“ช่อ พรรณิการ์” โฆษก กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ แถลงเรียกร้องเร่งนำตัวจำเลยคดีตากใบส่งศาล เตรียมเชิญ “ภูมิธรรม-เลขาฯ สมช.-แม่ทัพภาค 4” หารือรับมือสถานการณ์ แนะรัฐบาลชี้แจง หากคดีหมดอายุความโดยไม่สามารถนำตัวจำเลยขึ้นศาล

วันที่ 17 ตุลาคม 2567 น.ส.พรรณิการ์ วานิช และ นายฮานาฟี หมีนเส็น โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงข่าวว่า กมธ. มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการติดตามตัวจำเลยคดีสลายการชุมนุมตากใบ หากไม่สามารถนำจำเลยมาส่งศาลได้ก่อนหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในอย่างน้อย 3 ระดับ คือ

1. ประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้จะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกปฏิบัติอย่างสองมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มอุปสรรคในการสร้างความสมานฉันท์และสันติภาพในพื้นที่ นอกจากนี้ คดีตากใบจะเป็นอีกคดีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด (impunity) ในสังคมไทย

2. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผลและใช้เป็นข้ออ้างก่อเหตุรุนแรง เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล นำมาสู่ความสูญเสียในพื้นที่เพิ่มขึ้น

...

3. อาจเกิดความไม่แน่นอนในสถานะของการพูดคุยสันติสุขระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งมีการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่มาแล้วในรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และยังอยู่ระหว่างการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการคลี่คลายความขัดแย้งในชายแดนใต้โดยรัฐบาลปัจจุบัน

ทั้งนี้ กมธ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภายใต้เวลาอันจำกัดที่เหลืออยู่นี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีตากใบจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถในการทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไปตามครรลอง และอำนวยความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ทั้งประชาชนผู้สูญเสีย และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ อีกทั้ง กมธ. เห็นว่ารัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมให้กลับคืนมาและให้ความยุติธรรมกับผู้สูญเสียทุกคน ด้วยการนำผู้ถูกกล่าวหามาแสดงตนเพื่อพิสูจน์ตนเองต่อศาลตามระบบยุติธรรมต่อไป

สุดท้าย หากไม่สามารถดำเนินการนำตัวจำเลยมาเข้ากระบวนการได้ทันเวลาก่อนหมดอายุความ กมธ. เสนอให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อผู้เสียหายโดยมีคำแถลงชี้แจงอย่างเหมาะสมและชัดเจน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายปมความขัดแย้งในชายแดนใต้และปูทางไปสู่การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต

ขณะเดียวกัน กมธ. ยังมีมติให้เชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาร่วมหารือกับ กมธ. ในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 เพื่อประเมินผลกระทบจากคดีตากใบที่จะหมดอายุความ และหารือออกแนวทางการรับมือที่เหมาะสม เพื่อธำรงกระบวนการสร้างสันติภาพและความปรองดองสมานฉันท์ในพื้นที่ชายแดนใต้ต่อไป.