วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “การเตรียมตัวรับมือกับวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์” กันนะครับ ช่วงนี้ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำนี้บ่อยๆ อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ การเมือง การค้า การทหาร และเทคโนโลยี ผู้ที่จุดความขัดแย้งนี้ขึ้นมาก็คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจ้าของนโยบาย Make America Great Again ทำให้ ระบบการค้าเสรีของโลก (Globalization) ต้องพังทลายลง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังขยายไปสู่ สงครามเย็น สงครามร้อน ในหลายภูมิภาค เช่น สงครามรัสเซียยูเครนในยุโรป สงครามในตะวันออกกลาง อิสราเอลกับปาเลสไตน์ และฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งความขัดแย้งในอาเซียนและเอเชีย

ความขัดแย้งเหล่านี้นับวันจะรุนแรงขึ้น จนมีคนกลัวกันว่าจะเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 ในคอลัมน์ World Exclusive ของ วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนกันยายน ได้พาไปดู “การรับมือกับวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์” ของประเทศคู่ขัดแย้งหลักอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป จีน ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง ผมอ่านแล้วก็ขออนุญาตนำมาถ่ายทอดต่อเล่าสู่กันฟัง

สหรัฐฯในช่วง 7 ปีเศษที่ผ่านมา นับตั้งแต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีต่อเนื่องมาจนถึง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สร้างความขัดแย้งขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก แล้วสหรัฐฯก็เป็นผู้ขายอาวุธให้ เป็นผู้สนับสนุนสงครามอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน เพื่อหวังโค่นล้มจีนและรัสเซีย ที่ขึ้นมามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยก้าวหน้ามาก ทำให้สหรัฐฯกลัวจีนอย่างมาก

แม้สหรัฐฯจะเป็นผู้ก่อ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ขึ้นมาเอง แต่ชาวอเมริกันกลับเป็นกลุ่มคนที่มีความตื่นกลัวความขัดแย้งนี้มากที่สุด มีการเตรียมตัว รับมือกับสงครามที่จะมาถล่มสหรัฐฯ เพราะรู้ตัวดีว่า ผู้นำประเทศลุงแซมชอบไปจุ้นจ้านสร้างความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ เต็มไปหมด จึงมีโอกาสที่จะถูกโจมตีหรือลอบโจมตีได้ทุกเมื่อตลอดเวลา

...

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวอเมริกันที่ร่ำรวย มหาเศรษฐีไฮโซ ทั้งหลาย มีการสร้าง “บังเกอร์หลุมหลบภัย” เป็นของตนเองและครอบครัวกันเป็นจำนวนมาก แม้แต่เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียอย่าง Mark Zuckerberg แห่ง Meta เจ้าของ Facebook Instagram ก็ได้ลงทุนสร้างบังเกอร์หลุมหลบภัยขนาดใหญ่ 450 ตารางเมตร ที่ฟาร์มปศุสัตว์ของเขาที่เกาะฮาวาย ห่างจากแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯไปหลายพันกิโลเมตร ความกลัวนี้ยังลามเข้าไปในกลุ่มเศรษฐีไฮโซยุโรป เมื่อรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในปี 2022 สู้รบกันมาจนถึงวันนี้

ชาวเมืองเบียร์เยอรมัน เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ตื่นกลัวสงครามมาก มีการว่าจ้างสร้างบังเกอร์หลบภัยไว้ในห้องลับใต้ดินกันมากมาย ทำให้บริษัท Bunkers Shelters System Germany (BSSD) รับงานจนล้นมือ นายมาริโอ เจ้าของบริษัท บอกว่า เขาทำธุรกิจสร้างบังเกอร์มาตั้งแต่ปี 2014 พอเกิดสงครามรัสเซียยูเครนก็มีคนมาจ้างให้สร้างบังเกอร์กันมากมาย ยอดสั่งซื้อบังเกอร์เพิ่มขึ้น 3 เท่าอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมีลูกจ้างเพียง 100 คน ก็ต้องเพิ่มคน ตอนนี้มหาเศรษฐีเยอรมันนิยมสร้างห้องหลบภัยที่มั่นคง แทนการสร้างสระว่ายน้ำที่หรูหราในบ้านกันแล้ว เพราะสงครามอาจลามมาเยือนได้ทุกขณะ

ในเอเชียประเทศที่เตรียมรับมือกับวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์สูงสุด หนีไม่พ้นแดนมังกรประเทศจีน ที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ประเด็นที่จีนให้ความสำคัญมากที่สุดไม่ใช่หลุมหลบภัย แต่เป็นข้าวปลาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ ช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา จีนสั่งซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และอาหารมาตุนไว้มากมาย ตั้งแต่ปี 2020 จีนเพิ่มน้ำมันสำรองสูงถึง 2 พันล้านบาร์เรล ก๊าซ 15,000 ล้าน ลบ.ม. ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 55,000 ล้าน ลบ.ม. และ 85,000 ล้าน ลบ.ม. ในปี 2030 ข้าวสาลีและข้าวโพดจีนก็สต๊อกไว้มากถึง 51% และ 67% ของสต๊อกโลก แร่ธาตุสำคัญก็สต๊อกไว้มากมายเช่นกัน เพื่อผลิตสินค้าเทคโนโลยีและอาวุธ

ประเทศไทยของเรา รัฐบาลคงยังไม่มีอะไรอยู่ในสมองมั้ง จึงยังไม่ได้ยินข่าวอะไร การประชุมองค์การสหประชาชาติ ในสัปดาห์นี้ ผู้นำของเราก็ไม่ได้ไปร่วมโชว์ศักยภาพในเวทียูเอ็น.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม