สวนหมัดคืนทันทีทันใด “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบทริป “บินหรูอยู่สบาย” การเดินทางไปต่างประเทศของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ข้องใจฝ่าฝืนระเบียบ ป.ป.ช. เป็นเจ้าพนักงานรัฐรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด เกิน 3,000 บาท หรือไม่ และจ่อยื่นตรวจสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม” ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นดาบต่อไป

ควานหาชนักมาปักใส่หลังหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบ้าง ไม่ยอมถูกไล่ขย่มฝ่ายเดียว

เอาคืนกรณีถูกม้าใช้คนบ้านป่าฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หยุดใช้สิทธิเสรีภาพ อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เหมารวมคดีรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ-ปมผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนไทยและกัมพูชา-จับมือพรรคประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ-การสั่งการพรรคเพื่อไทยเจรจาพรรคร่วมรัฐบาลตั้งนายกรัฐมนตรี-การขับพรรคพลังประชารัฐออกจากรัฐบาล-สั่งการนำวิสัยทัศน์ของตัวเองเป็นนโยบายรัฐบาล เชื่อมโยงเป็นการเซาะกร่อนล้มการปกครอง

กลวิธีอีหรอบเดียวกับที่เคยยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดเดินเครื่องแก้ไขมาตรา 112 ก่อนใช้เป็นสารตั้งต้น ยุบพรรคในเวลาต่อมา

ภารกิจพิเศษทีมบ้านป่าฯ โค่นนายใหญ่ แฝงเป้าหมายสำคัญที่ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ สานฝันช่วยลุงให้สมหวังเป็นนายกฯ

ขยี้จุดแข็งให้กลายเป็นจุดอ่อน “ทักษิณ” กลายเป็นสายล่อฟ้า เสี่ยงพาพรรคพบจุดจบรอบสาม

ยังไม่รวมคดีเหวี่ยงแหอีกนับไม่ถ้วนของทีมเหล่านักร้อง ที่จ้องตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรม “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่มทางเลือก ล้มรัฐบาลทุกวิธีทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่

...

การเมืองเดือนตุลาฯตั้งเค้าเดือดระอุ ทีมงาน “บิ๊กป้อม” เหยียบคันเร่งสาดอาวุธหนัก “นิติสงคราม” รุกฆาต “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย

พายุการเมืองซัดกระหน่ำนายใหญ่ต่อเนื่อง ภายหลังเพิ่งเปิดรังจันทร์ส่องหล้า หย่าศึกใน เคลียร์ใจลูกน้องเก่า “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เจรจาเกลี่ยดุลอำนาจให้การทำงานรัฐบาลราบรื่น

แต่ยังไม่ทันไร ก็มีคิวระทึกเสี่ยงปมยุบพรรคให้เผชิญซ้ำ

ศัตรูการเมืองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น แบ่งบทรับส่งไม้เป็นทอดๆ จองกฐินพ่อ–ลูก “ตระกูลชินวัตร” ยาวเป็นหางว่าว

ใช้กลยุทธ์ถนัดนิติสงครามผ่านองค์กรอิสระ และการปั่นกระแสในโลกโซเชียลเขย่าเสถียรภาพรัฐบาล

ขยายความทั้งปมนายใหญ่ครอบงำสั่งการรัฐบาล การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา มาตรฐานจริยธรรมนายกฯหญิง และทีม ครม. คดีตากใบ แม้กระทั่งเรื่องหยุมหยิมนายกฯอ่านไอแพดก็ยังผูกเป็นดราม่า บั่นทอนเครดิตผู้นำ

เลี้ยงกระแสลดทอนความเชื่อมั่น รอจังหวะภูมิต้านทานรัฐบาลตก เกิดโรคแทรก เพื่อปลุกอารมณ์ร่วมประชาชนให้จุดติด

ในยามที่นักปลุกม็อบมืออาชีพเตรียมวอร์มอัปลงสนาม นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวโจกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช.ออกแอ็กชันคันไม้คันมือ พร้อมลงถนน

รัฐบาลเพิ่งออกสตาร์ตบริหารราชการแผ่นดินได้แค่เดือนเดียว แต่เผชิญมรสุมกระหน่ำ “นายกฯอิ๊งค์” แทบไม่ได้หายใจ ผูกโยงคดีเก่า คดีใหม่วุ่นวายฝุ่นตลบ

ต้องลุ้นตัวโก่ง ปลายทางจะรอดหรือร่วง

เข้าทางกองชัง กองแช่ง โหมกระแส “นายกฯคนละครึ่ง” หลัง “ครูใหญ่บุรีรัมย์” เข้าพบ “ทักษิณ” ปะติดปะต่อดีลลับจันทร์ส่องหล้า วงเจรจา 2 ผู้มากบารมี อาจมีซุปเปอร์ดีลมากกว่าการร่วมวงกินข้าวธรรมดา

ตามจังหวะชวนให้จินตนาการขยายความ เพราะไล่เลี่ยกับการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เล่นงาน “ทักษิณ” มีพฤติกรรมเซาะกร่อนล้มล้างการปกครอง

การยุบพรรคเพื่อไทยถูกตั้งแท่น นำเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ไม่ได้หยุดอยู่แค่การดิสเครดิตตีกินเหมือนที่ผ่านมา

งานนี้ต้องรอวัดใจศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบ ลากพรรคเพื่อไทยเข้าสู่เรดโซนหรือไม่ ตามกระบวนการวินิจฉัยขององค์กรอิสระที่ออกได้ทุกหน้า คาดเดาตอนจบลำบาก

หนังตัวอย่างที่ผ่านมามีให้เห็น ต่อให้แข็งโป๊กแค่ไหน ก็ชวนจิตตกได้เช่นกัน!!!

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม