ประธานสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ให้สัมภาษณ์สื่อว่าร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยื่นมาในนามรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และฝ่ายค้านโดย พรรคประชาชน จะมีการบรรจุเข้าวาระเพื่อพิจารณาประมาณกลางเดือน ต.ค. ตามระเบียบการประชุม หากมีการยื่นร่างเข้ามาแล้ว จะต้องบรรจุในระเบียบวาระไม่เกิน 15 วัน
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้ง พรรคประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ยอมถอยที่จะไม่ยื่นร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยจริยธรรมของนักการเมืองและลดอำนาจขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ศาลรัฐธรรมนูญ แต่จนแล้วจนรอดยังไม่มีท่าทีว่ามีฝ่ายไหนจะถอนร่างดังกล่าวออกมา
แล้วก็ปล่อยข่าวจากวงในว่า คนต้นเรื่อง ที่จะให้มีการแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยจริยธรรมนักการเมืองก็คือ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (หัวหน้าพรรคใหญ่ในรัฐบาล) ที่หมายถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ปรากฏว่า อนุทิน ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่เห็นด้วยกับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องจริยธรรมทางการเมือง ควรคงไว้เพื่อใช้ตรวจสอบนักการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะ และนักการเมืองควรพร้อมที่จะรับการตรวจสอบด้วย
สรุปแล้ว เกิดอะไรขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลกันแน่ ที่น่าเห็นใจคือพรรคประชาชน หลวมตัวกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาลที่ไปออกตัวแรงเห็นด้วยกับการลดอำนาจองค์กรอิสระ โดยเฉพาะการยุบพรรคการเมือง และจริยธรรมทางการเมือง ฝ่ายรัฐบาลถอยได้ แต่พรรคประชาชนถอยไม่ได้ แต่ถ้าแก้รัฐธรรมนูญมาตราเหล่านี้ได้ คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดกลายเป็นฝ่ายรัฐบาล สรุปว่าเด็กก็โดนผู้ใหญ่หลอกวันยังค่ำ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เชี่ยวชาญวิชามาร
ประเด็นที่จะแก้กันมาก นอกจากจริยธรรม ลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. กกต. แล้ว เรื่องของ การนิรโทษกรรม ถูกจับตาเป็นพิเศษ พรรคประชาชนคิดสั้นๆว่าจะเป็นประโยชน์กับนักโทษการเมืองที่มีการร่วมชุมนุมทางการเมืองและมีความเห็นต่าง มองโลกสวยว่าประชาธิปไตยจะต้องเต็มใบ แต่อีกฝ่ายมองไปมากกว่านั้น
...
อย่างไรก็ตามความยากง่ายของการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาและวัตถุประสงค์อย่างเดียว แต่อยู่ที่กลไกของการแก้รัฐธรรมนูญด้วยในที่นี้หมายถึงเสียง สส.และ สว.ในสภา เอาแค่ข้อกฎหมายอย่างเดียวก็ต้องผ่านกฎหมายประชามติเป็นด่านแรก ประชามติไม่ผ่านก็ตกม้าตาย ในที่ประชุม สว.นำไปพิจารณาเป็นเรื่องด่วนโดยผ่านกรรมาธิการวิสามัญที่มี สว. พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร เป็นประธาน ที่เสนอให้มีการแก้ไขมาตราเดียวคือ ม.13 ว่าด้วยเกณฑ์การผ่านประชามติ จากเดิมที่ผ่านวาระ 3 ของสภาล่าง ให้เติมข้อความ ในวรรคสอง ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิในเรื่องที่ทำประชามตินั้น เรียกว่าเป็นการใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ว่ากันว่า ก็มีไฟเขียวต้นเรื่องมาจากสายสีน้ำเงินนี่แหละ
ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ลับ ลวง หลอน จนเพื่อไทยนอนตาไม่หลับ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม