สร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแก้นิติสงคราม
เป็นทางออกประเทศ โดยขอให้ตระหนักถึงการทำกติกาบ้านเมืองให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กระตุกต่อมอำนาจของรัฐบาลเพื่อไทย
เมื่อเผชิญคู่ต่อกรงัดกฎหมายใช้เป็นเครื่องมือทำสงคราม ทำลายล้าง หลังนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอดีตพระพุทธอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) สั่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยหยุดกระทำการล้มล้างการปกครอง ยก 6 พฤติการณ์ครอบครอง ครอบงำ เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน
สาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจาก รธน.ที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย เปิดช่องให้ดำเนินการเรื่องเหล่านี้ และสภาพดังกล่าวไม่ใช่การตบมือข้างเดียว แต่นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็มีส่วนส่งเสริมให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ด้วย ชะล่าใจเกินไป คิดว่ามีอำนาจ ประนีประนอมอำนาจกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ อาจมีดีลอะไรต่อกันแล้วเป็นต้น
ขณะที่พรรคการเมืองทำผิด ยุบพรรค กลายเป็นวงจรอุบาทว์ ต้องช่วยกันปฏิเสธ แต่วันนี้พรรคเพื่อไทย (พท.) มีอำนาจ แต่ประวิงเวลา มุ่งรักษาอำนาจมากเกินไป ไม่กล้าทำ พอเริ่มทำก็ช้า แนวโน้มไม่ทันปี 70
รอผลคณะกรรมาธิการรวมของ 2 สภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติมันก็จบกัน ฉะนั้นขอให้เดินหน้าทำ รธน.ฉบับประชาชน โดยมีสมาชิกสภาร่าง รธน.(ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
ผมเคยเสนอไปแล้วให้กล้าๆใช้มติ ครม.ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง อบจ.วันที่ 3 ก.พ.68
ใช้กฎหมายประชามติฉบับเดิมยังพอมีกรอบเวลาที่เพียงพอในการทำ เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างในระยะยาว
ทำไมไม่รู้จักคิดไปเล่นเกมของวุฒิสภา
เพราะปัจจุบันการเมืองสะท้อนให้เห็นภาพจ้องทำลายฝ่ายตรงข้าม ขาดความสามัคคี นับตั้งแต่พรรค พท. โดยไม่สนใจว่าต้องจับมือกับใคร ปล่อยมือพรรคก้าวไกล ส่วนอีกปัจจัยทำให้รู้สึกว่าการเมืองไม่มีอุดมการณ์ มองแค่ผลประโยชน์ พอตั้งรัฐบาลอีกครั้งก็ปล่อยมือพรรคพลังประชารัฐ
...
จนเกิดภาพทำลายล้างกันและกันเกิดขึ้นสูง
แค่ 1 เดือน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และพรรคเพื่อไทย เจอมรสุมร้องเรียนนับ 10-20-30 เรื่อง เป็นนายกฯที่ช้ำเร็วที่สุด ตัวนายกฯ ก็มีประเด็นให้สังคมหยิบไปวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างเยอะ
นักลงทุนรู้สึกไม่แน่ใจรัฐบาลอยู่หรือไปมีผลต่อความกล้าตัดสินใจลงทุน ข้าราชการก็ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลอยู่ต่อเนื่อง การทำงานเต็มที่ก็ไม่เกิด เป็นเคราะห์กรรมของประเทศ ที่เกิดปัญหาแบบนี้บ่อยมากจนเกินไป
ทำไมขยับมุมมองชนชั้นนำประเมินรอบใหม่ “ส้ม” ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่ภัยคุกคามใหม่เป็น “คนป่วยไม่จริง” ที่เป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ นายสมชัย บอกว่าขณะนั้นพรรคก้าวไกลเป็นภัยคุกคาม ถ้าปล่อยไปย่อมเป็นปัญหาต่อการดำรงสถานะของชนชั้นนำในสังคม
ทฤษฎีพรรคอนุรักษ์สาย คสช. สายทหารจับมือพรรคเพื่อไทย นายทักษิณจึงเกิดขึ้น เพื่อจัดการพรรคคนรุ่นใหม่ ทอดเวลาผ่านไปพรรคคนรุ่นใหม่คะแนนนิยมเสื่อมถอยจากหลายปัจจัย รวมถึงคดีจริยธรรม 44 คน ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) การจัดการพรรคนี้ไม่น่ามีปัญหา
“ขึ้นอยู่กับเพื่อไทยทำตัวเป็นพันธมิตรที่ดีกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมจริงหรือจับมือชั่วคราว แล้วต้องการแสวงหาอำนาจให้ตัวเอง โดยไม่ประนีประนอมกับอนุรักษ์นิยมหรือเปล่า
จากปรากฏการณ์เมื่อเพื่อไทยมีอำนาจได้สร้างกลไกให้ตัวเองมีอำนาจ โดยช่วงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหาร ตำรวจ พยายามวางคนลงในตำแหน่งให้มากที่สุด
กลายเป็นประเด็นทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมรู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องหยุดการเติบโตของเพื่อไทย”
ชนชั้นนำใช้พรรค พท.สยบพรรคประชาชน แต่ขณะนี้กำลังขจัด 2 พรรคนี้ที่มีเสียง สส.ในสภา เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ทั้งหมดในสภา การเมืองเดินต่อไปอย่างไร นายสมชัย บอกว่า อย่ากังวลใจการเมืองจะถึงทางตัน เหลือเพียงฝ่ายเดียว แม้มีการยุบพรรคก็มีคนใหม่ มีอุดมการณ์แบบใหม่เกิดขึ้น
คงไม่มีกลุ่มอนุรักษ์นิยมฝ่ายเดียว ซึ่งกลุ่มนี้ก็ต้องปรับตัว ขวาจัดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเปิดมิติใหม่เป็นอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า ได้เสียงคนรุ่นใหม่ กลุ่มก้าวหน้าเสรีนิยม ก็ต้องพัฒนา เป็นทางเลือกให้ประชาชน
วันนี้เป็นห่วงการเมืองนอกระบบ หรือรัฐประหาร มีโอกาสเกิดขึ้นอย่างไร นายสมชัย บอกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีสถานการณ์ที่สร้างความรู้สึกไม่พอใจแก่ประชาชน จนกระทั่ง เรียกร้องทหารให้ออกมา
เงื่อนไขรัฐประหารมีแค่เรื่องเกี่ยวกับอธิปไตย
ถ้ารัฐบาลเดินหน้าแล้วพิสูจน์ได้ว่าไทยสูญเสียอธิปไตยทางทะเล อันนี้เรื่องใหญ่ ขอให้รัฐบาลเข้าใจว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน
มากที่สุด คนไทยยอมได้ทุกเรื่อง ยกเว้นไม่ยอมเสียพื้นที่แม้แต่หนึ่งตารางนิ้วให้ใคร
นายทักษิณถูกมองว่าเป็น “ตัวประกันของฝ่ายอนุรักษ์นิยม”
ให้ทำอะไรบางอย่างในทางการเมือง นายสมชัย บอกว่า นายทักษิณ
เป็นบุคลากรทางการเมืองที่มีคุณค่า มีความรู้ ความสามารถ แต่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองโดยเปิดเผยไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาอาจวางบทบาทตัวเองเลยเกินไป
เช่น ถูกตั้งข้อสังเกตใช้อำนาจทำให้กติกาบ้านเมืองเป็นไปตามที่ต้องการ ไม่ต้องรับโทษจำคุกแม้แต่วันเดียว อยู่โรงพยาบาลในห้อง
วีไอพี 6 เดือน ออกมาก็พ้นโทษ ทำให้เกิดกระบวนการจะไม่ยอมให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องแสดงให้เห็นว่าพรรค พท.ไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังมีองค์กรอื่นคัดค้านได้
ส่งสัญญาณครั้งแรกนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้เห็นว่าไม่สามารถแต่งตั้งใครต่อใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรีตามใจชอบหรือตอบแทนซึ่งกันและกัน
คราวนี้ส่งสัญญาณอีกระลอกโดยร้องต่อศาล ธรน.
