มีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทย อาจมีมติสั่งขับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อตอนเย็นวันที่ 15 ตุลาคม หรือมิฉะนั้น พล.อ.พิศาลอาจลาออกไปก่อน หลังจากเป็นจำเลยคดีตากใบ ซึ่งเกี่ยวกับการเสียชีวิต ของกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว

เป็นการชุมนุมของฝูงชน ที่หน้าสถานีตำรวจ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนตุลาคม 2547 เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัว กลุ่มประชาชนที่ถูกจับกุม และเกิดการปะทะกัน มีประชาชนเสียชีวิต 7 คน ถูกจับขึ้นรถบรรทุกทหาร เพื่อส่งตัวไปยังค่ายทหาร เสียชีวิตเพิ่มอีก 78 คน อ้างว่าเพราะขาดอากาศหายใจ

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น ในขณะที่ พล.อ.พิศาลเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ควบคุมความสงบเรียบร้อย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีตากใบโดยตรง แต่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มองว่าความไม่สงบในภาคใต้เป็นฝีมือของ “โจรกระจอก”

จึงส่งกำลังตำรวจเข้าไปปราบปราม อดีตนายกฯทักษิณเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์สิงคโปร์ หลังจากที่ถูกยึดอำนาจหนีไปลี้ภัยในต่างประเทศ  ยอมรับว่ามีการกระทำที่รุนแรงต่อชาวมุสลิมในภาคใต้ ในขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด เพราะเคยเป็นตำรวจ ถูกสอนให้ใช้กำปั้นมือและถุงมือกำมะหยี่

แต่ตนใช้กำปั้นเหล็กมากไป และเสียใจในสิ่งที่กระทำ จะต้องเปลี่ยนแปลงต่อมารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายก รัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เยียวยาให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตคนละหลายล้านบาท ส่วนคดีไม่คืบหน้าไม่รู้ว่าใครดองเรื่องไว้ เพิ่งมีข่าวญาติผู้เสียชีวิตยื่นฟ้องต่อศาล จำเลยส่วนใหญ่เป็นนายทหารและตำรวจระดับสูง

ศาลสั่งรับฟ้องและออกหมายจับให้จำเลยไปสู้คดีในศาล รวมทั้ง พล.อ.พิศาล แต่ไม่ทราบว่ามีจำเลยคนไหนไปศาลหรือไม่ เป็นการฟ้องในขณะที่อายุความกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ หลังจากนั้นจะไม่สามารถเอาผิดจำเลยได้ต่อไป และคดีที่โด่งดังนี้มีส่วนเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี ที่มาจากตระกูลชินวัตรคนที่ 3 คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

...

มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุที่ทำให้พรรคเพื่อไทยกังวล เพราะพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลแพทองธารอาจถูกกล่าวหาปล่อยปละ ละเลยไม่ดูแลให้คดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แช่แข็งไว้นานถึง 20 ปี จนจะหมดอายุความในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในยุคที่กระบวนการยุติธรรมกำลังเอาจริงเอาจัง กับกรณีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง พรรคเพื่อไทยจะโดนหรือไม่.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม