มีสัญญาณส่อแสดงว่าการเมืองไทย ในปีหน้า 2568 อาจจะ “ดุ” นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตผู้นำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง ขู่ว่าจะออกมาเดินเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้อเรียกร้อง 3 ข้อ แต่ไม่ทราบว่าต้องการอะไร

อีกเรื่องหนึ่ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าจะเกิดปัญหากับพรรคที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นสมาชิก หรือรับใบสั่งแกนนำมาร้องเรียนจนมั่วไปหมด นั่นก็คือพรรคเพื่อไทย จุดเริ่มต้น เป็นปัญหาใหญ่มาก กระทบสถานะของรัฐบาลแน่นอน หรือถึงกับยุบพรรค แต่ไม่ได้ชี้แจงว่ามูลเหตุของปัญหาคืออะไร

ยังมีปัญหาใหญ่ทางการเมืองอีกมาก ที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” แถลงว่าขณะนี้ มีเรื่องร้องเรียนทางการเมืองที่สำคัญๆกว่า 10 คดี มีทั้งร้องให้ยุบพรรคการเมือง ร้องให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ตัวอย่างเช่น ร้องว่าพรรคเพื่อไทย ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

เรื่องที่อาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองได้ น่าจะได้แก่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่เคยปักหลักชุมนุมมาแล้ว ระหว่างปี 2548 ถึง 2549 เป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อยาวนาน เพื่อขับไล่รัฐบาลทักษิณ แต่นำไปสู่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผู้นำ เป็นการถูกยึดอำนาจครั้งแรกของพรรคไทยรักไทย

เป็นการสืบทอดรัฐประหาร ซึ่งเป็นประเพณี หรือเป็นวัฏจักรการเมืองไทย ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เริ่มต้นด้วยรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมทิ้งและเขียนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่เป็นเผด็จการเต็มใบ แต่บางฉบับกลายเป็น “ฉบับเผด็จการถาวร” เช่น ฉบับที่ 7 ที่เรียกว่า “ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร 2502

...

เป็นฉบับเผด็จการเต็มใบ และมีอายุยืนยาวถึงประมาณ 10 ปี น่าสังเกตว่าการชุมนุมทางการเมืองใหญ่ๆ บ่อยครั้งนำไปสู่รัฐประหาร แทนที่จะได้มาซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามความ ต้องการของประชาชนผู้ร่วมชุมนุม หลายครั้งนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ต้องยึดบทเรียนในอดีต

รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยทุกฉบับ บัญญัติไว้ตรงกันว่า “บุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ” นายกรัฐมนตรีแพทองธาร มีอาการไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ บอกนักข่าวว่า “เพิ่งทำงานได้เดือนเดียวจะไล่แล้วหรือคะ” และสัญญาว่าจะทำให้ประเทศสงบสุข คนไทยมีสันติสุข.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม