ขลังกว่า “พระครูปะกำช้าง” ก็ “ครูใหญ่เขากระโดง” นั่นแหละ

“ผูกให้เป็นนายกฯ ผูกให้ยิ่งใหญ่ ผูกให้แข็งแรง” ช็อตที่นายเนวิน ชิดชอบ ผู้มีบารมีเหนือค่ายเซราะกราว “ร่ายคาถากำกับ” พิธีผูกสายสิญจน์ข้อมือ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ฉากไฮไลต์ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปีของ “ครูใหญ่” เนวิน

ไม่ใช่แค่ลีลาเล่นกลของพ่อมดหมอผี อวยกันเรื่อยเปื่อยเอามัน แต่มันคือสัญญาณของตำนานมนต์เขมร “ผู้มาก่อนกาล” ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ขับเคลื่อนเกมอำนาจที่สอดรับ “คาถากำกับ” ของ “เนวิน”

โอกาส “เสี่ยหนู” ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง ใกล้ความจริงเข้าไปทุกขณะ

เชื่อมโยงเชิงเหตุ เชิงผล จังหวะต่อเนื่องกับกระแสร้อนแรง “ครูใหญ่เขากระโดง” บุกถ้ำ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” เคลียร์ภาวะทางใจจากวลีอมตะ “มันจบแล้วครับนาย” ที่แค้นฝังหุ่น “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ”

แต่ด้วยเกมบีบให้นายกับลูกน้องเก่าแกล้งลืมปมทรยศ

โดยความตั้งใจของโคตรเซียนการตลาด ปล่อยข่าวกระพือกระแสลับๆล่อๆให้สังคมเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่ของจริงยืนยันจาก “วงใน” ไม่ใช่ไร้สาระ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ปะหน้า “โอบกอดเอว” กันมาเป็นเดือนแล้ว

ไม่ใช่แค่รอบเดียว เจอกันบ่อยๆต่อสายถึงกันถี่ๆในพักหลัง

อารมณ์ขำๆแบบที่ “เสี่ยหนู” แกล้งอำ แกล้งแหย่ลูกพี่ก๊วน 2 น. ตั้งแต่กลับไปคืนดีกับ “นายใหญ่” ท่าทีเปลี่ยนไปเออออ โอนอ่อนกับนายเก่า

เอาเป็นว่าการเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร ยังอมตะในการเมืองไทยๆ

...

แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่กลบเกลื่อนใบหน้าได้ ไม่อาจลบเลือนภาวะส่วนลึกในใจ “นายใหญ่-ครูใหญ่” เหมือนแก้วที่แตกไปแล้ว เชื่อมสนิทเนียนยังไง ก็ไม่อาจกลบรอยร้าว กลับไปแนบสนิทเหมือนเดิม

ณ จุดที่ดีลลงล็อก เกาะติดกันด้วย “กาวตราหนู” แชร์อำนาจ ต่อรองผลประโยชน์ลงตัว

สถานการณ์ที่เกรียน 2 น.ตีคู่ขึ้นมาเบียดกับ “เถ้าแก่ใหญ่”

ในจังหวะสวนทางกับทีมเพื่อไทยที่กำลังยืนงงอยู่ในดงสมรภูมิ “นิติสงคราม” ตามปรากฏการณ์ล่าสุด “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เซ็นแต่งตั้ง “อำมาตย์เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำเสื้อแดง นปช. นั่งแท่นที่ปรึกษาของนายกฯ มีตำแหน่งแห่งหนอยู่ในทำเนียบรัฐบาล

โดนขบวนการไล่เจาะยาง “ล็อกเป้า” จับตายทันควัน จ่อเช็กบิลปมจริยธรรม คาดโทษผู้นำตั้งคนที่มีตำหนิ อดีตแกนนำเสื้อแดง นปช.เคยต้องโทษจำคุกคดีนำม็อบบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ส่อเป็นกิ้งกือตกท่อคล้ายกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ตั้งรัฐมนตรีเคยติดคุก ทำให้ตัวเองตกเก้าอี้

สถานะผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ไม่การันตี “ไข่ในหิน”

ระดับความไว้วางใจของ “เถ้าแก่ใหญ่” แกว่งไปตามดีลที่ไม่เสถียร ขณะที่ก๊วนเซราะกราวของเกรียน 2 น. เดินหมากบนกระดานอำนาจอย่างเป็นจังหวะจะโคน ภายใต้การบริหารอำนาจอย่างเป็นระเบียบแบบแผน มีวินัย อยู่ในแถวสูตรเดียวกับท็อปบูต

ดูจากการจัดโผโยกย้ายมหาดไทย อาณาจักรคลองหลอดที่ยี่ห้อภูมิใจไทยยึดมาหลายสมัย จนสร้างแบบแผนปฏิบัติ บิ๊กมหาดไทย อธิบดีกรมใหญ่ ต้องผ่านการทดลองงานจากตำแหน่งผู้ว่าฯบุรีรัมย์มาก่อน

เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุข ทีม 2 น.ก็ปักหมุด ฝังรากระบบอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นหัวคะแนนใหญ่ของทีมเซราะกราว

สูตรล็อกฐานข้าราชการ เสริมฐานการเมือง “บ้านใหญ่” ตีกินแต้มของตาย

ค่ายเซราะกราว เป้าหมายเซียน ลงทุนหุ้นอำนาจระยะยาว

ที่แน่ๆ มันคือเรื่องจริงที่เล่ากันขำๆ อำกันแบบน่าหมั่นไส้ นาทีนี้คนที่หนักอกหนักใจสุดก็คือ “มาดามผึ้ง” ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษาฯ ที่กำลังเข้าฝักกับงานที่รัก สนุกกับภารกิจในเก้าอี้รัฐมนตรีโลกลืม กลายเป็นโลกจำ เน้นทำงานเอากล่อง หวังฝากไว้เป็นbcตำนานอนาคตการศึกษาลูกหลาน

แต่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ค่ายภูมิใจไทยแต้มต่อรองสูงขึ้นตามเกมอำนาจ โอกาสแชร์กระทรวงใหญ่มาเพิ่มอยู่ในกำกับ โดยสภาพบังคับ “มาดามผึ้ง” ที่เป็น “น้องรัก” ของลูกพี่ 2 น. มีหวังถูกดันให้ขึ้นแท่นเบอร์ใหญ่ค่ายเซราะกราว

อารมณ์คนใหญ่ไม่อยากใหญ่ แต่จำใจต้องใหญ่.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม