แก้รัฐธรรมนูญวนในอ่าง “วิสุทธิ์” โยนจะเสร็จทันใช้ในรัฐบาลนี้หรือไม่ รอหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลถกหาข้อสรุปจะเดินหน้าหรือถอยหลัง “อนุทิน” บอกอย่ากังวล อ้างเหตุนายกฯเดินสายต่างประเทศ พท.ยังไม่นัดตั้งวงหารือ “ครูใหญ่เนวิน” ทำบุญเบิร์ธเดย์ 66 ปียิ่งใหญ่ ลูกข่ายสีน้ำเงินตบเท้าร่วมอวยพรพรึบ เจ้าตัวอวยพร“อนุทิน” ให้เป็นนายกฯ “เสี่ยหนู” เขินยิงมุกเป็นแค่นายกสมาคมเกียมัว ลั่น ขอเป็นรองนายกฯช่วยทำงานให้ “นายกฯอิ๊งค์” สำเร็จก้าวหน้ามากที่สุด “ไหม” เหนื่อยใจรัฐบาลบริหารการคลังผิดพลาดหนักยิ่งกว่ายุค “ลุงตู่” ล้วงเงินคงคลังเพิ่มอีก 8 หมื่นล้าน โปะเงินเดือนข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ
ความชัดเจนในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เสร็จทันบังคับใช้ในรัฐบาลนี้ ยังคงไร้คำตอบจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุต้องรอการหารือกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หาข้อสรุปจะเดินหน้าหรือถอยหลังอย่างไร
“วิสุทธิ์” รอ หน.ทุกพรรคถกแก้ รธน.
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึง การพูดคุยหารือของหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรค การเมืองถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าว่า เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคการเมืองจะไปพูดกัน ก่อนว่าจะไปทางไหน จะเดินหน้าหรือถอยหลังอย่างไร วิปรัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประสานเพื่อหารือ ดังนั้น ต้องรอให้ระดับหัวหน้าไปคุยกันก่อน ข้างล่างจะได้ไปด้วยกันได้ เมื่อถามว่าจะปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ในวันที่ 31 ต.ค.67 การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ทันพิจารณาสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า แล้วแต่การหารือของหัวหน้าพรรคการเมือง ถ้าตกลงกันได้ แต่หากยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอไปก่อน เพราะมีกฎหมายประชามติ และอะไรอีกหลายอย่างให้คุยกัน เบ็ดเสร็จแล้วเป็นที่เข้าใจของสังคมจะได้จบๆไป ส่วนจะต้องเปิดสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาเรื่องใดหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตามปกติขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะเสนอมา
...
“อนุทิน” เผย พท.ยังไม่นัดหารือ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ขณะนี้พรรค พท.ยังไม่ได้นัดหารือเพื่อพูดคุยประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ และช่วงนี้นายกฯเดินทางไปต่างประเทศตลอด ขออย่าเพิ่งกังวลตรงนั้น เพราะมีหลายเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญมากกว่า อาทิ ปัญหาอุทกภัย เหตุรถบัสทัศนศึกษานักเรียนไฟไหม้ ต้องจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน เมื่อถามว่ารัฐบาลนี้จะแก้ไขธรรมนูญได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขอรอหารือกัน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สมาชิกพรรคการเมือง สส.และคนของประชาชนทุกคน หากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองเราเดินหน้าไม่เหลียวหลังอยู่แล้ว
งานยักษ์เบิร์ธเดย์ 66 ปี “เนวิน”
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองชื่อดัง จัดงานทำบุญวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 66 ปี มีนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง มาร่วมแสดงความยินดีจำนวนมาก อาทิ รัฐมนตรี แกนนำและ สส.พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภา สายสีน้ำเงิน อาทิ นายพูลเพิ่ม ทองศรี สว. พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. รวมถึงนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ. อยุธยา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน
บิ๊ก มท.แห่มากันพร้อมหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่สวมเสื้อโทนสีกรมท่า ด้านหลังสกรีนข้อความฅนบุรีรัมย์และสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายเนวินได้แจ้งงดรับดอกไม้และของขวัญทุกชนิด แต่หากใครประสงค์จะร่วมทำบุญ ให้บริจาคเงินให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์
ครูใหญ่อวยพร “อนุทิน” เป็นนายกฯ
ต่อมาเวลา 09.00 น. มีพิธีปะกำช้าง ที่ตระกูลชิดชอบยึดถือสืบทอดมายาวนาน มีคนในตระกูลชิดชอบ ได้แก่ นายเนวิน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว. คมนาคม และครอบครัว ร่วมในพิธี หลังจากนั้นผู้ร่วมงานได้นำกล้วยน้ำว้ามาป้อนช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อ และมีพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญเพื่อขอพรจากครูปะกำ หลังจากที่ครูปะกำผูกข้อมือให้นายเนวิน นายเนวินได้หันมาบอกครูปะกำให้ผูกข้อมือให้นายอนุทินด้วย ก่อนกล่าวด้วยเสียงดังว่า “ผูกให้เป็นนายกฯ ผูกให้ยิ่งใหญ่ ผูกให้แข็งแรง” ขณะที่นายอนุทินยิ้มอย่างเขินๆ จากนั้นนายเนวิน ยังได้ผูกข้อมือให้นายอนุทินด้วย และอวยพรให้แข็งแรง ให้สมหวัง
“หนู” ยิงมุก “นายกสมาคมเกียมัว”
ผู้สื่อข่าวถามนายอนุทินว่า นายเนวินอวยพรให้เป็นนายกฯขานรับหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “นายกฯเป็นตลอดอยู่แล้วไม่มีใครแย่ง นายกสมาคมเกียมัวแห่งประเทศไทย ยังไม่เคยมีใครชิงตำแหน่งนี้จากผมได้” เมื่อถามว่า แล้วคำว่านายกฯ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่คิด ตอนนี้ขอเป็นรัฐมนตรี ทำหน้าที่ให้ดีก่อน ขอเป็นรองนายกฯ ทำงานให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ประสบความสำเร็จให้รัฐบาล ให้รัฐบาลของท่านมีแต่ความก้าวหน้า ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ให้ได้มากที่สุด “ตำแหน่งนายกสมาคมเกียมัวที่ว่านี้ มั่นใจว่ามีความมั่นคงแน่นอน ไม่มีใครเกียมัว มากกว่าผมอยู่แล้ว” จากนั้นผู้สื่อข่าวหันไปถาม น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายอนุทินว่า นายอนุทินบอกว่าเป็นนายกสมาคมเกียมัวแห่งประเทศไทย น.ส.ธนนนท์ยิ้มกล่าวติดตลกว่า “ขอให้จริงนะคะ บอกไว้คำเดียวว่าขอให้จริง” ต่อมานายเนวินและคณะ ขึ้นไปทำบุญเลี้ยงพระ พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง เป็นการส่วนตัวไม่อนุญาต ให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ
“ไหม” หน่าย รบ.ล้วงเงินคงคลังเพิ่มอีก
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ประชาชน โพสต์ข่าวของสำนักข่าวอิสราที่นำเสนอเรื่อง “ล้วงเงินคงคลัง 8 หมื่นล้าน โปะรายจ่ายบุคลากร ภาครัฐ 3 รายการ” พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า เห็นข่าวรัฐบาลล้วงเงินคงคลังเพิ่มอีก 8 หมื่นล้าน แล้วยิ่งเหนื่อยใจกับการบริหารการคลังของรัฐบาลนี้ เพราะรวมๆ แล้วตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารมีการใช้เงินคงคลังไปราว 1.2 แสนล้าน ก้อนแรกนำไปชำระดอกเบี้ยราว 4 หมื่นล้าน เพราะตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ ก้อนที่สองเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร ทั้งเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ฯลฯ รวม 8 หมื่นล้าน ทั้ง 2 ก้อนนี้ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัย คาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่ยังตั้งงบขาด ราวกับจงใจ (เคยอภิปรายเตือนไว้ในงบปี 67 ว่าอย่าพลาดเหมือนประยุทธ์ แต่ยังไม่แก้ไข งบปี 68 ยังเป็นเหมือนเดิม) ปกติถ้ามีการตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ อาจใช้งบกลาง เงินสำรองจ่ายฉุกเฉินมาใช้ได้ แต่งบกลางถูกใช้จนหมด เอามาโปะได้แค่ 2 พันกว่าล้าน (อย่าอ้างเรื่องน้ำท่วม เพราะอนุมัติไปแค่ 2 พันกว่าล้าน แต่ดิจิทัลวอลเล็ตใช้ไป 23,500 ล้าน)
หยันใช้เงินคงคลังสูงกว่าสมัย “ลุงตู่”
น.ส.ศิริกัญญาโพสต์อีกว่า สุดท้ายต้องไปใช้เงินคงคลังรวม 1.2 แสนล้าน ในจำนวนเงินที่สูงกว่าตอนรัฐบาลประยุทธ์เสียอีก ในปีที่งบน้อยเพราะโควิดอย่างปี 66 ยังควักเงินคงคลังเพียง 8 หมื่นล้านบาท การใช้เงินคงคลังสะท้อนการวางแผนงบประมาณที่ผิดพลาด จัดความสำคัญของเงินไม่ดี มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการณ์สูงจนงบกลางไม่พอจ่าย และที่สำคัญมันไม่ฟรีรัฐบาลต้องไปตั้งงบใช้คืนเงินคงคลังในปีงบถัดๆไปอยู่ดี งบปี 69 ต้องถูกบีบจากงบใช้คืนหนี้สาธารณะมากขึ้นอยู่แล้ว ไหนจะต้องคืนหนี้ ธ.ก.ส.ที่ปีนี้เบี้ยวเค้าปีนี้ แล้วยังจะต้องมาใช้คืนเงินคงคลังอีก 1.2 แสนล้าน แล้วจะเหลืองบไปทำอย่างอื่นซักเท่าไหร่กันในงบปี 69
“อิ๊งค์” ถวายแจกันพระเจ้าน้องนางเธอฯ
เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ถนนกำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่ น.ส.แพทองธาร พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ทูลเกล้าฯถวายแจกันดอกไม้หน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรี สวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และร่วมลงนามถวายพระพรในนามนายกฯและคณะรัฐมนตรี
จ่อคิวเยือนลาวถกอาเซียน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีกำหนดเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการวันที่ 8 ต.ค. ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป.ลาว จะเข้าพบหารือกับนายสอนไซ และนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว หารือความร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติด การหลอกลวงออนไลน์ วันที่ 9-11 ต.ค. จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44-45 และประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “อาเซียน : เพิ่มทวีความเชื่อมโยงและความเข้มแข็งในอาเซียน” น.ส.แพทองธารยังจะได้ประชุมหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา รวมทั้งสหประชาชาติ ร่วมหารือประเด็นสำคัญต่างๆ อาทิ การเสริมสร้างประชาคมอาเซียน และเข้าร่วมหารือกับผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ สมัชชารัฐสภาอาเซียน สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน และเยาวชนอาเซียน รวมทั้งการประชุม Asia Zero Emission Community Leaders’ Meeting ครั้งที่ 2 และมีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
“อ้วน” ชงนายกฯเคาะเลขาฯ สมช.
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม สมช. ครั้งที่ 3/2567 จากนั้นนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมพิจารณาแต่งตั้งเลขาธิการสมช.ต้องเสนอนายกฯและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พยายามจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้ได้วันที่ 8 ต.ค. ดูกรอบคุณสมบัติและความเหมาะสมเป็นประโยชน์ต่อ สมช.และประเทศชาติมากที่สุด จะเป็นทหารหรือพลเรือนเคาะแล้วแต่ยังบอกไม่ได้ ไม่ว่าเป็นคนนอกหรือคนในที่เคยเป็นมาทำได้ดีทั้งนั้น อยู่ที่ความจำเป็นและสถานการณ์ของแต่ละช่วง สถานการณ์วันนี้เกี่ยวกับความมั่นคงทั้งในและนอก ทุกคนทำหน้าที่ได้หมด แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นคนในจนกว่าจะตัดสินใจ กระแสชื่อนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สมช. มาแรง เป็นเรื่องของข่าว จะเสนอให้เลือกมีมากกว่า 1 ชื่อ อำนาจสูงสุดอยู่ที่ ครม.และนายกฯ รวมทั้งไม่เกี่ยวว่าต้องรอการประชุม ก.ตร.วันที่ 7 ต.ค.ก่อน
ยันไม่ยุบเลิกโครงการเรือดำน้ำ
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ได้ให้แต่ละกองทัพมารายงานเรื่องเรือดำน้ำละเอียดอ่อนสลับซับซ้อน อยากฟังว่าเรื่องเป็นอย่างไร ทำไมต้องขยายเวลา ทำไมต้องซื้อหรือไม่ต้องซื้อ ต้องทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ เมื่อถามว่ามีโครงการที่จะยุติเรื่องเรือดำน้ำหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่มี รวมถึงเรื่องเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ขอฟังทุกอย่างก่อนเช่นกัน ต้องเข้า ครม. ต้องนำเข้า ขอดูแต่ละเรื่องก่อน เพราะเพิ่งเข้ามาใหม่ต้องดูทุกเรื่อง ส่วนเรื่องการซ้อมทหารที่ร้องขอความเป็นธรรมต่อ กมธ.ทหาร ได้รับรายงานแล้ว กำลังเรียกรายละเอียดมาให้พิจารณา
ไม่บังอาจเป็นพี่เลี้ยงยก “อิ๊งค์” ดีเลิศ
นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีที่ถูกมองว่าเป็นพี่เลี้ยงนายกฯว่า ไม่ได้เป็นพี่เลี้ยง เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีศักยภาพในตัวเอง แค่เข้ามาไม่ถึงเดือนรับเรื่องหนัก และรับมือได้เป็นอย่างดี เราต้องเชื่อมั่นในตัวนายกฯของเรา หากจะไปคิดแค่ว่าท่านไม่มีความสามารถ หรือคิดอะไรไปต่างๆนานา มีแต่บั่นทอนความเชื่อมั่นของประเทศ ต้องให้เวลาท่าน ทำงานไม่ถึงเดือนได้พิสูจน์ศักยภาพการเป็นผู้นำ ขอให้รอดูต่อไป ท่านเป็นตัวของตัวเอง อย่าไปคิดว่าใครจะเป็นพี่เลี้ยงใคร ตนไม่บังอาจ เมื่อถามว่าให้คะแนนนายกฯเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “สำหรับใจผมถือว่าดีเลิศ”
โบ้ยหมายจับ “พิศาล” เรื่องเฉพาะตัว
อีกเรื่อง นายภูมิธรรม รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีมีหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.และอดีตมทภ.4 ในคดีตากใบ พรรค พท.จะประสาน พล.อ.พิศาลให้หรือไม่ว่า ไม่ใช่เรื่องพรรค พท.เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เราถือตามที่สภาฯว่าอยู่แล้ว เป็นหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ตำรวจต้องเร่งรัดตามคำสั่งศาล หากพบตัวควบคุมตัวได้ เอาเป็นว่าไปจับตัวให้ได้ก่อน ถ้าเรารู้ว่าอยู่ที่ไหนจะแนะนำให้ไปสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เป็นเอกสิทธิ์ของเขาที่จะตัดสินใจ การถูกกล่าวหายังไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้มีความผิด เข้าสู่กระบวนการของศาลน่าจะดีที่สุด ทุกอย่างจะได้จบลงชัดเจน ได้กำชับการตำรวจให้เร่งดำเนินการ ให้เห็นชัดเจนที่มีการกล่าวหาเราว่าเป่าคดีบ้างหรือเราไปเข้าข้างบ้าง
พปชร.บี้ “อิ๊งค์” ตามจับตัวส่งศาล
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ไม่ไปขึ้นศาลคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปี 2547 เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ว่า พรรค พปชร.ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.และหัวหน้ารัฐบาล ต้องสร้างความยุติธรรมให้ประชาชน เร่งติดตามตัว พล.อ.พิศาล ที่มีใบลาการประชุมสภาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และเดินทางไปต่างประเทศแล้ว มาดำเนินคดีตามหมายจับ เพราะคดีใกล้จะหมด ในวันที่ 25 ต.ค.2567 หากคดียังไม่ได้รับการคลี่คลาย สังคมจะเกิดคำถามว่า รัฐบาลพยายามเตะถ่วงคดีหรือไม่
“บิ๊กต่าย” สั่งตำรวจล่าตัวจำเลย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. มีหนังสือสั่งการด่วนให้ ผบช.น. ผบช.ภ.1-9 ผบช.ก. ผบช.สอท. ผบช.ส. ผบช.สตม. ผบช.ตชด.สืบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลย และผู้ต้องหา ตามที่ศาลจังหวัดนราธิวาส และศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต มทภ.4 กับพวกในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ” กรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ที่จำเลยหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด โดยให้จับกุมดำเนินคดีภายในอายุความ ที่จะครบวันที่ 25ต.ค.2567 เร่งรัดให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานด้านการสืบสวน เร่งรัดติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมายให้รอง ผบ.ตร. (สส) ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติในภาพรวม
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่