“ชัยธวัช-โรม-ศศินันท์” แถลงข่าวผิดหวังกับมติสภาฯ โหวตไม่เห็นชอบข้อสังเกตรายงาน กมธ.นิรโทษกรรม ยิ่งสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลชัดมากขึ้น ลั่นไม่หมดหวัง พรรคประชาชนจะเดินหน้าผลักดันต่อ
วันที่ 24 ต.ค. 2567 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะกรรมาธิการและที่ปรึกษา กมธ. พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พร้อมด้วยนายรังสิมันต์ โรม และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตในรายงานของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า ค่อนข้างผิดหวังกับผลการลงมติ แม้ว่าเราจะเห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพในเรื่องการนิรโทษกรรม ซึ่งวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าได้ทราบว่าพรรคแกนนำรัฐบาลคือพรรคเพื่อไทยจะมีมติเห็นชอบกับข้อสังเกตในรายงานของคณะ กมธ. และในการอภิปรายก่อนการลงมติ สมาชิกฯ จากพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เป็น กมธ. และไม่เป็น กมธ. พยายามอธิบายว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องมีมติรับรายงาน เป็นเพียงการรับทราบเท่านั้น และดูเหมือนจะกลัวว่าจะเห็นชอบที่จะรับข้อสังเกตของคณะ กมธ. และสุดท้ายเมื่อผลการลงมติออกมาเท่ากับเสียงที่เห็นชอบซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยจำนวนกว่า 140 เสียง น่าจะมาจากพรรคฝ่ายค้านเกือบทั้งหมด หากเสียงของพรรคเพื่อไทยเห็นชอบด้วย เสียงส่วนใหญ่ในวันนี้ก็คงจะเห็นชอบกับข้อสังเกต โดยผลการลงมติในวันนี้เท่ากับสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ส่งข้อสังเกตในรายงานไปยังรัฐบาล ซึ่งมีข้อเสนอหลายเรื่องที่มีความสำคัญ และที่สำคัญมากที่สุดมี 2 เรื่อง คือ ข้อเสนอให้คณะรัฐมนตรีนำแนวทางในรายงานไปพิจารณาเพื่อออกร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรีเองและให้รายงานกลับมาที่สภาเป็นระยะ ๆ รวมทั้งข้อเสนอมาตรการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาคดีทางการเมือง และอีกข้อสังเกตที่มีความสำคัญคือ เมื่อมีการลงมติไม่เห็นชอบก็จะไม่มีการส่งข้อเสนอจากสภาไปให้ฝ่ายบริหารพิจารณาว่าในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ฝ่ายบริหารสามารถใช้กลไกตามกฎหมายของฝ่ายบริหารในการมีนโยบายไปยังหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่ตนเองสามารถทำได้ตามกรอบกฎหมายเพื่อคลี่คลายปัญหาเรื่องคดีการเมืองที่เกิดขึ้นหรือทำให้ปัญหาลดน้อยลงในอนาคต
...
ส่วนในทางการเมืองนั้น มติในวันนี้ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจนมากขึ้น ทำให้เห็นว่ามีความไม่แน่นอนอย่างสูงว่ารัฐบาลชุดนี้จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ แม้กระทั่งพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย หากคณะรัฐมนตรีซึ่งไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่เสนอร่างกฎหมายของตนเองมายังสภาก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยซึ่งวันนี้เสียงส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทยน่าจะลงมติไม่เห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะ กมธ. ว่าจะมีร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยเสนอมายังสภาก่อนเปิดสมัยประชุมในสมัยหน้าหรือไม่ และผลของการลงมติในวันนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนว่า นอกจากคณะรัฐมนตรีอาจจะไม่มีร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของตนเองแล้วก็อาจไม่มีมาตรการหรือนโยบายใด ๆ ที่จะแก้ปัญหาคดีทางการเมืองหรือคลี่คลายความรุนแรงของคดีทางการเมืองในปัจจุบันและอนาคตด้วยหรือไม่
ซึ่งตนในฐานะ กมธ. และ สส.พรรคประชาชน ยังหวังและต้องการเห็นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเสนอเข้าสู่สภาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะมาจากรัฐบาล หรือพรรคแกนนำรัฐบาล เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในต้นสมัยประชุมหน้าอย่างน้อย 4 ฉบับ ซึ่งหากมีร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเพิ่มเติม และเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งที่อยู่ในรายงานของคณะ กมธ. ก็จะเป็นประโยชน์ที่จะเป็นทางเลือกในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้รอบด้านที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า การเสนอญัตติให้มีการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นการเสนอญัตติโดย สส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคก้าวไกลในเวลานั้นมีความเห็นว่าการนิรโทษกรรมนั้นสามารถทำได้เลย การเสนอกฎหมายไม่จำเป็นต้องศึกษาแนวทางเพราะมีการดำเนินการนิรโทษกรรมมาแล้วหลายครั้ง แต่ในเมื่อแนวทางของรัฐบาลที่ยังต้องการให้มีการตั้งคณะ กมธ. ศึกษาก่อน สุดท้ายเราก็เข้าร่วม โดยประธานคณะ กมธ. ก็มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันนี้ได้เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีแล้ว สรุปแล้วรัฐบาลชุดนี้จะทำอย่างไรกับการนิรโทษกรรมเพราะรัฐบาลเคยพูดในเรื่องของการแก้ปัญหาทางการเมือง สุดท้ายแล้วที่เคยพูดไว้นั้นจะเป็นอย่างไร และเรามีความกังวลว่าการที่คณะรัฐมนตรีจะเสนอร่างกฎหมายหรือแม้แต่จะเสนอในรูปของพรรคการเมืองในฝั่งรัฐบาลจะมีหรือไม่ สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องที่ขาดความแน่นอน และความขัดแย้งในสังคมก็จะยังคงมีอยู่ การคลี่คลายปัญหาก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ของสังคมไทยที่ต้องการเห็นความกล้าหาญของรัฐบาลนี้ในการรักษาคำพูด เราเองไม่คาดคิดว่าสุดท้ายจะจบในลักษณะนี้ เราคิดว่าเรื่องนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะพรรคเพื่อไทยพูดอย่างชัดเจนเมื่อช่วงเช้าว่าสนับสนุนรายงานและสนับสนุนข้อสังเกต
ทั้งนี้ แม้โดยหลักการ ในเรื่องข้อสังเกตจะถูกคว่ำก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะไม่สามารถเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมได้ แต่แน่นอนว่าความเชื่อมั่นของประชาชนคงถูกทำลายลง เพราะแม้แต่ข้อสังเกตก็ยังไม่ผ่าน อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่หมดหวัง ในฐานะพรรคประชาชนจะยังคงยืนยันเดินหน้าผลักดันให้เกิดการนิรโทษกรรมและเชื่อว่าการนิรโทษกรรมคือประตูที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้