นายกฯ คิกออฟแคมเปญ “ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ทั่วไทย ดึง “รายใหญ่” ช่วย “รายเล็ก” ลดต้นทุนผู้ค้า ลดค่าครองชีพประชาชน คาดกระตุ้น เม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 1.1 แสนล้านบาท มีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลัก ผลักดันขับเคลื่อนโครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายเล็ก ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจนถึงต้นปี 68 คาดจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้ตามเป้า และช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มทุกมิติ และช่วยเศรษฐกิจไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ถือเป็นงานใหญ่งานช้างในการแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะบรรดาพ่อค้าแม่ขายบ่นกันพึมถึงสภาวะการค้าขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา รัฐบาลจึงจัดโครงการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เป็นการช่วยเหลือประชาชน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนสายวันที่ 16 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” และกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. รัฐบาลได้กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ คือการเติมเงินลงไปในระบบครั้งใหญ่กว่า 145,000 ล้านบาท มีเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดถึงมือพี่น้องประชาชนกลุ่มแรกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะมีรูปแบบของนโยบายต่างๆมากระตุ้นเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง

นายกฯกล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการต่อยอดมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเดินหน้า “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ต่อเนื่องทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านการดำรงชีวิต การประกอบธุรกิจ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนรายใหญ่กว่า 130 ราย ในการลดต้นทุนทางธุรกิจและเพิ่มช่องทางค้าขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก

...

“โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบนี้จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็กที่มีสัดส่วน 95% ของผู้ประกอบการทั้งหมด เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้ประชาชน อาทิ การลดค่าเช่า ร้านค้า ค่าเช่าแผง ตลาด ค่าขนส่งไปรษณีย์ การจัดกิจกรรม International Live Commerce Expo การสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าบริเวณศาลากลางจังหวัด นิคมอุตสาหกรรม สถานีบริการน้ำมัน เช่น ตลาดสดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) 12 แห่ง มีการลดค่าเช่าแผงช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าประมาณ 11,000 ราย ต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ การดำเนินโครงการนี้ เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงเดือน ม.ค.68” นายกฯกล่าว

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังจับมือกับผู้ผลิต ผู้ค้าส่งรายใหญ่ จัดโปรโมชันสินค้าอุปโภคบริโภคราคาพิเศษผ่านร้านค้าธงฟ้า ร้านค้าชุมชน ห้างท้องถิ่นกว่า 140,000 ร้านค้า จัดมหกรรมลดราคาสินค้าในห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ลดกระหน่ำทุกจังหวัดทั่วประเทศ คาดการณ์ว่าจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนได้มากกว่า 110,000 ล้านบาท รัฐบาลตั้งใจทำงานเรื่องนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยให้กลับมาเดินหน้าอย่างเข้มแข็งแข็งแรงและมั่นคง เรามีแผนไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ให้ประชาชนและภาคธุรกิจค่อยๆฟื้นขึ้นมา สามารถสร้างสิ่งดีๆให้กับประเทศชาติต่อไปอย่างเข้มแข็ง ขอให้ติดตามนโยบายต่างๆที่รัฐบาลจะเสนอต่อประชาชนในภายภาคหน้า สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจนี้กับรัฐบาล ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทย

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานหลักขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งนี้ผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ค้าส่งห้างค้าปลีก ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน ไปรษณีย์ไทย ฯลฯ ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการฯเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายเล็ก ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ม.ค.68 ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์นำร่องกิจกรรมภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆไปแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย. อาทิ ตลาดพาณิชย์ทั่วประเทศ เทศกาลกินเจ งาน International Live CommerceExpo 2024เป็นต้น

รมว.พาณิชย์กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 110,000 ล้านบาท คาดการณ์มาจากกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 ส่วนหลักๆด้วยกัน ส่วนแรกประมาณ 78,700 ล้านบาท มาจากการกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินไปคนละ 10,000 บาท คาดว่ากลุ่มนี้จะนำเงินมาซื้อของที่จัดโปรโมชันลดราคา ภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจประมาณ 54.1% ของเงินที่ได้รับไป สัดส่วนนี้คิดจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ระบุว่า ครัวเรือนรายได้ต่ำจะนำเงินมาซื้ออาหารเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และเครื่องแต่งกาย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 54.1% ของรายได้

นายพิชัยกล่าวต่อว่า ส่วนที่สองประมาณ 18,700 ล้านบาท มาจากการลดต้นทุนทางธุรกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก รวมทั้งการจัดกิจกรรมกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ อาทิ International Live Commerce Expo 2024 เทศกาลกินเจ เทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ ธงฟ้า ตลาดพาณิชย์ทั่ว ประเทศ เป็นต้น ส่วนที่สาม เป็นการจัดมหกรรมลด ราคาสินค้าของห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง การที่ผู้ผลิตรายใหญ่ลดราคาเพื่อช่วยลดค่าครองชีพและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ คาดว่าจะ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกประมาณ 14,400 ล้านบาท เมื่อจบโครงการจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงิน ในระบบเศรษฐกิจได้ตามเป้า เป็นการช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มในทุกมิติและช่วยให้เศรษฐกิจไทยกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่