ยิงไปแล้ว 1 นัดนโยบายประชานิยมแจกหัวละหมื่น ปรากฏว่าเป็นที่พอใจของชาวบ้านชาวช่องเป็นอย่างยิ่ง

เพราะรอคอยมานานเป็นปีลุ้นจนเหงื่อตกไป ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ อีกทั้งได้เงินมาแล้วสามารถใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีเงื่อนไข

เงินสดๆเป็นหมื่นบาทคนที่ไม่ค่อยมีเงินหัวใจย่อมพองโตเป็นธรรมดา

ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาล “เพื่อไทย” ที่อย่างน้อยก็สร้างความน่าเชื่อถือคืนกลับมาได้ คือบอกว่าจะแจกก็แจกจริงๆ

ยิ่งเงินที่ออกมานั้นอยู่ในช่วงน้ำท่วมพอดีสามารถนำไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ไม่ต้องรอเงินเยียวยาจากรัฐบาล

ส่วนคนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมก็สามารถจับจ่ายใช้จ่ายได้ตามที่ต้องการ เพราะเงินก้อนนี้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ

ถามว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ไหน?

ก็ตอบกันให้ชัดๆไปเลยว่าน้อยมาก

เพราะคนไทยกำลังมีปัญหาหนี้สินครัวเรือนสูงเงินก้อนนี้จึงต้องนำไปใช้หนี้ส่วนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหนี้ก็คงจะเก็บใส่เซฟมากกว่าไปใช้อย่างอื่น

เมื่อเป็นเช่นนี้เม็ดเงินจึงไม่ค่อยกระจายเป็น “พายุหมุน” อย่างที่คาดหวังเท่าใดนัก อีกทั้งยอดเงินก้อนนี้

ก็ไม่ได้มากมายนัก!

ถามว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเฟส 2 ต่อไปหรือไม่?

รูปการณ์แบบนี้ต้องทำแน่ เพราะอย่างน้อยก็สามารถเรียกคะแนนจากชาวบ้านได้อีกเพียงแต่วงเงินคงไม่มากนัก

และวิธีการคงจะเปลี่ยนไป อาจจะนำแนวทาง “คนละครึ่ง” ของรัฐบาลชุดที่แล้วมาใช้ เพราะได้ผลดีทั้งผู้ให้และผู้รับ

ผู้บริโภคก็ชอบ แม่ค้าพ่อค้าก็ชอบ ทุกคนได้หมด

ที่สำคัญไม่ต้องใช้เงินมากนัก...

ซึ่งก็ต้องดูว่าคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะใช้วิธีการอย่างไร ซึ่งต้องรอดูผลจากเฟสแรกก่อนว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน

...

ประเด็นก็คือ รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพียงแต่เม็ดเงินมีไม่มากนัก จึงต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นจริง

ประเด็นคือ รัฐบาลต้องการสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นจากประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

กระแสตอบรับที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ โพลได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชน ปรากฏว่าคะแนนนิยมของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี พุ่งสูงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เหนือ

กว่าพรรคประชาชน นั่นทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “คึกคัก” คุยโม้ไปได้อีกนาน

เพราะในการสำรวจความเห็นครั้งที่ 1 และที่ 2 ที่ผ่าน “อิ๊งค์” เป็นรอง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรค “ก้าวไกล”

แต่เมื่อพรรคถูกยุบตั้งพรรคประชาชนโดยมี “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” เป็นหัวหน้าพรรค ปรากฏว่า “อิ๊งค์” คะแนนนิยมดีกว่า

แม้คะแนนนิยม “ประชาชน” จะดีกว่า “เพื่อไทย” ก็ตาม

นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง ที่ยึดปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม