“สส.พิศาล” หนีคดีตากใบ กระแทกต่อมจริยธรรมพรรคเพื่อไทย “วิโรจน์” กระตุกรัฐบาลต้องเร่งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ใช่ปล่อย “ภูมิธรรม” พูดปัดเป็นเรื่องส่วนตัว ยิ่งทำให้ไฟใต้จบยาก ขุดวลีพ่อพ่น “โจรกระจอก” สอนบทเรียน “นายกฯอิ๊งค์” จ่อลากขึ้นเขียงซักฟอก “สมชัย” บี้ พท.สอบพฤติกรรมลูกพรรค ขับพ้นสิ้นสภาพ สส. “พิเชษฐ์” ชี้เป็นสิทธิ สส.ยื่นใบลายาว อ้างเป็นเรื่องปกติตามสิทธิส่วนบุคคล “สรวงศ์” อ้างอยากให้มาสู้คดีแต่ติดต่อไม่ได้ อ้อมแอ้มยื้อจนหมดอายุความ พรรคต้องมีมาตรการออกมา “ชูศักดิ์” ย้ำแก้รัฐธรรมนูญจำเป็นต้องรอพรรคร่วมฯตกผลึก “นันทนา” เฉ่ง สว.ดองร่าง พ.ร.บ.ประชามติไม่ส่งคืนสภาฯ
จากกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยในคดีตากใบที่จะหมดอายุความ 20 ปี ในวันที่ 25 ต.ค.67 ใช้สิทธิลาการประชุมสภาฯอย่างต่อเนื่อง หลบเลี่ยงหมายศาล จนถูกวิจารณ์ว่ายื้อเวลาให้หมดอายุความ ทำให้มีแรงกดดันทางการเมืองพุ่งเข้าใส่พรรค พท.ต้นสังกัด
“พิเชษฐ์” ยันเป็นสิทธิ “พิศาล” ลาประชุม
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเซ็นอนุมัติให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ลาประชุมสภาฯโดยอ้างเหตุผลว่าป่วย และเดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 ส.ค. ถึง 30 ต.ค.ว่า ทุกคนลาประชุมได้ บางคนลา 80 ครั้ง ถ้าเขาลาต้องให้เขาลา ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร เรื่องอื่นตนไม่เกี่ยว แต่เรื่องของสภาฯ ย้ำว่าใครจะลาก็ลาได้ ไม่ว่าจะลาป่วย ลากิจ ลาธุระว่ากันไป เพราะมีสิทธิถือเป็นเรื่องปกติของการลาไม่ว่าใครสามารถลาได้ หากลาคือลา เมื่อถามว่า แต่เขาจะต้องแจ้งชื่อมาว่าใครลาประชุมใช่หรือไม่ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า “ลาทุกคนแหละครับ อาทิตย์หนึ่ง 20 30 คน” เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.พิศาลยื่นหนังสือขอลาประชุมระบุว่าตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. จนถึงวันที่ 30 ต.ค. หลังศาลนราธิวาสรับฟ้องคดีตากใบ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นสิทธิส่วนบุคคล
...
“สรวงศ์” อยากให้มาสู้คดีแต่ติดต่อไม่ได้
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลนราธิวาสออกหมายจับพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ทางพรรคมีความคืบหน้าอย่างไรว่า ไม่ได้รับการประสานติดต่อจาก พล.อ.พิศาลเลย ผู้ใหญ่ภายในพรรคหลายท่านพยายามประสานอยู่ แต่ไม่มีใครติดต่อได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.พิศาลเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทย และเราพยายามอย่างยิ่งที่จะติดต่อท่านให้ได้ ให้ท่านกลับมาสู้คดีก่อนหมดอายุความ
ยื้อหมดอายุความพรรคต้องมีมาตรการ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรต่อไปในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้สังคมเหมือนกำลังกดดันอยู่ นายสรวงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) หาก พล.อ.พิศาลใช้วิธีแบบนี้ เราต้องมีมาตรการ หากติดต่อได้ก่อนหมดอายุความ ต้องมีการพูดคุยกันและพยายามให้ท่านกลับมาสู้คดี และไม่ทราบว่าท่านป่วยขนาดไหน และไปรักษาตัวที่ไหน ถ้าชัดเจนว่ามีประเด็นนี้และใช้โอกาสให้หมดอายุความ เราคงมีมาตรการต่อไป
“วิโรจน์” ซัด รบ.ต้องสร้างความไว้ใจ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พูดเรื่องหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และ อดีต มทภ.4 คดีตากใบ ไม่ใช่เรื่องพรรค พท.เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลว่า ถ้าความไว้เนื้อเชื่อใจในกระบวนการยุติธรรมเป็นกลไกหรือกุญแจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณี พล.อ.พิศาลไม่ใช่เรื่องส่วนตัว รัฐบาลต้องสร้างให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมว่า ระบบนิติรัฐ นิติธรรมยังคงอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ฟังคำตอบแบบนี้แล้วรับได้หรือไม่ ไปเปิดคลิปวิดีโอย้อนหลังกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพูดคำว่าโจรกระจอก เป็นชนวนความรุนแรงใหญ่โตมากขึ้น เป็นบทเรียนได้ดี แล้วจะปล่อยให้นายภูมิธรรม ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ท่าทีอย่างนี้หรือจะรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อไปจากนี้อย่างไร
อัด “อ้วน” ทำสงบยาก จ่อลากไปซักฟอก
“นี่หรือ รมว.กลาโหม พลเรือน ประชาชนจะฝากความหวังได้หรือ ไตร่ตรองดีๆ กล้ารับผิดชอบกับสิ่งที่พูดและท่าทีหรือเปล่า ความสงบจะเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่างน้อยต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่บอกปัดเลย ถ้านายภูมิธรรมกับ น.ส.แพทองธาร คิดว่าตัวเองทำถูก กล้าๆลงไปประจำการที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ต้องเอาขบวนอารักขา เอิกเกริก ปกป้องป้องกัน ถ้าท่าทีนายภูมิธรรมยังเป็นแบบนี้ ความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทุมาตั้งแต่ยุคนายทักษิณยากที่จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได้”นายวิโรจน์กล่าวและว่าถ้าในอีก 20 กว่าวัน คดีหมดอายุความไปแล้ว พล.อ.พิศาลกลับมานั่งประชุมในพรรค พท. น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. และเป็นนายกฯจะรับผิดชอบอย่างไร จะไปกอดไหล่ยินดีแล้วบอกเป็นเรื่องส่วนตัวหรือ เรื่องนี้ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แต่สำคัญกว่าคือประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ไว้วางใจ คุณชนะในสภาฯ แต่ชนะใจประชาชนได้หรือเปล่า”นายวิโรจน์กล่าว
“สมชัย” บี้ พท.สอบพฤติกรรม “พิศาล”
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า คดีตากใบจะหมดอายุความ 20 ปีในวันที่ 25 ต.ค.67 ผู้ต้องหาคนหนึ่งยังไม่มาศาล ไม่คิดมอบตัว มีท่าทีหนีหมายจับศาล เพื่อให้หมดอายุความ เป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทางสภาฯบอกว่าตามไม่ได้ เพราะลาป่วยไปรักษาตัวต่างประเทศ ตั้งแต่ 26 ส.ค.ถึง 30 ต.ค.67 มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯเป็นผู้อนุมัติ ไม่ต้องมีหนังสือรับรองจากแพทย์ ทางเพื่อไทยบอกเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถติดต่อให้มามอบตัวได้ เหมือนทุกฝ่ายรอให้พ้นวันที่ 25 ต.ค.ก็จบ กลับมานั่งในสภาฯต่อแบบทองไม่รู้ร้อนได้ พฤติกรรมเยี่ยงนี้เหมาะสมหรือไม่ 1.เป็นชายชาติทหาร แต่ไม่กล้าขึ้นศาล หลบหลีกหมายจับ ไม่ติดต่อกลับเพื่อมอบตัวต่อศาล 2.เป็น สส.มีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่หลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย 3.เป็นรองนายกฯดูแลความมั่นคง เอาแต่พูดซ้ำๆ ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้อยู่ไหน 4.เป็นพรรคที่บอกเคารพกติกาบ้านเมือง แต่ สส.ในพรรคทำผิด ไม่ดำเนินการใดๆ
จี้ขับออกจาก สส.หากกระทำผิด
นายสมชัยระบุว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยควรแสดงออกเพื่อให้เห็นว่าพยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้ 1.ตรวจสอบกับ ตม.ว่ามีการออกนอกประเทศจริงหรือไม่ ประทับตราออกนอกประเทศวันเวลาใด 2.ตรวจสอบสายการบินว่าเดินทางไปประเทศปลายทางที่ใด 3.สั่งการให้สถานทูตไทยตรวจสอบข้อมูล มีการไปรักษาตัวในประเทศนั้นจริงหรือไม่ 4.หากทุกอย่างไม่เป็นจริง แสดงถึงความพยายามหลบหลีกหมายจับของผู้เป็นสมาชิกพรรค ถือเป็นการทำผิดกฎหมายของ สส.พรรค เพื่อไทยควรลงมติขับออกจากพรรคให้สิ้นสภาพ สส.
โอ่นายกฯมุ่งมั่นดันคนไทยแฮปปี้
วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของศูนย์สำรวจความคิดเห็นนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ถึงความสุขในฐานะทางการเงินของชีวิตที่คำนึงถึงภาวะรายรับ รายจ่าย และหนี้สิน เดือน ก.ย. พบว่าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่มีความสุขในการดำเนินชีวิต เพิ่มขึ้น และมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น ผลจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ฟื้นตัว เป็นผลจากการทำงานอย่างมีภาวะผู้นำ เร่งแก้ไขปัญหาจนเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตลอดระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินไม่ครบ 1 เดือน หลังจากการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายกฯมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจคำนึงถึงความสุข ของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งมุ่งมั่นแก้ปัญหาด้วยความเข้าใจ เข้าถึงประชาชน จึงทำให้ผลโพลออกมาดังกล่าว
“วรชัย” ฉะสุมไฟแค้นจุดพลุล้มรัฐบาล
นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่มีหลายกลุ่มเตรียมรวมตัวก่อม็อบทอดกฐินขับไล่รัฐบาลว่า สถานการณ์ในประเทศขณะนี้ประชาชนทุกคนต้องการรัฐบาลที่เข้มแข็ง รู้ปัญหาเพื่อทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอาชีพค้าความขัดแย้ง ต้องการสร้างเงื่อนไขให้ประชาชนเกลียดรัฐบาล ถือเป็นการทำลายประเทศชาติด้วยเหตุผลความแค้นส่วนตัวล้วนๆ เพราะขณะนี้รัฐบาลเพิ่งทำงานกำลังเดินหน้าไปได้ดีทั้งการเรียกความเชื่อมั่น แก้วิกฤติภัยธรรมชาติ ยังไม่มีเงื่อนไขอะไรให้ออกมาเคลื่อนไหว จึงถือเป็นความแค้นส่วนตัวล้วนๆ
แฉรวมพลเขย่า กวักมือเรียกรถถัง
“ได้ข้อมูลมาว่า วันที่ 28 ก.ย. มีลุงแก่ๆคนหนึ่งใช้เครื่องบินของเจ้าสัว บินไปประเทศสิงคโปร์ กลับมาวันที่ 29 ก.ย. จากนั้นมีนาย “พ” ที่ใกล้ชิดลุงแก่ๆคนดังกล่าวไปโผล่แถวถนนพระอาทิตย์ รวมถึงไปเจอแกนนำม็อบ ทั้งที่เคยรวมตัวกันข้างทำเนียบฯและที่มีฐานที่มั่นอยู่แถวถนนรามอินทรา ทำให้มีการรวมตัวเฉพาะกิจ จนเกิดการนัดหมายเขย่ารัฐบาลในช่วงนี้ สิ่งนี้จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ เพราะนักลงทุนที่กำลังจะเดินหน้าเข้ามาลงทุนจะชะงักงันได้ ที่ผ่านมาประเทศเรามีคนได้ประโยชน์จากความขัดแย้งแค่ไม่กี่คน ตอนนี้พวกเขากำลังจะสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ และอาจเป็นเงื่อนไขกวักมือรถถังอีกครั้ง จึงขอให้ประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศร่วมกันวิจารณ์การกระทำเช่นนี้ และไม่ให้ความร่วมมือกับพวกพ่อค้าความขัดแย้งเหล่านี้” นายวรชัยกล่าว
“ชูศักดิ์” ชี้พรรคการเมืองต้องชัดแก้ รธน.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สว.แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติของสภาฯให้กลับไปใช้เกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้น ในการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ประธานสภาฯต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณา หากไม่เห็นชอบตาม สว. ต้องตั้งกรรมาธิการร่วมกันของสองสภาฯฝ่ายละเท่ากันเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน หากตกลงกันได้อาจทำให้การทำประชามติทันในเดือน ม.ค.68 ตามที่วางกรอบไว้ แต่ถ้าเห็นไม่ตรงกันต้องเว้น 180 วันก่อน สส.จะหยิบยกมาพิจารณาได้ การทำประชามติจะล่าช้าออกไป ทั้งนี้มีความจำเป็นที่หัวหน้าพรรคการเมืองต้องคุยกันเพื่อหาข้อยุติเสียก่อน อาจเกิดขึ้นสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไป
“อ้วน” ลีลาน้ำท่วมคลี่คลายค่อยว่ากัน
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่ได้กำหนด ตอนนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เช่นที่เชียงใหม่ เชียงราย ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายประเด็นการเมืองค่อยว่ากัน
รื้อ รธน.รอได้ ช่วยน้ำท่วมก่อน
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถรอได้ว่า ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทุกภาคส่วนควรเร่งใช้สรรพกำลังในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นสิ่งที่รอไม่ได้ รวมถึงปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และเห็นด้วยที่รัฐบาลทำโครงการแจกเงินหมื่นให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอของพรรค รทสช.เคยเสนอในสภาฯว่า ควรใช้ฐานข้อมูลของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะเพื่อสามารถใช้จ่ายได้คล่องตัว ทั้งนี้ ขอย้ำว่าเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือเรื่องการเมือง มีระยะเวลากระบวนการทำงานของการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องเร่งรัด แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนคือปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม
“จุรินทร์” หนุนพักรบแก้ปมจริยธรรม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพื่อปรับลดมาตรฐานด้านจริยธรรมนักการเมืองลงว่า การที่หลายพรรค การเมืองตัดสินใจยุติการเดินหน้าเรื่องนี้ เพื่อลดการถูกกล่าวหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง เป็นเรื่องที่ดี และสอดคล้องกับสถานการณ์ประเทศ เพราะยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่จะต้องเร่งแก้ไขจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องน้ำท่วมและเศรษฐกิจ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก เมื่อหมดแรงขับจากการแจกเงินหมื่นแล้ว ปัญหาเดิมจะกลับมาปะทุอีก จึงควรมีแนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าที่ตรงจุด
ดันทุรังเหมือนกอดระเบิดแนบอก
“การถอยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราปมจริยธรรมนี้ จากการแสดงออกของหลายพรรค การเมืองคือการถอดสลักระเบิด แต่ถ้าจะเดินหน้าต่อไปอีกให้ได้ มันจะเหมือนไปเอาระเบิดที่พร้อมระเบิดมากอดไว้กับตัวอีก เพราะนอกจากจะเป็นการตอกย้ำว่าการแก้รัฐธรรมนูญกรณีนี้เป็นการทำเพื่อตัวเอง ที่ประชาชนไม่ได้อะไรแล้ว ยังเป็นการแก้ ที่ทำมาตรฐานการเมืองที่กำลังสูงขึ้นให้ลดต่ำลงไปอีกด้วย” นายจุรินทร์กล่าว
สว.ฉะดองร่างประชามติคืนสภาฯ
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีวุฒิสภามีมติเห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ โดยกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการแก้รัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้วุฒิสภายังไม่ส่งร่างที่แก้ไขกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎร มองว่าเป็นการเตะถ่วง แทนที่จะรีบส่งไป เพราะ สว.มีมติตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.แล้ว หากส่งไปแล้ว สส.ยืนยันจะใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ต้องกลับมาตั้ง กมธ.ร่วมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สส. และ สว.จะตกลงกันได้ในชั้น กมธ.ร่วมหรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า อำนาจอยู่ที่ สส. หาก สส.ยืนยันเรื่องเสียงข้างมากแบบง่าย กฎหมายฉบับนี้ต้องรอไปอีก 180 วัน เพื่อยืนยันและประกาศใช้ หากต้องตั้ง กมธ.ร่วมจะทำให้การทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือน ก.พ.68 ไปพร้อมกับการเลือกตั้ง อบจ.ไม่สามารถทำได้ทันแน่นอน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่