ศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้น 15 วัน สั่งอัยการสูงสุดตอบกลับได้ดำเนินการตามคำร้องกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันใช้สิทธิหรือเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ 6 ประเด็น พร้อมแจงรวบรวมหลักฐานได้แค่ไหน “ทวี” ยันวงดินเนอร์พรรคร่วมฯเห็นพ้องคำร้องไม่มีข้อเท็จจริง ยืนกรานไม่มีใครมาสั่งการหรือครอบงำ “นายกฯอิ๊งค์” เร่งถ่ายรูปทรัพย์สินแจง ป.ป.ช.ในกรอบ 3 เดือน ปัดพ่อยังไม่มีแผนบินไปดูไบเจรจาธุรกิจ พท.-ปชป.ประสานเสียงปิดประตูตายนิรโทษคดี ม.112 “วิสุทธิ์” ออกตัวไม่เสียหน้าหากรายงาน กมธ.ศึกษานิรโทษฯถูกคว่ำกลางทาง โวยเลิกโยนผิดใส่รัฐบาล พท.เซ่นคดีตากใบ พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าไม่กังวลกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับพิจารณาคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้น 15 วัน ให้อัยการสูงสุดตอบกลับและส่งหลักฐานกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ อิสระ ร้องพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ก่อนพิจารณาจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่

นายกฯเลี่ยงม็อบเข้าทำเนียบฯถก ครม.

เมื่อเวลา 09.17 น. วันที่ 22 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเปลี่ยนเส้นทางไปเข้าทางประตู 6 ฝั่งน้ำพุ เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากผู้ชุมนุมกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เคลื่อนขบวนมาที่เชิงสะพานอรทัย ที่ปกตินายกฯจะใช้ผ่านเข้าออกแทนประตูสะพานชมัย มรุเชฐ ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพราะยังอยู่บัญชาการสถานการณ์อุทกภัย ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า ขณะที่ ครม.ลาประชุม 3 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษาฯ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง

...

ปิดจ๊อบคืนพื้นที่เชียงราย 27 ต.ค.

ต่อมาเวลา 12.05 น. น.ส.แพทองธารแถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่าได้ติดตามการดำเนินการของ ศปช.ส่วนหน้าที่ จ.เชียงราย มีแผนว่าจะได้พื้นที่คืนในวันที่ 27 ต.ค. และส่งมอบพื้นที่ มีการรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ จ.เชียงราย และช่วงเช้ามีการร่วมประชุม ครม.ผ่านโปรแกรมซูม และแจ้งว่าสถานการณ์เรียบร้อยดี วันที่ 27 ต.ค. ภารกิจจะจบหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งแรกที่ จ.เชียงรายและ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 24-26 พ.ย. เบื้องต้นวันที่ 24 พ.ย.นายกฯ จะลงพื้นที่ จ.เชียงราย พักค้างคืนที่ จ.เชียงราย 1 คืน จากนั้นวันที่ 25 พ.ย. ไปลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นอนพักค้างคืนที่ จ.เชียงใหม่ 1 คืน ก่อนประชุม ครม.สัญจรในวันที่ 26 พ.ย.

เร่งถ่ายรูปสมบัติแจง ป.ป.ช.ใน 3 เดือน

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงการโอนหุ้นอีก 16 บริษัทที่เหลือว่า ขณะนี้บริษัทช่วยกันดูอยู่ จะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย กรอบระยะเวลามีอยู่ 3 เดือน น่าจะเป็นช่วงปลายเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. ขณะนี้อยู่ระหว่างการถ่ายรูปทรัพย์สินทุกสิ่งอย่าง เมื่อถามย้ำว่ามีอะไรน่าหนักใจหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า กลัวไม่ครบ แต่จะทำอย่างเต็มที่ได้ปรึกษารองนายกฯที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินว่าทำอย่างไรกันบ้าง อยากทำให้ทุกอย่างถูกต้องแค่นั้น อย่างอื่นไม่มีเรื่องอะไร เมื่อถามว่า บริษัทประไหมสุหรี พรอพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด เป็นการขายหุ้นหรือโอนให้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวให้รายละเอียดอีกครั้ง เพราะมันมีเยอะ

แจงพ่อไร้แผนบินดูไบคุยธุรกิจ

เมื่อถามอีกว่า ในวงทานมื้อค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ได้พูดคุยเรื่องโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุยหลายเรื่อง มีหลายเรื่อง เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีเรื่องดังกล่าวด้วยใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีเยอะ เมื่อถามอีกว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่สรุปเลย เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยื่นศาล อาญา ขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์เพื่อพูดคุยธุรกิจว่า “ยังไม่มีแพลนเลย”

“ทวี” ย้ำคำร้องยุบพรรคไร้ข้อเท็จจริง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 ต.ค.หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับพิจารณาคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯครอบงำว่า ไม่มีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้าง ประเด็นที่ว่าครอบงำคงไม่ใช่ เพราะทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่นายกฯ ก่อนจะเลือกเรามาประชุมกัน ครั้งนั้น เราคาดไม่ถึงว่านายเศรษฐา ทวีสิน จะหลุดเก้าอี้นายกฯ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมีการพบปะคุยกัน ไม่มีใครมาชี้นำหรือมาครอบงำ ทุกอย่างมีกฎหมายล็อกเอาไว้หมด เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายทักษิณ เชิญทุกพรรคไปพูดคุยหรือไปหากันเอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ทราบถึงประเด็นนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาติ หลังจากนั้นมีคนโทรศัพท์มา

ศาล รธน.ถกคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างฯ

เมื่อเวลา 14.06 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาหารือคดีกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่านายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 รพ.ตำรวจในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤติ ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกฯ ของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทย ให้แก่ประเทศกัมพูชา

กดปุ่มแก้ รธน.-คุมเกมเลือกนายกฯ

ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน (ปชน.)ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองฯ ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกฯคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้อง ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้อง ที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา

ขีดเส้น 15 วันให้ อสส.ตอบกลับ

เอกสารข่าวระบุอีกว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าวและให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณา ของศาลว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่า ได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

พท.-ปชป.ย้ำไม่นิรโทษคดี ม.112

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนพรรค พท.ต่อรายงาน กมธ.วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆมีจุดยืนชัดเจนไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ว่า อยู่ที่สภาฯเรียบร้อยแล้ว นายกฯตอบไปแล้ว ไม่ต้องถามซ้ำ เพราะเห็นเหมือนกันว่าไม่เอามาตรา 112 ที่เป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล สภาฯกับฝ่ายบริหารร่วมมือกันทำงานที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ในสภามีวิปรัฐบาลดำเนินการกฎหมายแต่ละฉบับ ถ้าเห็นเหมือนหรือเห็นต่างมาว่ากันในรายละเอียด 2 อำนาจนี้แยกกันชัดเจน เห็นเหมือนหรือเห็นต่างกันบ้าง และการพูดคุยเมื่อวันที่ 21 ต.ค.มีทั้งเห็นเหมือนกันและเห็นต่างกัน เป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องไปพูดคุยกัน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้นๆถึงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพเมื่อคืนวัน 21 ต.ค. ว่า นายกฯตอบไปหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกฎหมายนิรโทษกรรม พรรค ปชป.มีจุดยืนอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า จุดยืนเราไม่แตะมาตรา 112

เชื่อ สส.รัฐบาลไปทางเดียวกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า เป็นข้อสรุปชัดเจนหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. ร่วมทานอาหารค่ำกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ค่ำวันที่ 21 ต.ค. นายกฯพูดชัดเจนการนิรโทษกรรมไม่แตะมาตรา 112 รวมถึงหากจะแก้รัฐธรรมนูญไม่แตะหมวด 1-2 นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี หากปล่อยปละละเลยให้แก้ไขมาตราดังกล่าวหรือนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดมาตรานี้ อาจสร้างความแตกแยกขัดแย้งคนภายในชาติได้ เชื่อว่าการประชุมสภาฯ วันที่ 24 ต.ค. สส.พรรคร่วม รัฐบาลจะเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เรื่องรายงานผลการศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่รวมคดีมาตรา 112

ไม่เสียหน้าถ้ารายงาน กมธ.ถูกคว่ำ

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การประชุมสภาฯ วันที่ 24 ต.ค.พิจารณารายงานคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การลงมติมี 2 ทาง หากสภาฯเห็นชอบข้อสังเกต กมธ.จะส่งให้รัฐบาล แต่จะทำหรือไม่ ไม่มีข้อบังคับ หรือหาก สส.ไม่เห็นด้วยไม่ต้องส่งไป ทิศทางการโหวตยังระบุไม่ได้ต้องรอวันที่ 24 ต.ค. พรรค พท.จะปล่อยฟรีโหวตหรือไม่ต้องหารือกัน ฟังคำชี้แจงนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธาน กมธ. หากสภาฯ โหวตไม่รับรายงาน กมธ. ไม่ถือว่าพรรค พท.เสียหน้า กมธ.ไม่ได้มีแต่พรรค พท. มีทุกพรรครวมถึงฝ่ายค้าน ผลการศึกษาไม่ใช่ของพรรค พท. เป็นของทุกพรรค หากสภาฯไม่เห็นชอบไม่เป็นไร เป็นแค่ผลการศึกษา ไม่ใช่กฎหมายของพรรค พท. และไม่เกี่ยวกับการตรา พ.ร.บ. ส่วน การพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่บรรจุวาระหลังจากนี้ ในวาระมีหลายฉบับสมัยประชุมนี้ไม่ทัน จะเข้าสมัยหน้าได้หรือไม่ต้องพิจารณา ถ้ามีเรื่องด่วนต้องว่าไปตามข้อบังคับ ส่วนการแก้ไขมาตรา 112 ยืนยัน 1,000% พรรค พท.ไม่แก้ไขเด็ดขาด

เชื่อยังมีทางออกเกณฑ์ประชามติ

นายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะ กมธ.ร่วมกันสองสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ถ้าเห็นชอบตามฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสนอมาจะนำขึ้นทูลเกล้าฯประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป แต่ถ้า สส.ไม่เห็นชอบกับ สว.ต้องพักไว้ 180 วัน หรือ 6 เดือน แล้วจึงนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค. ไม่มีอะไรหนักใจ พรรคมองว่าการทำประชามติแบบเสียงข้างมากชั้นเดียว ไม่ยุ่งยากมาก กมธ.ร่วมอาจมีข้อเสนอที่ดีออกมาได้ น่าจะเจรจาให้ได้ทางออกดีที่สุด ถ้าใช้ได้ทันเลือกตั้ง อบจ.ต้นปี 68 จะดี ไม่ต้องเสียงบฯ 2-3 พันล้านบาททำประชามติใหม่ แต่ถ้าไม่ทันต้องทำประชามติ เสียงบฯอีก ไม่กังวลเรื่องความคิดต่าง แต่กังวลการใช้งบฯ 2-3 พันล้านบาทต่อครั้ง เป็นเงินมหาศาล ไปทำอ่างเก็บน้ำได้ทั้งจังหวัด

“นิกร” บอกหมดหวังไม่ทัน ก.พ.68

นายนิกร จำนง กรรมาธิการร่วมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กล่าวว่า หมดหวังต่อการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ช่วงเดียวกับการเลือกท้องถิ่น เดือน ก.พ.68 เนื่องจาก กมธ.ยังไม่ได้นัดหารือเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ประชามติที่วุฒิสภาแก้ไขหลักเกณฑ์ผ่านประชามติแก้รัฐธรรมนูญ หากมีการประชุม กมธ.ร่วมกันเกิดขึ้นวันที่ 28 ต.ค.และทำเสร็จภายในวันเดียว ไม่สามารถส่งให้แต่ละสภาฯ พิจารณาลงมติได้ทันภายในสมัยประชุมที่จะปิดสมัยวันที่ 30 ต.ค. ส่วนข้อเสนอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญในเดือน พ.ย.ยังไม่ใช่เหตุจำเป็นที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้ ดังนั้น การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติของ กมธ.ร่วมจะเกิดขึ้นในสมัยประชุมหน้าเดือน ธ.ค. จึงเป็นไปไม่ได้ที่การพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทันต่อการทำประชามติเดือน ก.พ.68

“อ้วน” อู้อี้ออก พ.ร.ก.ยืดอายุคดีตากใบ

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว. กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักวิชาการเสนอให้ออก พ.ร.ก.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 เพื่อแก้ไขไม่ให้คดีตากใบหมดอายุความ ว่า ได้ให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาดูอยู่ ทั้งหมดต้องว่ากันตามกฎหมาย อยากให้ดูให้ถ่องแท้เป็นเรื่องเก่า 20 ปีมาแล้ว รัฐบาลในอดีตทำมาโดยตลอดไม่เคยทอดทิ้ง ไม่ได้ปฏิเสธญาติผู้เสียหาย พยายามดูแลมีการเยียวยา 600 กว่าล้านบาท เมื่อคดียุติแล้ว ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ อย่าใช้ประเด็นการติดตามตัวผู้ต้องหามาอ้างว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เมื่อถามว่ามีการประเมินหลังวันที่ 25 ต.ค. จะเกิดเงื่อนไขใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายภูมิธรรมตอบว่า เงื่อนไขในภาคใต้มีอยู่ตลอด เรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐไทย ไม่ใช่ความมั่นคงของรัฐบาล ต้องระมัดระวังอย่าเอาเรื่องนี้มาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะจะสร้างปัญหาและกระทบต่อความมั่นคง เรื่องนี้เซนซิทีฟ

โวยเลิกโยนผิดใส่ พท.ให้ว่าตามศาล

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรค พท.กล่าวว่า ในวันที่ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ ขณะนั้นยังไม่ถูกฟ้องร้องคดีใดๆ ศาลยังไม่ได้รับเป็นคดี ต้องให้ความเป็นธรรม เรื่องนี้เกิดมา 20 ปี ผ่านมาหลายรัฐบาล บางรัฐบาลอยู่เป็น 10 ปี แต่จะมาโยนให้พรรค พท.รับอย่างเดียวคงไม่ถูก ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมว่ากันตามศาล

“ทวี” ยังหวังปาฏิหาริย์จับผู้ต้องหาได้

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า คดีตากใบฝ่ายตำรวจ หน่วยงานความมั่นคงพยายามทำอย่างเต็มที่ หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ เพราะในการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ได้หยิบยกมาพูดคุยกัน ได้ตั้งผู้สอบสวนหลายคนเข้าไปช่วยสนับสนุนทางตำรวจ เราเห็นใจผู้เสียหาย ผู้สื่อข่าวถามว่า 2-3 วันนี้จะออก พ.ร.ก.ขยายอายุความได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า กระทรวงยุติธรรมเคยให้ศึกษา ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีกรรมาธิการจากทุกพรรคมาช่วยกันพิจารณา ทุกข้อเสนอแนะเรานำไปศึกษาและร่วมหาทางออก ยืนยันรัฐบาลไม่มีอคติ เรื่องการจับกุมไม่ใช่คดีแรกที่เราจับกุมไม่ได้ เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผู้ที่ถูกออกหมายจับ แต่พวกที่หลบหนีความรู้สึกของสังคมจะตามเขาไปตลอด และจะเห็นได้ว่าปี 2567 เราทำคดีตากใบมา 3 เดือน ถือว่าไม่ล่าช้า

สว.ห่วงคดีหมดอายุจุดไฟรุนแรง

นางอังคณา นีละไพจิตร สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า รัฐบาลสามารถออก พ.ร.ก.เพื่อขยายอายุความคดีตากใบได้ แม้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม บอกอาจไม่ทัน แต่เป็นสิ่งที่ ครม.ทำได้ เป็นความหวังสุดท้ายของผู้เสียหาย หากจำเลยไม่มาศาลวันที่ 25 ต.ค. คดีจะหมดอายุความเหมือนคดีมัสยิดกรือเซะที่มีผู้เสียชีวิต 31 คน ประชาชนทำผิดถูกลงโทษ แต่เจ้าหน้าที่รัฐแทบไม่เคยจับกุมผู้ทำผิดได้เลยโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องปฏิรูปกฎหมายความผิดละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง ต้องไม่มีอายุความ การปล่อยโอกาสให้เกิดความจริงในศาล คงหลีกเลี่ยงยากที่จะเกิดความรุนแรงตามมา

ตร.ยัน 14 รายมีหมายแดงหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่ประชุม กมธ.การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีตากใบมาชี้แจง นำโดย พล.ต.ต.นิตินัย หลังหย่าหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) พ.ต.อ.รังสี มั่นจิตร หัวหน้างานซักถาม ศูนย์พิทักษ์สันติ และ พ.ต.ท.เสกสรรค์ คงคืน รองผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวนคดีความมั่นคง ทั้งนี้ พ.ต.ท.เสกสรรค์ชี้แจงว่าสอบถามล่าสุดไปยังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยืนยันว่าได้ประสานตำรวจสากลออกหมายแดงแล้วทั้ง 14 คน และมีหมายเลข Control Number แล้ว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่