึงเป็นตลาดนัดที่มีศักยภาพ ยกระดับเป็น Thailand Soft Power Gateway ของทั้ง 13 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ คาดว่าจะสามารถพัฒนาตลาดจตุจักรให้เสร็จภายใน 2 ปี เพื่อให้ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์กลางซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ทั้งนี้ ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำไปสู่การขยายเพดานค่าเช่าไปสู่สภาพความเป็นจริง และทำสัญญาต่างๆโดยตรงกับ กทม. ตัดคนกลางที่ได้รับผลประโยชน์ส่วนต่าง
ปลื้มไทยท็อป 8 มรดกวัฒนธรรม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลสำเร็จการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นยกระดับศักยภาพคนไทยและทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ส่งผลต่อการจัดอันดับในหัวข้อ “ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก” ประจำปี 2567 บนเว็บไซต์ U.S. News & World Report ประเทศไทยติดอันดับที่ 8 จากทั้งหมด 89 ประเทศ ถือเป็นอันดับสูงสุดของประเทศแถบเอเชีย ระบุว่า ไทยเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพและรอยยิ้ม และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดในโลก ผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมกับบ้านเมืองที่ทันสมัย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ หาดทรายและวัดวาอารามที่งดงาม มีชื่อเสียงด้านการนวดแผนไทยและอาหารที่มีรสชาติยอดเยี่ยม ทั้งนี้ นายกฯ เตรียมขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมให้เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ในการสร้างรายได้ในประเทศ เร่งผลักดันไทยให้เป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มีอิทธิพลด้านซอฟต์พาวเวอร์ในมิติวัฒนธรรม
“สรรเพชญ” จี้รัฐเร่งแก้หนี้ครัวเรือน
ด้านนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนไทยที่สูงเพิ่มขึ้นมากว่าน่าเป็นห่วงมาก ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ที่ร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) สูงที่สุดในรอบหลายปี ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก รายละเอียดเชิงลึกพบว่า หนี้ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเพื่อการบริโภคและสินเชื่อบัตรเครดิต ในกลุ่มรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อยที่ต้องกู้ในอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้หนี้ประชาชนฐานรากยากต่อการผ่อนชำระและอาจกลายเป็นหนี้เสียได้ ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนไม่อาจพึ่งพานโยบายการเงิน หรือโครงการคลินิกแก้หนี้เพียงอย่างเดียว ทำให้ประชาชนไม่สามารถปลดหนี้ได้ตามที่คาดหวัง ประชาชนจำนวนมากยังมีภาระหนี้สะสมสูง กระทบการใช้จ่าย การบริโภคลดลง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ให้รีบปรับโครงสร้างนโยบายหนี้
นายสรรเพชญกล่าวต่อว่า ขอแนะให้รัฐบาลเป็นแกนนำแก้ปัญหาดังกล่าว อย่าปล่อยให้เป็นภาระของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือคลินิกแก้หนี้เพียงลำพัง เสนอให้รัฐกำหนดนโยบายเชิงรุก เช่น การควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบริโภคในตลาดควบคู่กับการเพิ่มการเข้าถึงโครงการคลินิกแก้หนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น และการปรับโครงสร้างหนี้เน้นการเจรจาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนคู่กับการสร้างระบบช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้เสีย ให้สามารถฟื้นฟูและกลับมามีสถานะการเงินที่เข้มแข็งได้ รวมถึงการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสอดคล้องกับสถานการณ์ดอกเบี้ย
อย่าแทรกแซงตั้ง ปธ.บอร์ด ธปท.
นายสรรเพชญกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอเตือนถึงความเสี่ยงในการแทรกแซง ธปท. โดยการแต่งตั้งคนที่ใกล้ชิดเป็นประธานบอร์ด ขอให้รัฐบาลเคารพโครงสร้างการบริหารงานของ ธปท. และสนับสนุนให้มีการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในด้านการเงินการคลังมาดำรงตำแหน่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตัดสินใจของ ธปท.จะเกิดขึ้นจากการพิจารณาที่อิสระและเป็นมืออาชีพ ไม่เช่นนั้นอาจมีผลกระทบระยะยาว หากความเป็นอิสระของ ธปท.ถูกแทรกแซงบั่นทอนโดยอิทธิพลทางการเมือง ที่อาจทำให้การตัดสินใจในเชิงนโยบายเบี่ยงเบนไปตามความต้องการของรัฐบาล อาจไม่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว
“ลุงป้อม” ทำบุญทอดกฐินวัดช้างให้
ที่ จ.ปัตตานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และ สส.ของพรรค เดินทางไปยังศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก เทศบาลตำบลบ่อทอง อ.หนองจิก ร่วมปลูกต้นไม้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือในการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม จากนั้นไปเป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคีช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้) ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ พร้อมสักการะหลวงปู่ทวด เพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรยังเดินทักทายและร่วมเซลฟี่กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมอย่างเป็นกันเอง
“เดิน–วิ่ง–ปั่น” เฉลิมพระเกียรติ
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สนามลู่ปั่นเจริญสุขมงคลจิต ถนนสุวรรณภูมิ 3 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช, ศิริราชมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 60 หน่วยงาน มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ นายศุภมิตร ชิณศรี ผวจ.สมุทรปราการ ศ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผอ.โรงพยาบาลศิริราช นอกจากนี้ยังมีครอบครัวนายกฯ ได้แก่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ ลูกสาวคนโต ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชายคนเล็ก น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ พี่เขยและผู้เข้าร่วมงานประมาณ 10,000 คน
ทรงเป็นแบบอย่างดูแลสุขภาพ
น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดงานว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมกิจกรรมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ปีนี้นับเป็นวาระมหามงคลที่ปวงชนชาวไทยทุกคนจะได้พร้อมใจกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยที่ดี ให้แก่ปวงพสกนิกรชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ด้วยการออกกำลังกาย ในฐานะนายกฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโครงการดีๆอย่างนี้เกิดขึ้น เป็นการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน ทำให้คนไทยเห็นความสำคัญของการรักษาสุขภาพ
สุขภาพกายดี–สุขภาพสมองดี
นายกฯกล่าวว่า การสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายของตนเอง โดยเฉพาะการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต แต่ยังทำให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขในการดำเนินชีวิต อยากให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คน เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพกายและสุขภาพสมองที่ดีอย่างยั่งยืน ขอบคุณศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศิริราชมูลนิธิ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันจัดงาน เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกิจกรรมในวันนี้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่