“จิราพร” เผย สคบ. จ่อส่งตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” สลากทองไม่ถูกกฎหมาย ไม่จดทะเบียนออนไลน์แบบขายตรง แจงเหตุยังไม่อายัดทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้เสียหายที่มาคืนทองได้รับเงินก่อน

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2567 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการตรวจสอบร้านขายทองออนไลน์ ห้างเพชรทองเคทูเอ็นของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ว่า เดิมให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มารายงานวันที่ 4 ตุลาคม 2567 แต่เรื่องนี้ได้เข้ากระบวนการสืบสวนของตำรวจแล้ว ในส่วนของ สคบ. มีหน้าที่เป็นพยานในการนำพยานหลักฐานต่างๆ ให้ตำรวจ ซึ่ง สคบ. ได้ส่งตัวอย่างทองทั้งหมด 6 ตัวอย่าง ไปตรวจสอบที่สถาบันอัญมณี ตรวจทั้งแบบเอกซเรย์และแบบเผาแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากที่ สคบ. ลงตรวจร้านทอง พบว่าสลากร้านทองดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งข้อมูลให้ตำรวจเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อีกทั้งไม่ได้มีการจดทะเบียนออนไลน์แบบขายตรง แต่กลับมีการขายออนไลน์ จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงวิธีการต่างๆ หากผิดก็จะส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ต่อไป

...

น.ส.จิราพร กล่าวต่อไปว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อติดตามเรื่องว่าเข้าสู่กระบวนการแล้วหรือไม่ ได้รับรายงานว่าตำรวจ ปคบ. ส่งข้อมูลที่เป็นมูลฐานความผิดฉ้อโกงไปยัง ปปง. แล้ว ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในวันที่ 17 ตุลาคม 2567 จะเป็นการสอบสวนในเชิงลึก และพิจารณาดูว่าจะมีมติให้ยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์หรือไม่ หากมีมติให้อายัดทรัพย์ก็จะมีขั้นตอนในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายต่อไป

ขณะที่จากเคสนี้จะมีการขยายผลตรวจสอบร้านค้าขายทองออนไลน์อื่นๆ ต่อไป โดยจะเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกัน รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์และดาราดังที่เข้ามาร่วมขายของด้วย ซึ่ง สคบ. มีกฎหมายเกี่ยวกับโฆษณาที่สามารถตรวจสอบได้ โดยทุกคนยินดีทำงานร่วมกันที่จะเร่งตรวจสอบการใช้อินฟลูเอนเซอร์และดาราดังเข้ามาสร้างความน่าเชื่อถือและจงใจให้มีการซื้อสินค้า

เมื่อถามว่าการอายัดทรัพย์สินทำไมไม่ดำเนินการทันที เพราะหากปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปอาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สินได้ น.ส.จิราพร ตอบว่า วันนั้นมีการหารือกับ ปปง. และ สคบ. มีการประสานงานกับตำรวจเฝ้าระวังทรัพย์สินของผู้ประกอบการร้านทองไว้อยู่แล้ว รวมถึงดูการเคลื่อนไหว หากผิดปกติจะอายัดทรัพย์ไว้ก่อน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความเคลื่อนไหวของบัญชี ซึ่งประเด็นนี้ตนเองให้ความสนใจและมีความกังวล ได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และการที่ยังไม่อายัดทันทีเพราะเป็นห่วงลูกค้าร้านทองที่ขณะนี้ยังคงเดินทางมาคืนทอง หากอายัดก็จะทำให้ร้านค้าไม่มีเงินมาจ่ายคืนให้กับลูกค้าได้.