โฆษกรัฐบาลเผย ศปช. ขอจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุน 13-24 ต.ค. นี้ คาดระบายน้ำ จ.ลำพูน ออกได้ทั้งหมด 15 ต.ค. ขณะที่แม่สายคลี่คลาย ตลาดสายลมจอยเดินเท้าเข้าออกสะดวกแล้ว ด้าน รมว.ท่องเที่ยวฯ จ่อชง ครม. สัปดาห์นี้ หามาตรการเยียวยาระยะสั้น-กลาง-ยาว
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า จากการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อ 12.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม ได้ปรับลดการระบายน้ำลงอีก ซึ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สิงห์บุรี และบางพื้นที่ จ.อ่างทอง คลี่คลายดีขึ้น แต่ช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคม จังหวัดท้ายเขื่อน ตั้งแต่ จ.ชัยนาท ลงมา อาทิ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กทม. และสมุทรปราการ ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเข้าท่วมชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และที่ไม่มีแนวป้องกัน ซึ่งศปช.ได้สั่งการเฝ้าระวัง และเตือนภัยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน
ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำปิง หลังมวลน้ำเคลื่อนตัวจาก จ.เชียงใหม่ ไปยัง จ.ลำพูน จนทำให้ระดับน้ำท่วมสูง บางจุดมีน้ำขังจนทำให้ประชาชนและเกษตรกรเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำที่เริ่มเน่าเสียนั้น ศปช.ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมกรมชลประทาน ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำเข้าพื้นที่เพิ่มเติมที่บ้านสบปะ ต.ริมปิง และบ้านป่าไผ่ ต.หนองช้างคืน คาดใช้เวลา 3 วัน ทั้ง 2 จุดจะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่สะพานข้ามแม่น้ำปิง สะพานเฉลิมพระเกียรติ 2540 จุดเชื่อมต่อ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน และ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และสะพานศรีบุญยืน อ.เมือง จ.ลำพูน จากขอรับการสนับสนุนกำลังพลและเรือผลักดันน้ำจากกองทัพ ทั้ง 2 จุดได้เดินเครื่องเร่งระบายพื้นที่ ต.เหมืองง่า อ.เมืองแล้ว โดยคาดภายในวันที่ 15 ตุลาคม จะระบายน้ำออกจากพื้นที่ จ.ลำพูนได้ทั้งหมด
...
นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อุปสรรคสำคัญคือการกำจัดโคลนที่ตกค้าง จากการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ขณะนี้ทุกอย่างเดินหน้าตามแผน โดยเฉพาะตลาดสายลมจอยได้ระดมเคลียร์โคลนออกจนเดินเท้าเข้าออกได้อย่างสะดวกมากขึ้น จะทำให้เข้าทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนได้รวดเร็วมากขึ้น ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า ลงพื้นที่บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 3 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย เพื่อรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย ต.แม่ยาว จากนั้นพบปะประชาชนเพื่อมอบทุนการศึกษา มอบเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อน
นายกฯ เตรียมนั่งหัวโต๊ะติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วม
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้ เวลา 15.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อติดตามและรับฟังความคืบหน้าการปฏิบัติงานของ ศปช.และ ศปช.ส่วนหน้า ในการแก้ปัญหาสถานการณ์อุทกภัย การฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และอุปสรรคในการทำงาน
“นายกฯ เป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้มาก ไม่ว่าจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ก็ได้ติดตามการทำงานของ รมต.และเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งส่งกำลังใจฝากถึงผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ และในวันอังคารหน้า นายกฯก็จะรับฟังความคืบหน้าการทำงานของ ศปช.และศปช.ส่วนหน้า รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุด” นายจิรายุ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวฯ จ่อชง ครม. สัปดาห์นี้ หามาตรการเยียวยาระยะสั้น-กลาง-ยาว
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ปลัดกระทรวงฯ ผู้ว่าฯ ททท. เป็นต้น ร่วมตรวจเยี่ยมสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เชียงใหม่ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และโบราณสถาน เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อน ข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ เข้าสู่กระบวนการหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยคาดว่าจะสามารถนำเข้า ครม. ได้ภายในสัปดาห์หน้านี้ รวมทั้งคาดว่าจะมีการจัด ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่หรือเชียงราย ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประสบการณ์และผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันในครั้งนี้ เป็นบทเรียนสำหรับการหาแนวทางการรับมือเพื่อป้องกันความเสียหายรวมทั้งนำเป็นโมเดลการบริหารสถานการณ์เพื่อลดความสูญเสียเมื่อเกิดขึ้นอีกในครั้งหน้า จากผู้ประกอบการที่รอดจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ในโอกาสนี้รัฐมนตรีฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลมอบสิ่งของยังชีพ ได้แก่ อาหารสด อาหารแห้ง ของใช้ ยา และนมสำหรับเด็ก จากภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาล เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มอบให้แก่โรงพยาบาลสวนดอก ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้ประสบอุทกภัยได้ใช้ประโยชน์และสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยตรงความต้องการ