ครม. ไฟเขียวเงินเยียวยาน้ำท่วมแบบเหมาจ่าย 9,000 บาทต่อครัวเรือน ขอชาวลำปาง-ลำพูนสบายใจ น้ำลงจากเชียงใหม่ท่วมไม่เยอะ ย้ำ กทม. ไม่ซ้ำรอยปี 54 แน่นอน เล็งถกวางระบบน้ำทั้งระบบของทั้งประเทศ
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอหลักเกณฑ์การเยียวยาจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเปลี่ยนเป็นการช่วยเหลือแบบเหมาจ่ายอัตราเดียว ครัวเรือนละ 9,000 บาท ภายใต้กรอบวงเงินเดิมตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คือวงเงิน 3,045 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า วันนี้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานเรื่องของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า ว่า จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่วางกรอบไทม์ไลน์ในการปฏิบัติงานตามหน้าที่รับผิดชอบ ทุกหน่วยงานได้รายงานผลว่าทุกอย่างที่ลงไปในพื้นที่จะเสร็จตามกรอบเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงในตัวพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ส่วนที่อำเภอเมือง และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ปางช้าง ที่มีช้างล้ม (ช้างเสียชีวิต) กำลังพลทหารได้เคลื่อนย้ายช้าง 2 เชือก ออกจากพื้นที่แล้ว รวมถึงเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังพื้นที่ปลอดภัย เตรียมอาหารสัตว์ และมีการเตรียมเครื่องนุ่งห่มอย่างเตรียมพร้อม
...
สำหรับข้อกังวลเรื่องน้ำจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มลดลงแล้ว ทั้งจากจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ภายใน 4-5 วันนี้ คิดว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ โดยที่จังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน น้ำจากจังหวัดเชียงใหม่จะลงไปแต่ก็ไม่ได้ท่วมเยอะ เพราะน้ำเคลื่อนตัวไปลงที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และแม่น้ำโขงด้วย ฉะนั้น เราได้ส่งกำลังไปดูแล เตรียมพร้อมไว้แล้ว ขอให้ชาวจังหวัดลำปางและจังหวัดลำพูนสบายใจ มีทีมงานไปคอยช่วยเหลือแล้ว
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรีระบุว่า อย่างที่เคยแจ้งไปครั้งที่แล้ว น้ำจะไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี 2554 แน่นอน ตอนนี้แม่น้ำเจ้าพระยายังสามารถรับน้ำได้อีกเยอะ ซึ่งเมื่อปี 2554 เหลือพื้นที่แค่ 1,000 กว่าลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้เหลือ 6,000 กว่าลูกบาศก์เมตร ฉะนั้นยังไม่ต้องกังวล เรามีการวางแผนจัดการน้ำอย่างเป็นระบบแล้ว ได้คุยกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รวมถึงในพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วย การปล่อยน้ำจะพยายามไม่ให้กระทบกับประชาชน ซึ่งเราได้มอนิเตอร์เรื่องนี้ตลอด และต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในด้านของอุปกรณ์ อาหาร ยานพาหนะต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งพร้อมหมด
หลังจากนี้ จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อติดตามความคืบหน้า แล้ววางแผนในการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งระบบ ซึ่งจะมีระยะเร่งด่วนและระยะยาวด้วย โดยในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 หลังกลับจากการประชุมที่ สปป.ลาว จะวางเรื่องของคณะกรรมการและคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยให้คำปรึกษาเรื่องการวางระบบน้ำทั้งระบบของทั้งประเทศ
เมื่อถามว่ากรณีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากโคลน นอกจากการเยียวยาเหมาจ่ายแล้วจะมีการเยียวยากรณีพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า กรณีที่หนักจริงๆ แล้วเราช่วยอะไรเพิ่มเติมได้ จริงๆ มีกรอบที่เคยขยายไปแล้ว ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้เสนอในที่ประชุม ครม. วันนี้ ฉะนั้นกรณีต่างๆ อาจต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคลอีกทีหนึ่ง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะช่วยดูในพื้นที่
ทางด้านคำถามว่าการช่วยเหลือแบบเหมาจ่ายครัวเรือนละ 9,000 บาท สามารถจ่ายได้ทันทีหรือจะมีหลักเกณฑ์อื่นใดบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวตอบว่า ตอนนี้หลายครัวเรือนจ่ายไปแล้ว 5,000 บาท ทางพร้อมเพย์ และส่วนนี้จะมีการทยอยจ่ายต่อเนื่อง โดยจะมีการพิสูจน์ว่าเป็นผู้ประสบภัยหรือไม่.