ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพกำลังหวานฉ่ำชื่นใจ

ล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เปิดไฟเขียวให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ จำนวน 12 ลำ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่รุ่นเก่าที่ใช้งานมานานเกิน 30 ปี

โดยจัดงบก่อหนี้ผูกพันวงเงิน 19,500 ล้านบาท จัดซื้อลอตแรกจำนวน 6 ลำ บวกสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาดอีก 975 ล้านบาท

รวมเป็นเงิน 20,475 ล้านบาท เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

ส่วนที่เหลืออีก 6 ลำ รัฐบาลจะทยอยจัดงบผูกพันระยะต่อไปให้ครบ 1 ฝูง 12 ลำ ตามที่กองทัพอากาศเสนอมา

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ของกองทัพอากาศ มีบริษัทผลิตเครื่องบินขับไล่ 2 ค่ายเข้ารอบชิงดำ

เต็งหนึ่ง “กริพเพน ยาส 39” ของบริษัทซาบสวีเดน

เต็งสอง “เอฟ 16 บล็อก 70” ของบริษัทล็อกฮีด อเมริกา

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าพี่เบิ้มอเมริกาต้องการให้รัฐบาลไทยตัดสินใจเลือกเครื่องบินเอฟ 16 เพื่อกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง

เพราะเมื่อเครื่องบินเอฟ 16 รุ่นเก่าถึงกำหนดปลดประจำการก็อยากให้ใช้เครื่องบินเอฟ 16 รุ่นใหม่ที่ขีดความสามารถสูงกว่ามาทดแทน

โดยเสนอเงื่อนไขพิเศษเพื่อจูงใจให้รัฐบาลไทยเลือกเครื่องบินเอฟ 16 บล็อก 70 เป็นเครื่องบินรบหลักของกองทัพอากาศไทยต่อไปในระยะยาว

แต่...กองทัพอากาศได้ตัดสินใจเลือกจิ้มเครื่องบินกริพเพน รุ่นยาส 39 ของสวีเดน

ยืนยันนั่งยันจะเอา “กริพเพน” ยี่ห้อเดียว!!

เมื่อกองทัพอากาศยืนยัน รัฐบาลก็ยินยอมตามที่คุณขอมา

เพื่อกระชับความสัมพันธ์กองทัพให้แน่นปั้กยิ่งกว่าเดิม

“แม่ลูกจันทร์” มองว่างบจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ระยะแรก สองหมื่นล้านบาท เป็นเงินก้อนใหญ่เอาการ

...

และยังต้องจัดซื้อลอตที่ 2 อีก 6 ลำให้ครบ 12 ลำ

ในเมื่องบจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่เป็นเงินภาษีประชาชน

ประชาชนผู้จ่ายภาษีควรได้รับคำชี้แจงให้กระจ่างแจ้งชัดเจนว่า “กริพเพน” เจ๋งกว่า “เอฟ 16” อย่างไร??

เปรียบเทียบราคาเครื่องบินขับไล่ทั้ง 2 ค่ายแบบลำต่อลำ??

และเปรียบเทียบราคาเครื่องบินกริพเพนที่สวีเดนขายให้ประเทศอื่นกับราคาที่สวีเดนขายให้กองทัพอากาศไทย

เพื่อรับประกันความมั่นใจว่าไทยไม่ได้ซื้อเครื่องบินแพงกว่าประเทศอื่นอย่างที่เคยเป็นข่าวอึกทึกครึกโครม

ข้อสำคัญ รัฐบาลควรเปิดเผยเงื่อนไขพิเศษที่ทั้ง 2 ฝ่ายเสนอให้พิจารณา

เพื่อหาคำตอบว่าค่ายไหน “ใจถึงพึ่งได้” ยิ่งกว่ากัน??

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าการจัดซื้อเครื่องบินรบ หรือจัดซื้อเรือดำน้ำ หรือจัดซื้อรถถัง หรือจัดซื้อสรรพาวุธ ราคาแพงๆ

ไม่ควรเป็น “ความลับทางราชการ” อีกต่อไป!!

ควรเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบทั่วกัน

“ความโปร่งใส” จะทำให้การจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทไม่เกิดคำถามตามมา

ซึ่งจะดีต่อกองทัพอากาศเอง ดีต่อรัฐบาลด้วย และดีต่อประชาชนผู้จ่ายภาษีนะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม