ตัดสินด้วยบัตรเลือกตั้ง

นับเป็นครั้งแรกที่ผลการสำรวจคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่ง ได้ 31.35% อันดับที่ 2 ไม่มีผู้เหมาะสม 23.50% อันดับที่ 3 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน 22.90% อันดับ 4 นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 8.65% และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ 1.65%

เป็นครั้งแรกที่ “อิ๊งค์” มีคะแนน นิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง นับแต่ประกาศชิงนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคเพื่อไทย ผู้ที่ครองอันดับหนึ่งเจ้าประจำคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ท่ีถูกตัดสิทธิการเมืองถึง 10 ปี พร้อมกับการยุบพรรค ในความผิดฐานเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

แม้ถึงคะแนนนิยมของหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งตั้งขึ้นมาแทนพรรคก้าวไกล จะร่วงจากอันดับ 1 มาเป็นอันดับ3 แต่พรรคประชาชนก็ยังเป็นอันดับ 1 และเชื่อว่า การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป จะเป็นการต่อสู้ อย่างเข้มข้น ระหว่างเพื่อไทยกับประชาชน

เป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคที่ยึดแนวทาง “ประชานิยม” ลดแลกแจกแถม เพิ่งแจกเงินให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ กลุ่มผู้เปราะบาง และผู้พิการไปแล้วหลายล้านคน คนละ 1 หมื่นบาท และสัญญาจะแจกกลุ่มที่ 2 ต่อไป แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะแจกเท่าไหร่ และเมื่อใดกันแน่ แต่คุยว่านี่คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

อ้างว่าการแจกเงินครั้งมโหฬาร จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องของประชาชน แต่จะแก้ไขได้จริงหรือไม่ จะต้องพิสูจน์กันต่อไป ส่วนคู่แข่งคือพรรคประชาชน ก็คือพรรคก้าวไกลเดิม ที่เคยอ้างว่าเป็นเสรีนิยมทั้งสองพรรคในการเลือกตั้ง 2566 ที่เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งครั้งแรกในกว่าสิบปี

การเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคประชาชนประกาศรณรงค์ “เท้งทั่วไทย” จะส่งคณะ สส.ออกไปพบปะสอบถามสารสุขทุกข์ประชาชนโดยถ้วนหน้า รวมทั้งรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เช่นการลบล้างผลพวงรัฐประหาร เพิ่มมาตรการ ตรวจสอบการทุจริต คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ยกระดับประสิทธิภาพรัฐสภา

แต่ถูกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอนุรักษ์นิยมบางพรรคโจมตีว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสุดโต่ง แก้ไขเพื่อตนเอง ไม่ได้แก้ไขปัญหาประชาชนที่เดือดร้อน ถ้ามองว่าการตรวจสอบการทุจริตที่ข้นยิ่งขึ้น คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนยิ่งขึ้น เป็นการแก้ไขแบบสุดโต่ง และเพื่อตนเอง ผู้ที่ตัดสินที่ดีที่สุดคือประชาชน ตัดสินด้วยบัตรเลือกตั้ง

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม