ประเทศไทย นอกจากอาจเป็นประเทศที่มีรัฐธรรมนูญมากที่สุด มีรัฐประหารมากที่สุดในโลก และอาจมีการร้องยุบพรรคมากที่สุดในโลก ล่าสุด นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดีกับคณะ ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรค ฐานปล่อยให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าควบคุมหรือชี้นำพรรค
ถ้ามีการยุบพรรคร่วมรัฐบาลถึง 6 พรรค การเมืองไทยอาจเข้าสู่ความระสํ่าอีกครั้ง เพราะพรรคที่ถูกร้องล้วนแต่พรรคดังๆ เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ถูกร้องว่าให้คนนอกที่มิใช่สมาชิกพรรค คือนายทักษิณ เข้าควบคุม ครอบงำพรรค เข้าข่ายอาจถูกยุบ
ข้อหายอดมหาประชานิยม ที่พรรคการเมืองไทยโดนร้องให้ยุบมากสุด คือ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ ม.49 และข้อหาเสนอแก้ไขกฎหมาย ป.อาญา ม.112 ก็เหมาเป็นล้มล้างการปกครอง ทั้งๆที่เป็นความผิดฐานหมิ่น ประมาท หรือดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย
แต่ความผิดเกี่ยวกับการล้มการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยตัวจริงอยู่ถัดไปจาก ม.122 นั่นก็คือ ป.อาญา ม.113 ความผิดฐานล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มอำนาจ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ รวมเป็นความผิดฐานกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ม.113 ล้มล้างการปกครองมาถึง 12 ครั้ง
แต่ ป.อาญา ม.112 ไม่เคยล้มล้างการปกครอง อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแม้แต่ครั้งเดียว นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นระบอบประชาธิปไตยมากว่า 92 ปี แต่ถูกใช้เป็นกฎหมาย เกี่ยวกับความผิดว่าด้วยการยุบพรรค และล้มล้างการปกครอง แต่ผู้ที่ทำผิด ม.113 โทษฐานกบฏ กลับปล่อยให้ลอยนวลเป็น “เทวดา”
“เทวดา” เป็นชนชั้นผู้อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษจากการกระทำผิดใดๆ ซึ่งมีมากขึ้นตามลำดับในสังคมไทย เช่น อดีตนายกรัฐมนตรีเป็น “นักโทษเทวดา” แม้จะต้องคำพิพากษาทำผิดหลายคดี ก็ไม่ต้องรับโทษใดๆ และในขณะที่ “คดีดิ ไอคอน” ที่โด่งดัง ก็เกิด “เทวดา” ขึ้นมาอีกมาก ล้วนอยู่เหนือกฎหมาย
...
มีทั้งข้าราชการและนักการเมือง ที่ถูกกล่าวหานั่งคอยรับเงิน จากกลุ่มอาชีพที่น่าสงสัย วางตัวอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องรับผิดใดๆ ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัด บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพ และได้รับความคุ้มครองกฎหมายเท่าเทียมกัน กลุ่มผู้อยู่เหนือกฎหมาย คือผู้ที่อยู่เหนือกฎหมาย ต้องได้รับโทษเท่าเทียม
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม