นายกฯ แพทองธาร ร่วมงาน Thairath Afternoon Gala 2024 มอบช่อดอกไม้และเงินสนับสนุนให้กำลังใจมูลนิธิไทยรัฐ ด้าน “พล.ต.อ.เพิ่มพูน” ชวนทุกฝ่ายร่วมปฏิวัติการศึกษาไทย ขณะที่ “จิรายุ” ชู “ไทยรัฐวิทยา” เป็นสถาบันบ่มเยาวชน ย้ำ รัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาการศึกษาทุกด้าน
วันที่ 18 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงาน Thairath Afternoon Gala 2024 ที่มุ่งเน้นบทบาทสำคัญของการศึกษาในฐานะสื่อหลักเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Empowering Through Education” โดยได้รับเกียรติจากบุคคลที่เป็นผู้นำทางความคิดมาร่วมการเสวนาแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการศึกษา อันเป็นหัวใจหลักของงาน ประกอบด้วย คุณบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคุณจิตสุภา วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์ รวมถึงกรรมการมูลนิธิไทยรัฐ เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการศึกษา และการพัฒนาสังคมจากมุมมองของผู้นำระดับประเทศ ซึ่งดำเนินรายการโดย “กาย-พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ”
โดยหลังเข้าร่วมงานนายกรัฐมนตรี ได้มอบช่อดอกไม้ และเงินสนับสนุนมูลนิธิไทยรัฐ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหารไทยรัฐ คุณบัณฑูร ล่ำซำ และคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ก่อนจะเดินทางกลับ
...
“พล.ต.อ.เพิ่มพูน” ชวนทุกฝ่ายร่วมปฏิวัติการศึกษาไทย
ด้าน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า จากนี้ทุกคนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการศึกษาไทยและขอเชิญชวนให้มาร่วมกันปฏิวัติการศึกษาของไทยเพราะคนใดคนหนึ่งทำฝ่ายเดียวไม่ได้ โดยตนจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาให้รวดเร็วและเร่งด่วน ดีใจที่วันนี้ได้เห็นภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนการศึกษากันมากขึ้น โดยเรื่องแรกที่ทุกคนจะได้เห็นก็คือเด็กรุ่นใหม่ที่ก้าวทันโลกและเห็นผลการประเมินของพิซ่าในรอบปีหน้า คาดว่าน่าจะดีกว่าในอดีตที่ผ่านมาแน่นอนและดีใจที่ได้เห็นภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนการศึกษากันมากขึ้น
“จิรายุ” ย้ำ รัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาการศึกษาทุกด้าน
ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล กล่าวถึงความหวังในการศึกษาของประเทศไทย โดยระบุว่า ขณะนี้ต้องดูความต้องการของโลก ว่าต้องการการศึกษาแบบใด ที่จะสอดรับกับธุรกิจและอุตสาหกรรม เหมือนกับที่สถาบันอาชีวะศึกษาเกิดขึ้นมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว รวมไปถึงโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ที่เป็นสถาบันบ่มเพาะเยาวชน แม้ว่าหลายคนอาจจะเห็นว่าการศึกษาอาจจะด้อย แต่สำหรับตนก็ยังดีกว่าอีกหลายร้อยประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็จะมุ่งมั่นแก้ปัญหาต่าง ๆ
ส่วนการแก้ไขและพัฒนาการศึกษาของรัฐบาล ในวาระ 3 ปีที่เหลือจากนี้ นายจิรายุ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้น คือการเรียนจบแล้วไม่มีการรับรอง หรือหางานทำไม่ได้ ส่วนระยะยาวคือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องการศึกษา อาจจะบรรจุเรื่องของภาษาที่สองไว้ เมื่อก่อนอาจจะเรียนแค่ภาษาอังกฤษ หรือฝรั่งเศส แต่โลกขณะนี้เปลี่ยนไปมาก ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะใช้เวลาอันสั้นในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
“จุลพันธ์” ชี้ นโยบายเพื่อไทยส่งเสริมทุกคนเรียนรู้ตลอดชีวิต
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อยากเห็นการศึกษาไทยมีความเท่าเทียม มีโอกาสที่เท่ากัน ไม่ว่าเด็กในต่างจังหวัดหรือเด็กในกรุงเทพมหานคร ควรมีโอกาสได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตามศักยภาพจุดสูงสุดตามที่เขาต้องการ นี่คือความหวังของตน แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องขับเคลื่อน อย่างนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็คือการส่งเสริมให้ทุกคนเรียนรู้ตลอดชีวิต ตรงนี้ก็เป็นกลไกหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาที่มีความเหมาะสมได้ เราหวังว่าภายในสมัยของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร เราจะได้เห็นการศึกษาที่เปลี่ยนไป ก้าวไปสู่มาตรฐานสากล แม้กระทรวงศึกษาธิการจะไม่ใช่กระทรวงที่พรรคเพื่อไทยดูแล แต่ใครก็ตามที่มาจากประชาชนก็มีความตั้งใจที่จะทำงานให้พี่น้องประชาชนอยู่แล้ว
“หญิงหน่อย” ชี้ การศึกษาไทยต้องเร่งปรับหลักสูตรโดยด่วน ใช้ AI เข้าช่วย
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า การศึกษาไทยต้องได้รับการปฏิรูปใหม่หมด เพราะยังมีปัญหาตั้งแต่เรื่องของหลักสูตร วิธีคิดในการสอนเด็ก ยังใช้การท่องจำมากกว่าการให้คิดสร้างสรรค์ ต้องยอมรับว่าขณะนี้เรามีความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาสูงมากระหว่างคนรวยกับคนจน ระหว่างเด็กในเมืองกับเด็กชนบท ตามชนบทห่างไกลยังมีครูคนเดียวที่สอนทุกวิชาทุกชั้นให้ได้เห็นกันอยู่ ยิ่งมาเจอกับโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีจึงทำให้การศึกษาไทยถอยหลัง
ส่วนตัวสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษา อย่างมูลนิธิไทยรัฐที่ได้ทำโรงเรียน ต้องยอมรับว่าบางแห่งทันสมัยกว่าโรงเรียนของรัฐบาล ตั้งแต่ยุคแรกๆ พยายามสนับสนุนให้เด็กมีการใช้คอมพิวเตอร์ ตนอยากบอกว่าวันนี้ต้องเร่งปรับหลักสูตรการเรียนสอนโดยด่วน ใช้ออนไลน์ ใช้ครูที่เก่งที่สุดในประเทศมาสอนไปที่รร.ตามยอดดอย ให้เด็กสามารถมีปฏิสัมพันธ์ตอบสนองกับครูได้ และใช้ระบบเอไอมาช่วย
คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่าสาเหตุที่ทำให้การศึกษาไทยถอยหลัง หรือตามหลังประเทศอาเซียนอื่นๆ อาจเป็นเพราะฝ่ายการเมืองมองการแก้ปัญหาระยะสั้น เพราะต้องรีบทำเพื่อให้ได้คะแนนเสียงให้เห็นผลงานภายใน 4 ปี แต่การแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาต้องใช้ระยะเวลา เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแล้วจากนี้ไปการจะแก้ปัญหาด้านการศึกษาจะไม่ใช้เวลานานที่เรากล้าลงมือ และใช้งบประมาณน้อยด้วย อยากเห็นตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม อาจเห็นผลภายใน 2-3 ปี หากเรายกเครื่องการศึกษาไทยจริงๆ
“เอกนัฏ” แนะ คัดสรร “ครูใหญ่” ในวัยแอคทีฟ ช่วยพัฒนาการศึกษา
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ มองว่าทักษะยุคใหม่ ทักษะสมัยใหม่ รวมถึงการเอาตัวรอด ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ในเชิงผู้นำ เป็นทักษะที่เราต้องสอนเยาวชน หาวิธีที่จะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ซึมซับได้ จริงๆ ยิ่งยุคเทคโนโลยีด้วยแล้วทำให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษา เข้าถึงข้อมูลแหล่งความรู้ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันมันเป็นดาบสองคม ต้องใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูก “ผมคิดว่าถ้าเราคิดให้ดี ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะสามารถดึงช่องว่างทางการศึกษาให้แคบลงได้ ทำให้แหล่งความรู้และข้อมูลด้านการศึกษาไปถึงเยาวชนและทุกคนได้มากขึ้นกว่านี้”
นายเอกนัฏยังเชื่อว่าหากจะทำการศึกษาของไทยให้ดีขึ้น ในงานเสวนา “Empowering Through Education” มีชุดความคิดหนึ่งที่ตนเห็นว่าน่าสนใจมากนั่นก็คือ จากการวิเคราะห์บุคคลที่มีผลมากที่สุดสำหรับการศึกษาก็คือ “ครูใหญ่” หากสามารถกระจายให้ผอ.รร.ให้ครูใหญ่ได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น คัดสรรครูใหญ่เอาบุคคลที่อยู่ในวัยเด็กและแอคทีฟมากกว่านี้ ที่สำคัญต้องดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนด้านวิทยาการและงบประมาณ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของไทย ไม่ให้กระจุกตัวกระจุกความคิดอยู่กับคนเพียงแค่กลุ่มเดียว
ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์