คงไม่ต้องถามว่า เกมการเมืองว่าด้วย “นิติสงคราม” ที่กำลังโหมใส่รัฐบาลนั้นทำให้รัฐบาลหวั่นไหวหรือไม่
ก็ต้องตอบว่า “ปากกล้าขาสั่น”...ทำนองนั้น
เพราะกรณีของ “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ก่อนจะถึงวันตัดสิน
สถานการณ์ทุกอย่างพุ่งไปที่ด้านบวกมากกว่าด้านลบหมายความว่า “รอดแน่” แม้กระทั่งผู้ถูกร้องเองยังมั่นใจเต็มเปี่ยม
แม้จะมีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่บรรยากาศต่างๆทำให้เกิดความมั่นใจว่า ไม่มีปัญหาไม่ต่างกับบรรดากองเชียร์ข้างเวทีที่เห็นสอดคล้องกัน
แต่สุดท้ายก็ไม่รอด...
ด้วยเหตุผลสำคัญคือ รู้อยู่แก่ใจดีว่า มีมลทินแล้ว
ยังตั้งอีกเท่ากับฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างชัดเจน แม้ภายหลัง
เจ้าตัวจะบอกว่าเจตนาบริสุทธิ์
เช่นกันการยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยล่าสุดใน
ประเด็นการครอบงำพรรคการเมืองของคนนอก
คือ “ทักษิณ ชินวัตร” กับ “เพื่อไทย”
3 กรณีที่ปรากฏในคำร้อง
1.ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังจากที่ “เศรษฐา” พ้นจากตำแหน่งและก็ได้นายกรัฐมนตรี คนใหม่พร้อมรัฐบาลชุดใหม่
2.แสดงวิสัยทัศน์ปรากฏว่า ตรงและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเกือบทุกข้อเหมือนกับก๊อบปี้มาทั้งดุ้น
3.เขี่ยพลังประชารัฐออกจากรัฐบาลเอาไว้เฉพาะในส่วนของ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่หัก “บิ๊กป้อม” แล้วดึงประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลแทน
ถ้าพูดอย่างภาพที่ปรากฏโดยไม่ต้องเติมสีใส่ไข่ล้วนมีร่องรอยที่ทำให้เห็นว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นสอดรับกันเป็นอย่างดี
...
อย่างการประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแม้จะมีข่าวออกมาว่า เบื้องต้นจะเสนอชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” แล้วไปเปลี่ยนภายหลังเป็น “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ต้องถามว่าไปประชุมกันจริงหรือเปล่าและการตั้งรัฐบาลก็เป็นไปตามนั้น
หรือการแสดงวิสัยทัศน์กับนโยบายของรัฐบาลก็เป็นอย่างนั้น คือตรงกันแนวเดียวกันเกือบทั้งหมด
หรือการให้พลังประชารัฐพ้นจากรัฐบาลก็เช่นเดียวกันกับความเคลื่อนไหวจาก “ธรรมนัส” ที่เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าและไปพบกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์
ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามนั้นทุกอย่าง!
เหล่านี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า “ทักษิณ” มีอิทธิพลต่อ “เพื่อไทย” และสามารถผลักดันให้ปฏิบัติตามนั้นทุกอย่าง
แม้จะไม่มีภาพถ่ายหรือวิดีโอถ่ายความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้
แต่คนนอกทั่วไปต่างก็รู้สึกได้ว่า มีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง
การที่ “ทักษิณ” ได้พยายามที่จะหลบมุมทางการเมืองในระยะหลัง เพราะเกรงจะเกิดปัญหาแต่ต้องไม่ลืมว่า
เหตุการณ์ต่างๆนั้นได้เกิดขึ้นมาแล้ว
ไม่มีใครกลั่นแกล้งหรือหวังจะเล่นงานทางการเมือง
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นมานั้นมันมีอยู่คำตอบเดียว!
"สายล่อฟ้า"
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม