ที่ประชุมสภาวันก่อน เสนอญัตติด่วน เรื่องขอให้พิจารณาศึกษาแนวทาง เสนอข้อคิดเห็นและการยกระดับมาตรฐานการป้องกันและแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมที่เกิดกับเด็กอนุบาล-ประถม และครู ที่ติดอยู่ในรถโดยสารถูกไฟไหม้ ที่เห็นบรรยากาศในจอทีวีคือ ภาพน้ำตารั่วน้ำตารินของบรรดา สส. มีข้อเสนอในมิติต่างๆ เช่น มาตรฐานของรถ การเยียวยาอย่างทั่วถึง การทัศนศึกษาของนักเรียน เศร้ากันทั้งสภา
กระทรวงศึกษาธิการ โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ตาแดงๆ แถลงข่าว ณ จุดเกิดเหตุ ถึงตัวเลขผู้เสียชีวิต 23 ราย ระบุว่า ในใจเจ็บปวดกับเด็กนักเรียน ซึ่งครู และนักเรียนเสียขวัญกำลังใจอย่างมากต้องดึงจิตใจเขากลับมา และสร้างกิจกรรมไม่ให้เสียขวัญ นอกจากนี้ยังออกคำสั่งงดการทัศนศึกษาของนักเรียนทันที ถ้ามีความจำเป็นเด็กเล็กจะต้องมีผู้ปกครองเดินทางไปด้วย
ต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคม โดย รมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แถลงข่าวทันที สั่งการให้กรมขนส่งทางบก เรียกรถโดยสารติดแก๊สทั้งหมด 13,426 คัน มาตรวจสภาพภายใน 60 วัน โดยจะมีการร่วมบูรณาการกับกระทรวงศึกษาธิการเรื่องความปลอดภัยทุกครั้ง และจะต้องมีพนักงานอธิบายจุดทางออกฉุกเฉินทุกครั้ง แต่จะไม่มีการยกเลิกรถโดยสารที่ใช้แก๊ส โดยจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยจากจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการระเบิด ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัย 2.4 ล้านบาท
มีรายงานจาก กรมการขนส่งทางบก ว่า ปัจจุบันมีรถโดยสารที่ใช้แก๊สทั้งหมด 13,426 คัน เป็นรถประจำทาง 10,491 คัน และไม่ประจำทางอีก 2,935 คัน “คาดว่าจะมีการตรวจสอบสภาพรถทั้งหมดภายใน 2 เดือน ถ้าไม่ผ่านการตรวจสภาพจะยึดใบอนุญาตทันที สำหรับรถที่เกิดอุบัติเหตุ ได้ยกเลิกการประกอบการแล้ว รวมทั้งสั่งให้ออกมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยเดิม” สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวเอาไว้
...
จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การตรวจสอบสภาพรถใช้แก๊ส ปกติจะตรวจ 2 ปีต่อครั้ง โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบจากวิศวกร 1 ครั้ง และในการต่อภาษีอีก 1 ครั้ง รถโดยสารที่วิ่งในระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร กำหนดให้ใช้แชสซีรถไม่เกิน 40 ปี ถ้าระยะทางเกิน 300 แต่ไม่เกิน 500 กิโลเมตร กำหนดอายุการใช้งานแชสซีรถไม่เกิน 35 ปี ถ้าใช้งานในระยะทางเกิน 500 กิโลเมตร ให้ใช้แชสซีรถไม่เกิน 30 ปี ส่วนรถโดยสารไม่ประจำทาง ยังไม่ได้กำหนดอายุการใช้งานของแชสซีรถ (ไม่ได้พูดถึงการใช้แก๊สในรถโดยสารและอุปกรณ์ในรถ)
การตรวจสอบรถโดยสารที่เกิดเหตุ เป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง สิงห์บุรี จดทะเบียนครั้งแรก วันที่ 19 ก.พ.2513 หรือ 54 ปีมาแล้ว ก่อนจะมาจดทะเบียนใหม่ 26 ต.ค.2561 หลังจากมีการดัดแปลงแชสซีรถ เรื่องนี้ได้บทสรุปคือ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เห็นว่าการทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้กับเด็ก ไม่อยากให้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุควรแก้ที่ต้นเหตุ เจ้าหน้าที่ขนส่งสิงห์บุรีถูกย้ายมาประจำกรม แล้วก็จบลงเงียบๆ ถ้าเป็นต่างประเทศไม่ลาออกก็ไล่ออก
แต่นี่เมืองไทย ที่มักจะแก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอก แก้ผ้าเอาหน้ารอด ลูบหน้าปะจมูก.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม