“ชูศักดิ์ ศิรินิล” โยน “พศ.” ดูปมดิไอคอนฯ หลังคลิป “พระ ว.วชิรเมธี” ว่อนโซเชียลฯ หลัง 2 วันก่อนสั่งพศ.ติดตาม บอกเป็นฆราวาสคงชี้ถูกผิดไม่ได้ เว้นมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 18 ต.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้โลกโซเชียลมีการเผยแพร่คลิปพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ที่เคยไปบรรยายธรรมะที่สำนักงานบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป โดยช่วงหนึ่งมีพระว.วชิรเมธีได้พูดอวยดิไอคอนกรุ๊ป ถือว่าไม่เหมาะสม ในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะต้องมีการตรวจสอบอะไรหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องของพระ ตนเป็นฆราวาสคงไม่มีอำนาจไปตรวจอะไรพระ เป็นเรื่องขององค์กรพระที่จะดูแล

เมื่อถามว่า จากคลิปที่ปรากฏถือว่าขัดต่อหลักพระธรรมวินัยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะเป็นเรื่องของพระวินัยก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไป เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่มีอำนาจหน้าที่จะพิจารณา เราคงไม่ไปก้าวล่วงอะไรเว้นแต่จะมีเรื่องเข้ามา

เมื่อถามว่า เรื่องบานปลายจะกำชับพศ. อย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนบอกไปว่าถ้ามีเรื่องเข้ามาก็ให้พิจารณา และส่งเรื่องมาว่าเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ต้องดูว่าเป็นอย่างไร เราคงไม่สามารถตัดสินได้เวลานี้เว้นแต่จะมีเรื่องส่งเข้ามาที่พศ. ก็ต้องทำรายงานมาว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และเบื้องต้นเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาตนได้สั่งให้พศ.ติดตามเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ให้ดูให้ละเอียดถ้ามีปัญหาอะไรก็ส่งมา ตนยังไม่สามารถไปตัดสินหรือชี้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร พูดง่ายๆ ว่าเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องต้องให้คนที่เขาเกี่ยวข้องดูแลพิจารณากันไป

เมื่อถามว่า หากเป็นคดีอาญาจะสามารถจัดการได้เองหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดูในภาพรวม ซึ่งตนย้ำว่าเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ต้องดูแลกันผิดถูกอย่างไรก็ว่ากันไป เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเรียกทางพศ.เข้ามาหารือในเรื่องนี้ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็บอกไปแล้วว่าเมื่อมีคลิปปรากฏก็ให้ลองดู หากมีเรื่องอะไรก็สรุปมาให้ฟังว่าเป็นอย่างไร

...

เมื่อถามว่า ตามหลักพระพุทธศาสนาถือว่าผิดหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถชี้ได้ว่าผิดหรือไม่ผิดเป็นเรื่องของสงฆ์ที่ต้องดู ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขณะโลกเปลี่ยนแปลงไป เพราะเมื่อก่อนพระก็เทศน์อย่างเดียว แต่ช่วงหลังก็มีการแสดงความเห็นซึ่งเป็นเรื่องของพระ และพวกนี้เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าเรามีองค์กรที่ดูแลอยู่ก็ให้องค์กรเขาว่ากันไป

เมื่อถามว่า จะทำให้วงการพระสงฆ์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันเอง เราเห็นว่าในอดีตมีพระมากมายที่แสดงออกเรื่องเงินทองแล้วท้ายที่สุดเวลาหนึ่งสังคมก็พิพากษาว่าถูกหรือผิด แต่ครั้งนี้เราไม่ควรไปตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรให้องค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ได้พิจารณา

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเข้าไปถวายรายงานสมเด็จพระสังฆราชในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าองค์กรนี้มีคนดูแลอยู่แล้ว ก็ดูว่าอะไรเป็นอะไร ที่สำคัญคือต้องดูว่ามีคนว่ากล่าวร้องเรียนอะไรหรือไม่