ในอดีตมีขั้วการเมืองที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอยู่ 2 ขั้วคือ ประชาธิปัตย์ กับ เพื่อไทย มีจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประชาธิปัตย์ เน้นอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นประชาธิปไตยที่กินไม่ได้ ส่วน เพื่อไทย แหวกแนวเอาเศรษฐกิจนำการเมือง เอานโยบายประชานิยมมาจูงใจชาวบ้าน ประชาธิปัตย์เน้นการปราศรัย สร้างคะแนนนิยม ส่วนเพื่อไทย เน้นลดแลกแจกแถม จึงต่างกันสุดขั้ว แต่วันนี้ต้องหันมาจูบปากกันเอาตัวรอด

สุดท้ายคนไทยก็เทไปเลือกข้างเพื่อไทย เพราะเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ด้วย 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งทุนหนึ่งตำบล ไฟสว่าง หนทางสะดวก กลายเป็นการเมืองแนวใหม่ที่มีสโลแกนสั้นๆว่า ตาดูดาว (เทียม) เท้าติดดิน ใช้งบเยอะ แจกเยอะ โครงการก็เยอะ หนีไม่พ้นข้อครหาโกงชาติ ลามไปจนถึงการล้มล้างสถาบัน ทำให้อดีตผู้นำ ทักษิณ ชินวัตร ชีวิตการเมืองกำลังจะรุ่ง ต้องดับวูบลี้ภัยไปต่างประเทศ ถึงวันนี้จะมีโอกาสที่ได้กลับบ้าน มีข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือบ้านเมืองจากประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศถึง 17 ปี ก็ไม่เหมือนเดิม

พรรคไทยรักไทย ที่เคยชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวน สส. 370 ที่นั่ง หลังจากถูกยุบพรรคไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม และไม่มีอะไรกลับมาได้เหมือนเดิม หลังจากถูกคำสั่ง ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค จากอนาคตใหม่สู่ก้าวไกล และเป็นพรรคประชาชนในปัจจุบันก็ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีก

การเมืองก็เหมือนการละครมีขึ้นมีลง

เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในสนามการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรมที่เปลี่ยนจากฝาเข่งเป็นดาวเทียมได้สำเร็จ แต่คนที่ล้มลุกมาด้วยกัน วันนี้กลายเป็นศัตรูที่ประจัญหน้ากันทั้งที่ลับและที่แจ้ง กลุ่มคนที่มองว่าทักษิณเป็นอันตรายต่อสถาบัน ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนมุมมองเดิมๆ คนที่เคยร่วมเป็นร่วมตายมากับทักษิณในยุคไทยรักไทยมาจนถึงเพื่อไทย ในที่สุดก็มาเป็นศัตรู คู่อาฆาต ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ

...

ตามล้างตามเช็ดกันไม่เลิกรา

มาวันนี้คนที่อยู่ด้วยกัน และคนที่เคยอยู่ด้วยกัน เคยเรียกนายครับ เคยเรียกท่านนายกฯ ก็ไม่แน่ว่าจะซื่อสัตย์ จริงใจ คนที่เคยโอบหลังโอบไหล่ ซ่อนมีดเอาไว้เตรียมทิ่มแทงได้ตลอดเวลา

สมัยที่รบกับอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ รบกับมือที่มองไม่เห็น ยังรู้มิตร รู้ศัตรูที่ชัดเจนกว่า สมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ จะสลายศัตรูเป็นมิตร ลืมเรื่องในอดีต มองแต่อนาคต พูดได้แต่ทำยาก เรื่องร้องเรียนอดีตผู้นำทักษิณ ชินวัตร นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีเป็น 100-200 เรื่อง ถ้าปัดให้พ้นตัวได้ทุกเรื่องถือว่าปาฏิหาริย์มีจริง

แต่ถ้าปัดป้องไม่สะเด็ดน้ำ เขาไม่เรียกว่านายกฯคนละครึ่ง เสียบได้เป็นเสียบ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม