วันนี้ (22 ต.ค.) น่าจะถึงคิวศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้อง กรณีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยกระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ฯลฯ

โดยศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องทั้ง 6 ประเด็น ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม

บัดนี้ผ่านไปแล้ว 12 วัน น่าจะเป็นจังหวะเหมาะสมที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งรับคำร้อง? หรือไม่รับคำร้อง?

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสินใจ

หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีหลักฐานควรเชื่อว่าผู้ถูกร้องได้มีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ตามข้อกล่าวหาจริง??

ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้อดีตนายกฯทักษิณและพรรคเพื่อไทยยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

ถ้ายึดไทม์ไลน์คดียุบพรรคก้าวไกลมาเทียบเคียง...

หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้ว ต้องบวกเวลาเพิ่มไปอีก 3 เดือน จึงจะนัดอ่านคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ

ถ้าวันนี้ (22 ต.ค.) ศาลรัฐ ธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง

คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยต้นปีหน้าช่วงปลายเดือนมกราคม หรืออย่างช้าปลายเดือนกุมภาพันธ์

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าปัญหาคือเดือนหน้า (พฤศจิกายน) นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน

เพราะได้ดำรงตำแหน่งมาครบ 9 ปี!!

ทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเหลือ 7 คน จากทั้งหมด 9 คน

อาจส่งผลให้คดีพรรคเพื่อไทยต้องล่าช้าเพื่อรอให้องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครบ 9 คน

ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งลากยาว ก็ยิ่งเพิ่มความเสียวให้พรรคเพื่อไทย

เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเช็กบิลอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ตกเก้าอี้กลางคัน ยังเป็นฝันร้ายของพรรคเพื่อไทย

ถ้าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องทั้ง 6 ประเด็น

...

พรรคเพื่อไทยก็ต้องเสียวรอบ สองแน่นอน!!

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ช่วงนี้องค์กรอิสระที่แต่งตั้งในยุครัฐบาล คสช. เริ่มทยอยหมดวาระไปตามๆกัน

เดือนธันวาคมนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. จะพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน

แถมยังมีเก้าอี้กรรมการ ป.ป.ช.โบ๋อยู่ก่อนหน้านี้อีก 1 ตัว

เท่ากับสิ้นปีนี้จะมีการเปลี่ยนผ่านกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกันถึง 4 คน!!

อ้อ...เดือนสิงหาคมปีหน้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ และ นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการ กกต.ต้องพ้นตำแหน่งพร้อมกัน

ต้องสรรหา กกต.ใหม่พร้อมกันอีก 3 คน

รวมแล้วจะมีการเปลี่ยนผ่านองค์กรอิสระถึง 9 คน!!

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่านับจากนี้ไป “สว.สายสีน้ำเงิน” ซึ่งกุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาจะเป็นผู้มีอำนาจชี้ขาดให้บุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการ ป.ป.ช. และกรรมการ กกต.ครบวงจร

ใครคุมเสียง สว.สีน้ำเงินอยู่ในมือ คือผู้ชนะในทุกเกม

สว.สีน้ำเงินอยู่ในมือใคร...ไม่ต้อง ย้ำดีกว่านะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม