“ณัฐพงษ์” คิกออฟแคมเปญ “เท้งทั่วไทย” ที่เขตบางแคพบประชาชน เตรียมเดินสายทั่วประเทศรวบรวมปัญหา-สร้างนโยบายที่ดีที่สุด เดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ จ่อยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ
วันที่ 29 กันยายน 2567 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สส.กรุงเทพมหานคร เขต 29 (หนองแขม-บางแค), นายธัญธร ธนินวัฒนาธร สส.กรุงเทพมหานคร เขต 30 (บางแค-ภาษีเจริญ), และนายอำนาจ ปานเผือก สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางแค พรรคประชาชน ร่วมเดินสายพบประชาชนในพื้นที่เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ตลาดหมู่บ้านเศรษฐกิจ และหมู่บ้านสุขสันต์ 6 โดยตลอดการเดินมีประชาชนมาร่วมพูดคุยให้กำลังใจ และแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่
จากนั้นพบปะประชาชนในชุมชนรวมใจริมคลอง ซอยเพชรเกษม 62/1 พร้อมเปิดวงพูดคุยรับฟังปัญหาและความต้องการของชาวชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ภายในชุมชนที่ สก. และ สส.พรรคประชาชน ได้ร่วมติดตามขับเคลื่อนมาตลอด โดยช่วงหนึ่ง นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า นี่เป็นโอกาสแรกหลังการยุบพรรคก้าวไกล ที่ตนได้กลับมาลงพื้นที่เขตบางแคอีกครั้ง คราวนี้มาในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน และการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการคิกออฟภายใต้แคมเปญ “เท้งทั่วไทย” ที่หลังจากนี้ตนจะเริ่มเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อเก็บเกี่ยวปัญหาและสอบถามสารทุกข์สุขดิบของประชาชน
...
สำหรับเขตบางแค เป็นพื้นที่ที่ทำให้ตนได้เข้าสู่เส้นทางการเมืองมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ปี 2562 ต่อมาชาวบางแคก็ได้ให้ความไว้วางใจกับพรรคก้าวไกลจนได้ สก. และยังให้ความไว้วางใจกับผู้ที่ลงสมัคร สส. แทนตนด้วย วันนี้จึงเริ่มต้นการเดินทางที่นี่ โดยเมื่อเช้าได้ไปเยี่ยมพี่น้องในหลายจุด ประชาชนสะท้อนว่าผู้แทนจากทั้งอดีตพรรคอนาคตใหม่ อดีตพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนสร้างผลงานเป็นรูปธรรมและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ มีการฝากปัญหาหลายเรื่องที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งทางผู้แทนพรรคประชาชนจะร่วมผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาต่อไป ตามความตั้งใจของตนและพรรคประชาชนที่จะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่สนว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
นายณัฐพงษ์ ระบุต่อไปว่า แม้ในฐานะพรรคการเมือง พรรคประชาชนต้องพูดนโยบายในระดับประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับตนคือการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ ที่มักติดเงื่อนไขกฎระเบียบหรืองบประมาณ ซึ่งการแก้ปัญหาของเราจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองที่ดีสามารถทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นได้จริงๆ นี่คือบทบาทของเราในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุก เพื่อส่งมอบนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดให้กับประชาชน
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงผลการสำรวจความนิยมทางการเมืองในไตรมาสที่ 3/2567 ของนิด้าโพล ที่ระบุว่า พรรคประชาชนได้ความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วน นายณัฐพงษ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับที่ 3 นายณัฐพงษ์ เผยว่า จากบริบททางการเมืองในแต่ละช่วงเวลาทำให้ผลโพลมีทั้งขึ้นและลงเป็นเรื่องปกติ ผลโพลสำหรับตนเป็นเรื่องที่รับรู้เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน เพราะเราเชื่อว่าวิธีการเดียวที่จะทำให้คะแนนความนิยมมีความมั่นคงยิ่งขึ้นได้จนถึงการเลือกตั้งปี 2570 คือการเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ หน้าที่ของเราต่อจากนี้คือการเข้าหาประชาชนและเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อไป ซึ่งตนพร้อมที่จะเดินหน้าพิสูจน์ผ่านการทำงาน และครั้งหน้าเชื่อว่าพรรคประชาชนจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้น (อ่าน : ผลนิด้าโพล คนส่วนใหญ่โหวต “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ แต่ยังหนุนพรรคประชาชน)
ส่วนความเป็นไปได้ที่ในสัปดาห์หน้าจะมีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะมีแนวทางในการทำงานอย่างไรต่อไป นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาชนจะยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขันเช่นเดิม และจะใช้เวลาส่วนหนึ่งในการลงพื้นที่พบประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งการใช้กลไกฝ่ายค้านพบประชาชนเพื่อสัญจรไปตามภูมิภาคต่างๆ แต่จะไม่ทิ้งงานในสภาฯ ทั้งการอภิปรายญัตติและร่างกฎหมาย รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคประชาชนได้รวบรวมข้อมูลไว้หลายด้านแล้ว แม้จะยังเปิดเผยไม่ได้ แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการยื่นญัตติภายในไตรมาสแรกของปี 2568 รวมถึงอาจจะมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติก่อนหน้านั้นด้วย.