“วราวุธ ศิลปอาชา” โชว์สกิลภาษามือ เปิดงานสัปดาห์คนหูหนวกโลก ชี้ หูหนวกไม่ใช่คนพิการ แค่สื่อสารต่างภาษา ตั้งเป้า มีล่ามภาษามือ 77 จังหวัด ก่อนหมดวาระ ยอมรับ มีอุปสรรคแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง ขอบคุณ “แพทองธาร” เห็นความสำคัญ วอน ประชาชนเห็นคุณค่าเงิน อย่าหมดไปกับอบายมุข
วันที่ 28 กันยายน 2567 ลานจอดรถ ห้างเดอะสตรีท รัชดา สมาคมหูหนวกแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จัดงานวันภาษามือโลก และงานสัปดาห์หูหนวกโลก ประจำปี 2567 “Sign Up for Sign Language, Rights” โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธาน นายวิทยุต บุนนาค นายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาชีวิตคนพิการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้พิการด้านการได้ยิน เข้าร่วมงาน
นายวิทยุต กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เพื่อให้คนหูหนวก คนหูดีได้ซึมซับและพบกันในช่วงสุดท้ายของเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงของการจัดตั้งองค์กร World Federation of the Deaf (WFD) พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่มีมติให้ปี 2017 เป็นวันภาษามือโลกของประเทศไทย
...
ด้านนายวราวุธ แนะนำตัวเป็นภาษามือกับกลุ่มผู้พิการบนเวที และกล่าวถึงความรู้สึกที่เห็นว่าคนหูหนวกมีโอกาสมากกว่าผู้อื่น ที่ผ่านมาตนเคยได้สอนคนพิการ ไม่ว่าจะเป็นคนที่หูหนวก เป็นใบ้ หรือพิการรูปแบบอื่นไปดำน้ำ ตนเห็นเขาเหล่านั้นพูดคุยกันสนุกสนานอยู่ใต้น้ำ แต่คนปกติกลับทำไม่ได้ การใช้ภาษามือนี้ตนจึงเชื่อว่าจะเป็นพลังสำคัญ แต่สังคมไทยอาจจะยังไม่ฉลาดพอที่จะนำไปใช้ จึงอยากผลักดันให้ภาษามือของคนไทย หรือประเทศใดก็ตาม ได้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการทำงานได้อย่างไร
หวังว่าคนหูหนวกจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย และการเดินหน้าของประเทศจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมศักยภาพการใช้ภาษามือ แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้ที่เข้าใจภาษามือ 100,000 จาก 400,000 คน แต่ในขณะที่ตนเองยังคงเป็นรัฐมนตรี ขณะนี้ขอเพิ่มล่ามภาษามือแค่ 1,000 คนก็ถือเป็นที่เพียงพอ
นายวราวุธ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน โดยระบุว่า จากการทำงานตนไม่ได้เห็นคนหูหนวกเป็นผู้พิการ เพียงแต่มีการสื่อสารที่ต่างจากคนทั่วไป ตรงกันข้ามคนหูหนวกนั้นมีเสรีภาพในการทำงานที่อาจจะมากกว่าคนปกติ มีความได้เปรียบในการทำงานในบางพื้นที่ วันนี้ตนถือโอกาสในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวง พม. อยากให้พี่น้องคนพิการได้เข้าใจภาษามือมากขึ้น เพื่อที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพราะความสำเร็จทางธุรกิจไม่ใช่การได้กำไร แต่คือการพัฒนาไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
สำหรับการเพิ่มจำนวนล่ามภาษามือหลังจากนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ใช่การที่จะมีแค่คนสื่อสารภาษามือ แต่ต้องเป็นล่ามภาษามือ โดยตั้งใจว่าระยะเวลาที่เหลือในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จะต้องมีล่ามภาษามือให้ได้ทุกจังหวัด เพื่อที่บุคคลเหล่านั้นจะได้ดูแลตัวเองพิทักษ์สิทธิ์ของตนและครอบครัวได้ ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีการหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อที่จะสร้างกลไกในการจัดสรรค่าตอบแทนให้กับล่ามภาษามือในอนาคต
ในช่วงท้ายได้มีตัวแทนจากคณะกรรมการสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย สอบถามด้วยภาษามือ เห็นประโยชน์ในการจัดงานครั้งนี้ โดยนายวราวุธ ตอบว่า การจัดการครั้งนี้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ต่อไปนี้ตนจะไม่คิดว่าคนหูหนวกเป็นคนพิการ เพียงแค่สื่อสารคนละภาษา ซึ่งท่านเข้าใจในภาษาที่ตนพูดก็ถือว่าได้เปรียบ และการมาในวันนี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าภาษาคืออะไรแล้วจะต้องเร่งเพิ่มผู้ที่ใช้ภาษามือให้มากขึ้น พร้อมฝากไปถึงพี่น้องคนหูหนวกที่ยังไม่เข้าใจภาษา ให้มาเรียนการสื่อสารด้านนี้เพื่อที่อีก 300,000 คน จะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้นายวราวุธ ยังให้สัมภาษณ์ถึงอุปสรรคในการแจกเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในกลุ่มเปราะบางทั้ง 3 วันที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าอาจจะมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในบางบัญชี หรือชื่อไม่ตรงกับสมุดบัญชีธนาคาร แต่หากผู้พิการมายื่นขอสิทธิ์ก่อนวันที่ 3 ธันวาคม ก็จะสามารถใช้สิทธิ์กลุ่มเปราะบางในการรับเงินได้
นายวราวุธ ยังขอบคุณไปยัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้พิการ และฝากไปยังประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ว่าเป็นเงินจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เงินที่ลอยมาจากไหน ขอให้ใช้เงินนี้อย่างคุ้มค่า อย่าเพิ่งหมดกับการซื้อเหล้า ซื้อหวย