โดยข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครอง ศาล รธน.เคยนิยามเอาไว้ ไม่ได้หมายความว่าใช้อาวุธเข้าประหัตประหาร ใช้รถถังยึดอำนาจ
ถึงเรียกว่าล้มล้างการปกครอง เพียงแค่มีพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลายประชาธิปไตย สถาบัน ถือว่าเข้าข่ายแล้ว เป็นการตีความแบบกว้างที่อันตราย
สมมติใช้กระบวนการแทรกแซงพรรค โดยดึงบางคนออกจากพรรค ตั้งเป็นกลุ่มอิสระ หรือคุณต้องโทษ มีพระบรมราชโองการต้องโทษจำคุก 1 ปี แต่ใช้กลไกต่างๆหลีกเลี่ยง ไม่ถูกจำคุก เข้าข่ายเซาะกร่อนบ่อนทำลาย
“คำร้อง 1 หนักที่สุด นักวิชาการหลายคนมองเชื่อมโยงถึงพระราชอำนาจ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าป่วยจริงก็หลุด ถ้าป่วยไม่จริงแล้วมีหลักฐานใช้กลไกรัฐทำให้ได้สิทธิพิเศษก็เข้าข่าย
คำร้องที่ 4 หนักรองลงมา แกนนำพรรค การเมืองวิ่งไปพบคุณทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขึ้นอยู่ที่หลักฐานไปพบเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันหรือไม่ ถ้ามีก็เข้าข่ายยุบหลายพรรค
คำร้องที่ 5 พรรคพลังประชารัฐถูกเขี่ยพ้นรัฐบาล พิสูจน์ได้ไม่ยากว่าเกี่ยวกับคุณทักษิณหรือไม่
คำร้องที่ 2 พื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชา เชื่อมโยงคำร้องที่ 6 คุณทักษิณระบุถึงแก้ปัญหานี้ เอามาผสมกันก็เป็นเรื่องได้
คำร้องที่ 3 เบาสุด ร่วมมือ กับพรรคประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจริยธรรมนักการเมือง เมื่อถอนออกไปแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา”
ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่พรรค พท.ประเมินแล้วคำร้องต่างๆ น้ำหนักเบา ไร้สาระ ไม่ต้องเตรียมรับมือ แต่พอมีระดับรัฐมนตรีเพื่อไทยบางคนออกมาระบุเดินหน้าต่อเรื่องพื้นที่ทับซ้อน มันเข้าทางคำร้องที่ 2 และคำร้องที่ 6 ทันที
ชนชั้นนำไฟเขียว นายทักษิณถึงกลับไทยได้ ทำไมชนชั้นนำกลับตาลปัตรเล่นงานนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย นายสมชัย บอกว่า ขึ้นอยู่ที่พฤติกรรมแสดงออกทางการเมืองของนายทักษิณ หากโลว์โปรไฟล์แสดงบทบาทน้อยลง หรืออยู่เบื้องหลัง อาจยังสามารถได้รับความไว้วางใจ
แต่ขณะนี้บทบาทเหมือนเป็นเจ้าของ ไม่ครอบงำ แต่ครอบครอง ฝ่ายชนชั้นนำรู้สึกไม่อาจไว้วางใจได้ดูทิศทางแล้วคดีล้มล้างการปกครองมีโอกาสศาล รธน.รับคำร้องไว้อย่างไร นายสมชัย บอกว่า ดู 6 คำร้องแล้ว เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย-สถาบัน
ให้น้ำหนักเกิน 50% ศาล รธน.ประทับรับฟ้อง
เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง–พฤติกรรมที่ถูกกล่าวหา.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม