ล้มแผน ล้มโต๊ะ ล่าสุด “ล้างกระดาน” มาอีกแล้ว

เป็นชุดคำที่บ่งบอกสัญญาณลบต่อรัฐบาลไหลมาเป็นระลอกๆ เกี่ยวเนื่องการบริหารการบ้านไม่คล่องตัว บริหารการเมืองไม่คล่องมือ

รัฐบาล “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ที่เดินหน้าติดกึก ติดกักไปหมด จนมีกระแสข่าวทีมรัฐบาลเล็งหาจุดเปลี่ยน ล้างกระดาน “ยุบสภา” ตั้งต้นใหม่

วลีชวนขนหัวลุกของคนการเมือง

ประเมินข่าวลือหนนี้อาจแค่หวังผลขู่ปราม กระตุกดุลอำนาจเบรกห้าวพรรคร่วมรัฐบาล เพราะรู้วิสัยการเมือง ไม่มีใครอยากเหนื่อยสิ้นเปลืองก่อนเวลา

โดยเฉพาะในปีกรัฐบาล พรรคต่างๆ ที่ได้เกาะเกี่ยวอำนาจ มีช่อง “หาของ” เข้าคลังตุนเสบียงกรังเข้าค่าย ไม่มีค่ายไหนอยากให้เสียโอกาส

โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ก็มีความสุขดีกับดุลอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าเพื่อไทย จะมีขัดแข้งขัดขากันบ้าง ก็ว่าไปตามการเจรจาต่อรองทางการเมือง แบบที่ว่าตั้งเงื่อนไขสูง แต่ที่สุดสุดท้ายก็ยอมหยวนๆให้ได้

เป็นปกติ “รัฐบาลผสม” บุฟเฟต์คาบิเนต

นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุข่าวปล่อย-ยุบสภา แต่อีกเหตุผลหลัก ก็น่าจะมาจากสถานการณ์แรงต้านมหึมาต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ “นายห้าง” ทักษิณ ชินวัตร กุนซือผู้นำหญิง เริ่มหงุดหงิดแทนลูกสาว

รับ “ใบงาน” เดินตามทุกอย่าง กับเงื่อนไขแลกเปลี่ยน “กลับบ้าน”

พร้อมลงงาน ปั่นยุทธการ “แดงปราบส้ม” เป็นบรรณาการ

พอมีสัญญาณให้เบรกเกมแก้กติกา รัฐธรรมนูญนิรโทษ ก็เดินตามโดยดีแม้กระทั่งยอมเสียหน้า เสียเครดิต ขณะที่ “เรือธง” นโยบายตั้งใจไว้ขายเรียกแต้ม ก็ยอมแปลงไปแรงต้าน เป็น “แจกเงินหมื่น”

เพิ่มความหงุดหงิดผสมเข้าไปใหญ่ เมกะโปรเจกต์กระตุ้นการลงทุน เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เจอความเขี้ยวของเพื่อนร่วมทางขอแบ่งตั๋วแบ่งต๋ง ไม่รู้จะเดินต่อยังไง ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ต้องพูดถึง ยังไม่เป็นรูปร่าง ขณะที่แลนด์บริดจ์ก็ยังไม่ได้ตั้งไข่

...

หนำซ้ำคิวเจรจาพื้นที่ผลประโยชน์ร่วมด้านพลังงานกับเพื่อนบ้าน ให้เศรษฐกิจไทยโชติช่วงชัชวาลก็เริ่มมีสัญญาณไม่ดี ฝ่ายต้านดาหน้าแสดงทีท่าค้าน วลี “เสียดินแดน–ขายสมบัติชาติ” เริ่มกระหึ่ม

ขณะที่นโยบายการคลังก็มาติดขัด โดนเบรกเกมจากนโยบายการเงิน ไปคนละทางกับแผนหลักรัฐบาล

“อนุรักษ์นิยมปรุงแต่ง” อย่างพรรคเพื่อไทย จะทำอะไรได้ ก็แค่ปั่นงานรูทีน แก้เศรษฐกิจก็ทำได้เฉพาะหน้า ลดหย่อนภาษี ออกมาตรการจูงใจใช้จ่าย อัดฉีดกระตุ้นกันเฉพาะกิจเป็นครั้งคราว

โดน“ระแวง” ทุกย่างก้าว ต้องยอมเดินในกรอบอนุรักษ์นิยมแท้

แถมล่าสุด อีกจุดสังเกตขุมข่ายอำนาจเก่าก่อตัวเป็นกลุ่มต้านมากันยกแผง ทั้งนักวิชาการ อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ นายธนาคารโดดขวางเกมแต่งตั้งประธานบอร์ด ธปท. ที่มีชื่อกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ รมว.คลัง เพื่อไทยเป็นแคนดิเดต

ชื่อชั้นเครดิตฝ่ายต้านล้วนทรงพลัง ขุมข่ายแนวร่วมที่เคยคว่ำอำนาจ โค่นรัฐบาลตระกูลชินฯมาแล้ว

ทั้งหมดน่าจะเป็นเหตุของการก่อตัวของข่าวลอยลม “ล้างกระดาน–ยุบสภา” ทำการเมืองผวา

และที่ตื่นเต้นยิ่งกว่า กับกระแสที่มาพร้อมๆกัน นอกจากทำให้คนในค่ายเพื่อไทยหวั่นไหว

ยังทำให้ทั้งวงการการเมืองต้องปั่นป่วน

กับประเด็นร้อนโยง “นายห้าง” อาจ “ถอดใจ” ในจังหวะเมื่อถึงจุดไม่มีอะไรต้องไขว่คว้าอีกแล้ว เมื่อเจอเกมขวาง หวาดระแวงตลอด

ไม่ไว้วางใจกันมากๆ เข้า ก็อาจต้องปรับโหมด “ถอยสุดทาง” ในรอบต่อไป

ทำนอง เซ้งร้าน–เลิกกิจการไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด

ข่าวยังไม่กรอง จริง–เท็จยังไม่ชัด แต่ที่รู้คือประเด็นนี้กระตุกอารมณ์จากทุกฝ่าย

แบบต้องเตรียมปรับเกม จัดแผนใหม่กันไว้เนิ่นๆ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม