โร่ขึ้นโรงพัก เคลียร์ตัวเองกันจ้าละหวั่น บรรดาบอส “ดิ ไอคอน”

ขืนนิ่งดูดายตำรวจออกหมายจับแล้วจะเสียชื่อ ประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ยังบานไม่หุบ วิจารณ์ไปหลายแง่มุม แต่เหนืออื่นใดคือเหยื่อผู้เสียหายมากมายใครต้องรับผิดชอบ

เรื่องนี้มีปมลากโยงฉาวโฉ่ถึงคนการเมือง ตามคลิปเสียงลับที่ “บอสใหญ่” เจ้าของอาณาจักรยอมรับเป็นเสียงตัวเองคุยกับ “ขาใหญ่”

มองเจตนาแล้วมีเงื่อนงำ เพราะคลิปอัดไว้นานแล้วเพิ่งหลุดออกมา

ส่วนเสียงคู่สนทนาคือใคร คนการเมืองรู้หมดแล้ว พฤติกรรมอวดเบ่ง เรียกค่าคุ้มครอง อ้างเคลียร์ได้หมดไม่ว่าดีเอสไอ สคบ. หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคต่างๆ

กระแสพุ่งเป้าไปที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ แต่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของเสียงในคลิป

ล่าสุด “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด บุกไปยื่นหนังสือถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จี้ให้มีมติขับนายสามารถออกจากสมาชิกพรรค ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ขอให้ตรวจสอบคลิปเสียงที่เป็นข่าว โดยเฉพาะการเรียกรับเงินเดือนละ 100,000 บาท และที่อ้างว่าสามารถโยกย้ายข้าราชการได้

สังคมกดดันพลังประชารัฐอยู่เฉยไม่ได้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค เผยในวงหารือคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคบอก พล.อ.ประวิตร ยืนยันมาตรฐานจริยธรรมของพรรค พร้อมเอาผิดทางวินัยและอาญา

หากมีข้อมูลหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าเชื่อมโยงคนในพรรค ไม่ปกป้องคนผิด ยืนยันไม่เอาไว้แน่นอน

ส่วน “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ออกตัวว่าต้องดูช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่านายสามารถเป็นสมาชิกพรรคหรือยัง แต่แม้จะไม่ใช่สมาชิกพรรคตอนนั้น โดยหลักการคนที่ไม่ดี หรือไม่มีจริยธรรม หรือทุจริตต่อหน้าที่ ทำงานการเมืองไม่ได้อยู่แล้ว

...

เหมือนโดนย้อนเกล็ด หรือวิบากกรรมทำงาน ตามปกติ “ทีมบ้านป่า” พลังประชารัฐ จะทำหน้าที่รุกไล่ ตรวจสอบ ร้องเรียน มาวันนี้ต้องตรวจสอบภายในกันเอง

เสียรังวัด เสียเครดิต หอกที่เอาไว้ทิ่มคนอื่นทื่อลงไปถนัดตา

กระแสการเมืองก็ทรุดลงไปอีก จากที่คนสงสัยไม่เชื่อน้ำยาอยู่แล้ว เจอเคสแบบนี้เข้าไปจึงขึงขังเอาจริงเอาจัง

ประธานสภา “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” สั่งเข้มไปถึงคณะกรรมาธิการทุกชุด ตรวจสอบบุคคลที่ตั้งเป็นที่ปรึกษา หรือคณะทำงาน หากไม่น่าเชื่อถือให้ถอดถอนจากกรรมาธิการ

หากเกิดกรณีแอบอ้างจนเกิดความเสียหาย ประธานคณะกรรมาธิการจะต้องรับผิดชอบตามบทลงโทษของสภา ถ้าหากร้ายแรงก็ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.

ต้องล้างบางปัดกวาดให้เฉียบขาดและป้องกันให้เข้มขลัง เพราะเรื่องฉาวโฉ่ต่างๆ มักเกิดเพราะเอาตำแหน่งในกรรมาธิการไปอวดเบ่งทั้งนั้น

ประเด็นการเมืองช่วงนี้เลยจืดๆ ซาๆ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เลยได้ตั้งหลักหายใจหายคอ เล่นบทสวยๆ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องภายใต้บังคับบัญชา เร่งเครื่องเอาใจสังคมลงโทษคนผิดปม “ดิ ไอคอน”

พร้อมกับจังหวะถอยฉากหลายเรื่องของพรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาล

หลังโดนบีบ “คดีตากใบ” ในที่สุดต้องให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยคดีตากใบ ออกจากพรรค

ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม เมื่อสัญญาณพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยก็ต้องถอย ตามจังหวะเดียวกับปมรื้อรัฐธรรมนูญ หลังติดกำแพง สว. ไม่ผ่านด่านสีน้ำเงิน

ถอยสุดซอยจนถึงหลักเกณฑ์การทำประชามติ ส่อเค้ายอมตามแนวทางเสียงข้างมาก 2 ชั้นของ สว.

บรรดา สส. สมาชิกเพื่อไทยออกมาพูดเสียงอ่อย แก้รัฐธรรมนูญทันหรือเปล่าไม่รู้ แต่พยายามเต็มที่แล้ว

วงถกพรรคร่วมรัฐบาล 21 ต.ค.นี้ เพื่อไทยเลยดูเหงาๆ วังเวงแปลกๆ

เพราะไม่มีวาระถกเถียงเคร่งเครียด หรือต้องไปบีบคอใคร

หรือถ้ามีประเด็นร้อนย้อนแย้ง คงต้องคุยกันละมุนละม่อมกว่าเดิม

ปรับโทนมาให้ความสำคัญกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม