“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ชี้ เหตุไฟใต้ไม่เกี่ยวกับ “คดีตากใบ” หากรัฐทำงานไม่ลุล่วง ก็จบปัญหาไม่ได้ ขอคำนึงถึงประโยชน์ชาติ อย่าฟื้นฝอยให้เป็นเรื่องการเมือง มองว่ารัฐควรหาทางเยียวยา แต่ไม่ใช่เรื่องเงิน

วันที่ 26 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ หลังจากคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ หมดอายุความวานนี้ โดยกล่าวว่า ความกังวลเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะความรุนแรงก็ยังไม่ได้จบ ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายรัฐตั้งใจจะปิดคดีนี้ตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว บางครั้งการพูดความจริงไม่หมดก็อาจจะเป็นปัญหาได้

การที่บอกว่ารัฐไม่ได้ใส่ใจ ตนอยากจะบอกว่า รัฐมีกระบวนการที่ดำเนินมา อย่างการนำคดีเข้าสู่ศาล 4 คดี จนถึงที่สุด ตลอดเวลาที่ศาลตัดสินครั้งแรก จนมาถึงขณะนี้ผ่านมาถึง 15 ปี ผ่านนายกรัฐมนตรีมาหลายคน การจะพุ่งเป้ามาให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบ ขณะนั้นท่านเองก็อายุสิบกว่าขวบ แต่โดยบทบาทความเป็นรัฐ นายกรัฐมนตรีก็สั่งการ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และไม่มีใครปรารถนาให้เรื่องยืดยื้อมาเป็นปัญหาในอนาคต

เมื่อถึงเวลาไม่สามารถทำตามที่หลายฝ่ายร้องขอได้ ทั้งการดำเนินคดี หรือการออก พ.ร.ก. ตามที่เสนอมา ท่านก็ได้ขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้นำเรื่องนี้เป็นบทเรียน นำมาศึกษาว่ากระบวนการที่จะทำให้ดีกว่านี้ ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้คืออะไร โดยย้ำว่าหากคดีตากใบต่อเนื่อง 15 ปีที่ผ่านมา ก็คงจะมีกระบวนการทำงานที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพิ่งมาเรียกร้องในช่วงสุดท้าย เมื่อคดีจะถึงที่สุด เป็นธรรมดาก็ไม่มีใครอยากจะขึ้นศาล ซึ่งกระบวนการในการที่จะมีความรุนแรงในภาคใต้ก็ยังมีอยู่ตราบใดที่รัฐยังทำงานไม่บรรลุผล และย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีตากใบ

...

ส่วนการที่มี ส.ส.พรรคหนึ่ง จะให้มีการเยียวยาผู้สูญเสียนั้น นายภูมิธรรมมองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องนำไปคิด แต่ไม่ใช่เรื่องเงิน รัฐบาลก็ใช้งบประมาณ 600 ถึง 700 ล้านบาทในการเยียวยาผู้สูญเสียไปแล้ว หากจะมาพูดถึงเรื่องนี้อีกก็คงจะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันว่าเงินที่จ่ายไปไม่สามารถซื้อชีวิตผู้ที่รักของกลุ่มผู้สูญเสียกลับมาได้ เหนือสิ่งอื่นใดอย่าให้ประเด็นเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มผู้หวังประโยชน์

โดยย้ำว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความมั่นคงของรัฐไทย ไม่ใช่รัฐบาลไทย วันนี้จึงขอร้องว่าอย่าใช้นำมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวทางการเมือง ขอให้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเหตุการณ์ที่นายตำรวจถูกลอบยิงระหว่างละหมาด อาจจะเป็นผลพวงจากคดีตากใบหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่อาฟเตอร์เอฟเฟกต์อะไร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ขอว่าอย่านำคดีตากใบไปเกี่ยวโยง อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ พอจะทำให้ความรู้สึกถึงขนาดนี้มันสูงขึ้น ทำให้เหตุการณ์ไม่จบ รัฐก็ต้องไปดูว่าบรรเทาเบาบางอย่างไรไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก ส่วนการกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังนั้น ย้ำว่าทำมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ไม่ได้มีเป้าหมายตรงนี้ รอประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็โดน